ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ผลงานเป็นคืบเป็นศอก!! คนไทยขาขึ้น (ก่ายหน้าผาก) ราคาพลังงานพาเหรดขึ้น “น้ำมัน-แอลพีจี-ไฟฟ้า” ดีเซล จ่อทะลุ 30 บาท “บิ๊กป๊อก” ยุส่ง ลิตรละ 40 กว่าบาทก็มีมาแล้ว ก่อน “ก.พลังงาน” กลับลำ ดึงกองทุนน้ำมันอุ้ม “ดีเซล” สอดรับโพลฟ้องคนไทยความสุขลด
ตามกันมาติดๆ .. ของขวัญครบรอบ 4 ปี รัฐประหาร คสช. ทั้งราคา “น้ำมัน” ที่แพงขึ้นที่สุดในรอบ 3 ปีกว่า แถมยังจูงเอาเพื่อนรักอย่าง “แก๊สหุงต้ม” (แอลพีจี) ราคาติดปีกไปด้วย .. ยังไม่พอ ยังมี “ข่าวดี” จาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ออกมาเตือนประชาชนรับมือต้นทุนค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ใน 6 เดือนข้างหน้า .. ทั้งหมดทั้งมวลก็มี “ข้ออ้าง” เดียวกันว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อยู่ในช่วง “ขาขึ้น” แนวโน้มปรับใกล้แตะ $80 ต่อบาร์เรล .. แล้วถ้าคำทำนายของ “ซีอีโอโททาล” ว่า อีกไม่กี่เดือนแตะ $100 ต่อบาร์เรลแน่ ถึงเวลานั้นคงเป็น “ขาขึ้น (ก่ายหน้าผาก)” สำหรับคนไทย เช่นกัน .. ก็ด้วยท่าทีของ “ฝ่ายรัฐ” ดูจะโนสน-โนแคร์ ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยักไหล่ว่า น้ำมันแพง ไม่ใช่ความผิดรัฐบาล .. ตามมาด้วย “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รอง คสช. ที่ให้ท้าย “ลิตรละ 40 กว่าบาทก็มีมาแล้ว” .. กระแสเลยตีกลับเละเทะว่า เป็นมุมมองของคนที่ไม่เคยควักกระเป๋าเติมน้ำมัน ด้วยมีอำนาจวาสนาได้ใช้ “เงินหลวง” ส่วนประชาชนตาดำๆ จะตายหยั่งเขียดกันหมดแล้ว ..
บอกเลยเรื่องราคาพลังงาน ทุกวันนี้คนไทยก็รับได้กับการปรับโครงสร้างราคาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ข่าวสารมีดู รู้ว่าแนวโน้มราคาตลาดโลกเป็นอย่างไร .. แต่ครั้นจะขึ้นพรวดๆ ตามอย่างเขาก็ใช่ที่ ต้องดูด้วยว่า 4 ปีผ่านมา เงินในกระเป๋าคนไทยหดหายไปขนาดไหน .. ณ จุดๆ หนึ่ง “ภาครัฐ” ก็มีหน้าที่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยบ้าง ไม่ใช่ท่องคาถา “ขอให้ร่วมกันประหยัดพลังงาน” แบบคนไม่มีกึ๋น .. ไม่รู้เพิ่งตื่น หรือเห็นท่าไม่ดี ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ก็เลยเพิ่งประกาศจะใช้เงิน “กองทุนน้ำมัน” อุ้มราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท เพื่อไม่ให้กระทบ “ภาคขนส่ง – รากหญ้า” พร้อมกลับลำให้แจ้งปรับราคาน้ำมันล่วงหน้าได้ .. ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร แต่ถ้าให้ดีก็ดูให้รอบ ไปถึงราคาพลังงานตัวอื่นๆด้วย เพราะเอาแค่เรื่องต้นทุนพลังงานอย่างเดียว ก็ประดังประเด กลายเป็น “แพ็กเกจคืนความสุข” ที่คนไทยได้แต่ “ยิ้มทั้งน้ำตา” .. สะท้อนผ่านผลสำรวจ "นิด้าโพล - สวนดุสิตโพล" ที่ออกมาคล้ายคลึงกันว่า ประชาชนพอใจในเรื่องบ้านเมืองสงบ .. แต่ก็ไม่พอใจปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างรุนแรง “นิด้าโพล” ทีหลังๆ หนักไปทาง “เชลียร์” ยังระบุว่า คนไทยมีความสุขลดลงด้วยซ้ำ
** ทำให้เด็กมันดู!! “เสือเฒ่า-มหาเธร์” ไล่เช็กบิล ”นาจิบ” ทุจริต 1 MDB โชว์ความเด็ดขาด ที่ “ทหารไทย” เทียบไม่ติด ตั้งแต่รัฐประหาร 2549 จนถึง 2557 บทสรุป “เสียของ” ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะ “เสือตะวันออก” รัฐบาล คสช. ที่อำนาจล้น-เวลาเพียบ ยังปล่อยเสียของคามือ
ราวกับติดเทอร์โบ .. มีมูฟเมนต์รายวันสำหรับการรีเทิร์น ขึ้นสู่อำนาจของ “เสือเฒ่า” มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกฯมาเลเซีย ในวัย 92 ปี .. หากแต่ความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่น่าสนใจเท่าปฏิบัติการ “เช็กบิล” อดีตนายกฯคนก่อน นาจิบ ราซัค ที่เคยเป็นเด็กปั้นของ “ดร.เอ็ม” เอง .. ตามที่ได้เคยประกาศเดินหน้าสอบสวนกรณีอื้อฉาวกองทุน 1MDB ของรัฐบาล ที่ “นาจิบ” ถูกกล่าวหาว่าโยกเงินจากองทุนเข้ากระเป๋าตัวเอง $700 ล้าน หรือราว 22,400 ล้านบาท .. ตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ประเทศอย่างเป็นทางการ ก็โชว์ “ความเด็ดขาด” ด้วยการสั่ง "ขึ้นบัญชีดำ" ห้าม “นาจิบ” และครอบครัวออกนอกประเทศเด็ดขาด .. พร้อมให้เจ้าหน้าที่ประกบอดีตนายกฯ อย่างไม่วางตา ไม่ให้หลุดรอดออกทาง “ช่องทางธรรมชาติ” เหมือนประเทศแถวๆ นี้ .. ก่อนที่ตำรวจมาเลย์จะปูพรมเข้าตรวจค้นเคหะสถานหลายแห่งที่เป็นของ “นาจิบ” พบของกลาง ที่มีทั้งกระเป๋าหรูหลายร้อยใบ เงินสดหลายสกุล เครื่องประดับ และสิ่งของมีค่า อีกเพียบ .. จัดหนัก-จัดเต็มขนาดนี้ อนาคตของ “นาจิบ” คงไม่พ้นคำทำนายของ อันวาร์ อิบราฮิม คู่ปรับการเมืองคนสำคัญ ที่ว่า ยึดทรัพย์-ติดคุกแน่นอน ..
