ผู้จัดการรายวัน360- ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" 2 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีออกหนังสือเดินทางให้ "ทักษิณ ชินวัตร" ชี้เจตนาช่วยเหลือผู้ต้องโทษให้ได้รับความสะดวกในการเดินทางต่างประเทศ บั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท ห้ามออกนอกประเทศ
วานนี้ (19มิ.ย.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อม.51/2560 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ เมื่อต้นเดือน ก.พ.60 ชี้มูลความผิดทางอาญา นายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4)คดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือน มี.ค.60
โดยองค์คณะผู้พิพากษาฯ พิจารณาแล้วมีมติเสียงข้างมาก ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 (เดิม) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า การกระทำความผิดของจำเลย มีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งหลบหนีให้สามารถเดินทางในต่างประเทศได้สะดวก และเป็นผลบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ ซึ่งขณะนี้ทนายความของนายสุรพงษ์ อยู่ระหว่างยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวเพื่อ อุทรณ์คดี
นายปรีชา ศรีเจริญ ทนายความของนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวนายสุรพงษ์ โดยตีราคาประกัน 5 ล้านบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล โดยหลักทรัพย์เดิมเราวางไว้ 3 ล้านบาท ก็จะเพิ่มเงินสดอีก 2 ล้านบาทรวมเป็น 5 ล้านบาทเข้าไป ขณะนี้อยู่ระหว่างทำเรื่องวางหลักประกัน
นายปรีชา เปิดเผยว่าทีมทนายจะประชุมว่าประเด็นที่ศาลพิพากษาในวันนี้ ยังมีเนื้อหาที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาในประเด็นใดบ้างโดยเฉพาะประเด็นขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ กรณีขอให้ศาลฎีกาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยข้อกฎหมายเนื่องจากคำร้องที่ขอไปก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีคำวินิจฉัย เป็นเพียงศาลฎีกาเป็นผู้ตีความว่าไม่ควรส่งไป ทั้งนี้จะได้รอคำพิพากษาฉบับเต็ม แต่ไม่แน่ใจว่าจะยื่นอุทธรณ์ทันกำหนดเวลาหรือไม่
วานนี้ (19มิ.ย.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อม.51/2560 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ เมื่อต้นเดือน ก.พ.60 ชี้มูลความผิดทางอาญา นายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4)คดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือน มี.ค.60
โดยองค์คณะผู้พิพากษาฯ พิจารณาแล้วมีมติเสียงข้างมาก ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 (เดิม) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า การกระทำความผิดของจำเลย มีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งหลบหนีให้สามารถเดินทางในต่างประเทศได้สะดวก และเป็นผลบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ ซึ่งขณะนี้ทนายความของนายสุรพงษ์ อยู่ระหว่างยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวเพื่อ อุทรณ์คดี
นายปรีชา ศรีเจริญ ทนายความของนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวนายสุรพงษ์ โดยตีราคาประกัน 5 ล้านบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล โดยหลักทรัพย์เดิมเราวางไว้ 3 ล้านบาท ก็จะเพิ่มเงินสดอีก 2 ล้านบาทรวมเป็น 5 ล้านบาทเข้าไป ขณะนี้อยู่ระหว่างทำเรื่องวางหลักประกัน
นายปรีชา เปิดเผยว่าทีมทนายจะประชุมว่าประเด็นที่ศาลพิพากษาในวันนี้ ยังมีเนื้อหาที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาในประเด็นใดบ้างโดยเฉพาะประเด็นขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ กรณีขอให้ศาลฎีกาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยข้อกฎหมายเนื่องจากคำร้องที่ขอไปก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีคำวินิจฉัย เป็นเพียงศาลฎีกาเป็นผู้ตีความว่าไม่ควรส่งไป ทั้งนี้จะได้รอคำพิพากษาฉบับเต็ม แต่ไม่แน่ใจว่าจะยื่นอุทธรณ์ทันกำหนดเวลาหรือไม่