ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กป้อม" โยนรัฐบาลเลือกตั้ง ชง "นิรโทษกรรม" ส่วนรัฐบาลแห่งชาติ เป็นเรื่องทุกพรรคร่วมมือกัน ท้าคำขู่ฉีก "ยุทธศาสตร์ชาติ-รัฐธรรมนูญ" ฉีกได้ฉีกไป สวนพวกเหน็บเอารุ่นเก๋าเขียนยุทธศาสตร์ ชี้ตอนร่างคิดแบบคนอายุ 20 "มาร์ค"ไม่แปลกใจ "เอนก"พร้อมลืมอดีตและจับมือ พท. ดันนิรโทษกรรม ย้อนถามสมาชิก รปช. เห็นด้วยหรือไม่ อัดยุทธศาสตร์ชาติ เขียนไม่เคลียร์ จนไม่เป็นยุทธศาสตร์ เชื่อมีการปรับแก้แน่
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงกรณีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ แกนนำก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เสนอให้มีนิรโทษกรรม เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง ว่า ถ้าจะทำ ก็ทำ แต่ควรเป็นเรื่องของรัฐบาลเลือกตั้ง ส่วนจุดประสงค์เขาเป็นอย่างไร ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายเอนก และตนก็ไม่ได้อยู่พรรคนี้
เมื่อถามว่า การที่บอกว่าเรื่องนี้ควรเกิดจากรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้ง หมายความว่า เกิดขึ้นได้ และน่าจะนำไปสู่หนทางปรองดอง และยุติความขัดแย้งได้ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ คุณคิดของคุณเอง คิดแบบนั้นใช่ไหม ส่วนจะเป็นสัญญาณบวกต่อประเทศไทยหรือไม่ ไม่รู้ แล้วแต่คนมอง
เมื่อถามว่า ส่วนที่นายเอนก บอกว่ารัฐบาลที่จะเกิดขึ้นวันข้างหน้า น่าจะเป็นรัฐบาลแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องไปดูก่อนว่า จะทำได้อย่างไร ต้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมมือกัน ส่วนตอนนี้ ก็ปรองดองแล้ว เดี๋ยวก็ปรองดอง ตอนนี้ก็ไม่เห็นมีอะไร มีคนคิดแตกแยก ไม่กี่คน
เมื่อถามว่า การเชิญพรรคการเมืองพูดคุยเรื่องการเลือกตั้งปลายเดือนมิ.ย.นี้ ได้สถานที่หรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่บอกว่าเป็นเมื่อไหร่ สถานที่ไหน เอาเป็นว่า ที่บอกว่าเป็นปลายเดือนมิ.ย.ก็คือปลายเดือนมิ.ย. จะเอาอะไรอีก
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีมีการออกมาต่อต้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และระบุว่า ควรให้รัฐบาลใหม่เป็นคนร่างยุทธศาสตร์ชาติ ว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยมียุทธศาสตร์ อันนี้เรามาเริ่มต้นให้ ถ้าสมมุติอันไหนทำไม่ได้ รัฐบาลใหม่ก็ไปแก้ ซึ่ง 5 ปี ก็แก้ได้ ส่วนที่ขู่จะฉีกยุทธศาสตร์ชาติและรัฐธรรมนูญนั้น "ฉีกได้ก็ฉีกไป"
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า ยุทธศาสตร์ชาติคนที่จะใช้ คือ คนอายุ 20-40 ปี แต่เอาคนมีอายุมาร่าง พล.อ.ประวิตร กล่าวสวนทันทีว่า คนมีอายุก็คิดเหมือนคนอายุ 20 ปี เหมือนกัน ทำไมต้องมาว่า คนอายุ 60 ปี จะต้องคิดแบบคนอายุ 60 ปี เขาคิดแล้วว่า เหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ใครจะไปคิดถอยหลัง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายอเนกระบุว่า ไม่ขัดข้องที่จะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และจะทำกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า กลุ่มคนที่ไปทำพรรคนี้ ส่วนใหญ่บอกว่าผลักดันการปฏิรูป และสู้กับระบอบทักษิณ แต่นายเอนก พูดเสมอว่า จะทำพรรคแบบลืมอดีต แต่ตอนนี้ท่าทีของนายเอนก บอกว่า พร้อมจะจับมือกับทุกพรรค พร้อมลืมอดีต และพูดถึงเรื่องนิรโทษกรรม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะว่าในการทำงานของนายเอนกที่ผ่านมา มีหลายสถานะ ก็ได้เสนอความคิดทำนองนี้ ฉะนั้น ก็อยู่ที่สมาชิก รปช. เองว่าเห็นด้วยหรือไม่ และการที่จะทำเรื่องนิรโทษกรรม หรือปรองดอง มันสลายขั้ว หรือกลุ่มการเมืองจริงหรือไม่ ตนสนับสนุนให้นิรโทษกรรมคดีของประชาชนเล็กน้อย แต่ในเรื่องของบางคดี ถ้าเรานิรโทษกรรม ก็เหมือนกับเรากำลังส่งสัญณาณให้ใช้ความรุนแรง ในที่สุดก็ไม่มีความผิด หรือคดีทุจริต แม้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเมือง แต่เป็นการปล้นทรัพยากรของแผ่นดิน เพียงเพราะเขามีอำนาจ อันนี้อันตรายมาก