ไม่เท่านั้น ยังเดินเกมรุกแบบไม่ให้หายใจ ด้วยการตั้ง “หน่วยเฉพาะกิจ” ขึ้นมาสางคดีโกงกองทุน 1MDB ที่ประเดิมงานแรกด้วยการเรียก “นาจิบ” มาสอบกรณีเงิน $10 ล้าน โผล่ในบัญชีส่วนตัว .. เป็น “หน่วยเฉพาะกิจ” ที่น่าจะไม่ใช่ ก็ใกล้เคียงการตั้ง “คตส.” ที่มาไล่เบี้ย “ระบอบทักษิณ” ของคณะรัฐประหาร เมื่อปี 2549 ของไทย .. ต่างกันหน่อยก็ตรงของเรามาจากการยึดอำนาจ ส่วนทางนู้นมาตามกระบวนการเลือกตั้งปกติ .. และที่น่าจะต่างกันฟ้ากับเหว ก็ของเราทำ “เสียของ” ทำกันแบบ “ไม่สะเด็ดน้ำ” ก่อนส่งไม้ต่อให้ ป.ป.ช. จนหลายคดีถูกตีตกไปอย่างไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางกระแสข่าว “เกี้ยะเซียะ” กันอยู่เนืองๆ .. ไม่ต่างจากรัฐประหาร ปี 2557 ที่อาจจะพอสรุปได้แล้ววว่า คสช. ก็ “เสียของ” ไม่ต่างจาก “นักรัฐประหารรุ่นพี่” .. ทั้งที่อำนาจเต็ม-เวลาเพียบ แต่วาระปฏิรูปที่ไม่เดิน การปราบโกงไม่กระดิก ความเด็ดขาดไม่ได้ครึ่งของ “ผู้นำเสือเหลือง” .. ที่แซวๆ กันว่า “มหาเธร์” ทำงาน 2 วัน มากกว่าที่ คสช.ทำมา 4 ปี ก็ไม่ได้ห่างไกลจากความจริงเท่าไร
**แบบนี้เข้าทาง!! “ม็อบอยากเลือกตั้ง” ไปไม่ถึงฝั่ง เจอ “พี่ตำรวจ” มาเป็นกองทัพ หมายให้ภาพออกมา “เกินเลยความเป็นจริง” ตามแผน “คนไม่พร้อม” เข้าสู่สังเวียนเลือกตั้ง เป็น “ข้ออ้าง” ยืดเวลา ขยายโรดแมป เป็นอานิสงส์ ต่อวีซ่าให้ คสช. อีกต่างหาก
พอหอมปากหอมคอ .. มีฉากบู๊กันบ้างประปราย กับภารกิจ “ม็อบอยากเลือกตั้ง” ที่ไม่บรรลุเป้าหมาย ในการไปเช็กอิน ประกาศเจตนารมณ์ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล .. ทำได้ดีที่สุด คือมวลชนกลุ่มหนึ่งที่ไปสุดทางที่ “สะพานมัฆวานฯ” ส่วน “ทัพใหญ่” ไปไม่ถึง กองกันอยู่ที่หน้า ม.ธรรมศาสตร์ .. ก่อนที่ “แกนนำ” รวม 14 คนนำโดย “รังสิมันต์ โรม - จ่านิว สิริวิทย์” จะ “เปิดวาร์ป” ถูกควบคุมตัวไปอยู่ สน.กันถ้วนหน้า .. ในมุมของผู้ชุมนุมก็ถือว่า “น่าพอใจ” กับการสร้าง “อีเวนต์” จนเป็นกระแสชิงพื้นที่ข่าวได้ตลอดทั้งวัน และได้ “องค์กรเมืองนอก” รับลูกประณามรัฐบาล คสช.ทันที ราวกับนัดกันไว้ .. ต้องไม่ลืมว่า งานนี้ใช้ “แกนนำเด็ก” ออกหน้าล้วนๆ หรืออาจจะมี “ทีมพิเศษ” คอยประคองอยู่ห่างๆ ก็ตาม แต่ก็ทำให้ “รัฐบาลทหาร” ดูจะตื่นตูม จนเกิดภาพมาสู้รบ ตบมือกับ “เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” .. ยิ่งมีประกาศิตจาก “รองฯป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ประกาศห้ามผู้ชุมนุมเข้าใกล้ทำเนียบฯ โดยเด็ดขาด .. ทำเอา “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ขมีขมันเป็นพิเศษ ด้วยมีความหวังเล็กๆ บางประการ .. ทำ “โอเวอร์” ไประดมเจ้าหน้าที่ตำรวจมากว่า 20 