ส่วนร่างยุทธศาสตร์ชาติ ตนดูแล้วเขียนออกมาก็ไม่ค่อยเป็นยุทธศาสตร์ เพราะการเป็นยุทธศาสตร์ต้องมาจัดลำดับความสำคัญว่า ต่อไปนี้ทิศทางจะเดิน ต้องไปอย่างนี้ ทรัพยากรที่ใช้ต้องไปอย่างนี้ และยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่เขียนมา เหมือนนั่งไล่เรียงสิ่งที่อยากให้เกิด สิ่งที่อยากจะได้ และ 6 ข้อที่ว่า ใครไม่อยากได้บ้าง แต่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร และมีการบังคับกันจริงจังแค่ไหน ตนถึงบอกว่า เขาพยายามเขียนให้กว้างเลยไม่ค่อยเป็นยุทธศาสตร์ สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ถ้าเอามาเป็นเงื่อนไขทางการเมือง ก็จะเกิดความยุ่งยากขึ้น โดยจุดยืนของพรรค ยืนยันว่า จะมีการนำเสนอนโยบายในการเลือกตั้ง ถ้าประชาชนเห็นพ้อง ก็ต้องไปปรับแก้ ซึ่งในใจเห็นว่าทั้งรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติ คงต้องมีการปรับแก้แน่ แต่ไม่อยากให้สังคมกระโดดเข้าไป พอหลังการเลือกตั้งปั๊บ ก็เอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นสัญลักษณ์ความขัดแย้งรอบใหม่ สุดท้ายประชาชนคนไทยกับประเทศ ก็เสียโอกาสในเรื่องอื่นๆ อีก
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่าการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญกว้างเกินไป ว่า ก็แก้ได้ โดยบอกไปทางรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่า เรื่องนี้สามารถพูดคุยกัน เพราะยุทธศาสตร์ชาติตามหลักนั้นต้องกว้าง จะไปบอกวิธี คงไม่ได้ ส่วนการคาดการณ์การเลือกตั้งว่าจะทำให้ได้ ส.ส. กระจัดกระจาย ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก เป็นเพียงการคาดเดา เพราะยังไม่มีการเลือกตั้ง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงกรณีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ แกนนำก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เสนอให้มีนิรโทษกรรม เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง ว่า ถ้าจะทำ ก็ทำ แต่ควรเป็นเรื่องของรัฐบาลเลือกตั้ง ส่วนจุดประสงค์เขาเป็นอย่างไร ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายเอนก และตนก็ไม่ได้อยู่พรรคนี้
เมื่อถามว่า การที่บอกว่าเรื่องนี้ควรเกิดจากรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้ง หมายความว่า เกิดขึ้นได้ และน่าจะนำไปสู่หนทางปรองดอง และยุติความขัดแย้งได้ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ คุณคิดของคุณเอง คิดแบบนั้นใช่ไหม ส่วนจะเป็นสัญญาณบวกต่อประเทศไทยหรือไม่ ไม่รู้ แล้วแต่คนมอง
เมื่อถามว่า ส่วนที่นายเอนก บอกว่ารัฐบาลที่จะเกิดขึ้นวันข้างหน้า น่าจะเป็นรัฐบาลแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องไปดูก่อนว่า จะทำได้อย่างไร ต้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมมือกัน ส่วนตอนนี้ ก็ปรองดองแล้ว เดี๋ยวก็ปรองดอง ตอนนี้ก็ไม่เห็นมีอะไร มีคนคิดแตกแยก ไม่กี่คน
เมื่อถามว่า การเชิญพรรคการเมืองพูดคุยเรื่องการเลือกตั้งปลายเดือนมิ.ย.นี้ ได้สถานที่หรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่บอกว่าเป็นเมื่อไหร่ สถานที่ไหน เอาเป็นว่า ที่บอกว่าเป็นปลายเดือนมิ.ย.ก็คือปลายเดือนมิ.ย. จะเอาอะไรอีก
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีมีการออกมาต่อต้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และระบุว่า ควรให้รัฐบาลใหม่เป็นคนร่างยุทธศาสตร์ชาติ ว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยมียุทธศาสตร์ อันนี้เรามาเริ่มต้นให้ ถ้าสมมุติอันไหนทำไม่ได้ รัฐบาลใหม่ก็ไปแก้ ซึ่ง 5 ปี ก็แก้ได้ ส่วนที่ขู่จะฉีกยุทธศาสตร์ชาติและรัฐธรรมนูญนั้น "ฉีกได้ก็ฉีกไป"
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า ยุทธศาสตร์ชาติคนที่จะใช้ คือ คนอายุ 20-40 ปี แต่เอาคนมีอายุมาร่าง พล.อ.ประวิตร กล่าวสวนทันทีว่า คนมีอายุก็คิดเหมือนคนอายุ 20 ปี เหมือนกัน ทำไมต้องมาว่า คนอายุ 60 ปี จะต้องคิดแบบคนอายุ 60 ปี เขาคิดแล้วว่า เหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ใครจะไปคิดถอยหลัง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายอเนกระบุว่า ไม่ขัดข้องที่จะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และจะทำกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า กลุ่มคนที่ไปทำพรรคนี้ ส่วนใหญ่บอกว่าผลักดันการปฏิรูป และสู้กับระบอบทักษิณ แต่นายเอนก พูดเสมอว่า จะทำพรรคแบบลืมอดีต แต่ตอนนี้ท่าทีของนายเอนก บอกว่า พร้อมจะจับมือกับทุกพรรค พร้อมลืมอดีต และพูดถึงเรื่องนิรโทษกรรม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะว่าในการทำงานของนายเอนกที่ผ่านมา มีหลายสถานะ ก็ได้เสนอความคิดทำนองนี้ ฉะนั้น ก็อยู่ที่สมาชิก รปช. เองว่าเห็นด้วยหรือไม่ และการที่จะทำเรื่องนิรโทษกรรม หรือปรองดอง มันสลายขั้ว หรือกลุ่มการเมืองจริงหรือไม่ ตนสนับสนุนให้นิรโทษกรรมคดีของประชาชนเล็กน้อย แต่ในเรื่องของบางคดี ถ้าเรานิรโทษกรรม ก็เหมือนกับเรากำลังส่งสัญณาณให้ใช้ความรุนแรง ในที่สุดก็ไม่มีความผิด หรือคดีทุจริต แม้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเมือง แต่เป็นการปล้นทรัพยากรของแผ่นดิน เพียงเพราะเขามีอำนาจ อันนี้อันตรายมาก
ส่วนร่างยุทธศาสตร์ชาติ ตนดูแล้วเขียนออกมาก็ไม่ค่อยเป็นยุทธศาสตร์ เพราะการเป็นยุทธศาสตร์ต้องมาจัดลำดับความสำคัญว่า ต่อไปนี้ทิศทางจะเดิน ต้องไปอย่างนี้ ทรัพยากรที่ใช้ต้องไปอย่างนี้ และยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่เขียนมา เหมือนนั่งไล่เรียงสิ่งที่อยากให้เกิด สิ่งที่อยากจะได้ และ 6 ข้อที่ว่า ใครไม่อยากได้บ้าง แต่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร และมีการบังคับกันจริงจังแค่ไหน ตนถึงบอกว่า เขาพยายามเขียนให้กว้างเลยไม่ค่อยเป็นยุทธศาสตร์ สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ถ้าเอามาเป็นเงื่อนไขทางการเมือง ก็จะเกิดความยุ่งยากขึ้น โดยจุดยืนของพรรค ยืนยันว่า จะมีการนำเสนอนโยบายในการเลือกตั้ง ถ้าประชาชนเห็นพ้อง ก็ต้องไปปรับแก้ ซึ่งในใจเห็นว่าทั้งรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติ คงต้องมีการปรับแก้แน่ แต่ไม่อยากให้สังคมกระโดดเข้าไป พอหลังการเลือกตั้งปั๊บ ก็เอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นสัญลักษณ์ความขัดแย้งรอบใหม่ สุดท้ายประชาชนคนไทยกับประเทศ ก็เสียโอกาสในเรื่องอื่นๆ อีก
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่าการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญกว้างเกินไป ว่า ก็แก้ได้ โดยบอกไปทางรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่า เรื่องนี้สามารถพูดคุยกัน เพราะยุทธศาสตร์ชาติตามหลักนั้นต้องกว้าง จะไปบอกวิธี คงไม่ได้ ส่วนการคาดการณ์การเลือกตั้งว่าจะทำให้ได้ ส.ส. กระจัดกระจาย ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก เป็นเพียงการคาดเดา เพราะยังไม่มีการเลือกตั้ง