กองร้อย ราวกับจะไปออกรบที่ไหน .. ตามประสา “น้ำน้อยแพ้ไฟ” แค่ประเมินด้วยสายตาก็เห็นชัดๆ ว่า “ตำรวจ” มากกว่า “ผู้ชุมนุม” เป็นเท่าตัว .. ด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มากเกินพอดี ทำให้ภาพที่ออกมาดู “เกินเลยความเป็นจริง” ไปพอสมควร ทั้งที่เทียบจำนวนกำลังต่างกันลิบลับ .. ภาพที่ “เกินเลยความจริง” มองในมุม “ม็อบอยากเลือกตั้ง” หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังอาจจะพึงพอใจ .. แต่บอกเลย “รัฐบาล คสช.” แฮปปี้มากกว่า และเจตนาให้ดูใหญ่ๆเยอะๆ แบบนี้ตั้งแต่ต้นด้วย .. อ่านไม่ยาก ก็ด้วยอารมณ์ยังไม่อยากปลดล็อกการเมือง ตลอดจนยังไม่พร้อมเข้าสู่สังเวียนเลือกตั้ง .. มีม็อบแบบนี้ออกมาก็ “เข้าทาง” กลายเป็น “ข้ออ้าง” ยืดเวลา ขยายโรดแมปได้ตามใจชอบ .. จนมีการพูดกันว่า ม็อบนี้ไม่ได้มาล้ม คสช. ตามที่ประกาศ แต่กลายเป็นตัวช่วยต่อวีซ่าให้ คสช. ต่างหาก.
++++++++++++++++
รูป-- พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
-มหาเธร์ โมฮัมหมัด
–พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล -
**ผลงานเป็นคืบเป็นศอก!! คนไทยขาขึ้น (ก่ายหน้าผาก) ราคาพลังงานพาเหรดขึ้น “น้ำมัน-แอลพีจี-ไฟฟ้า” ดีเซล จ่อทะลุ 30 บาท “บิ๊กป๊อก” ยุส่ง ลิตรละ 40 กว่าบาทก็มีมาแล้ว ก่อน “ก.พลังงาน” กลับลำ ดึงกองทุนน้ำมันอุ้ม “ดีเซล” สอดรับโพลฟ้องคนไทยความสุขลด
ตามกันมาติดๆ .. ของขวัญครบรอบ 4 ปี รัฐประหาร คสช. ทั้งราคา “น้ำมัน” ที่แพงขึ้นที่สุดในรอบ 3 ปีกว่า แถมยังจูงเอาเพื่อนรักอย่าง “แก๊สหุงต้ม” (แอลพีจี) ราคาติดปีกไปด้วย .. ยังไม่พอ ยังมี “ข่าวดี” จาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ออกมาเตือนประชาชนรับมือต้นทุนค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ใน 6 เดือนข้างหน้า .. ทั้งหมดทั้งมวลก็มี “ข้ออ้าง” เดียวกันว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อยู่ในช่วง “ขาขึ้น” แนวโน้มปรับใกล้แตะ $80 ต่อบาร์เรล .. แล้วถ้าคำทำนายของ “ซีอีโอโททาล” ว่า อีกไม่กี่เดือนแตะ $100 ต่อบาร์เรลแน่ ถึงเวลานั้นคงเป็น “ขาขึ้น (ก่ายหน้าผาก)” สำหรับคนไทย เช่นกัน .. ก็ด้วยท่าทีของ “ฝ่ายรัฐ” ดูจะโนสน-โนแคร์ ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยักไหล่ว่า น้ำมันแพง ไม่ใช่ความผิดรัฐบาล .. ตามมาด้วย “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รอง คสช. ที่ให้ท้าย “ลิตรละ 40 กว่าบาทก็มีมาแล้ว” .. กระแสเลยตีกลับเละเทะว่า เป็นมุมมองของคนที่ไม่เคยควักกระเป๋าเติมน้ำมัน ด้วยมีอำนาจวาสนาได้ใช้ “เงินหลวง” ส่วนประชาชนตาดำๆ จะตายหยั่งเขียดกันหมดแล้ว ..
บอกเลยเรื่องราคาพลังงาน ทุกวันนี้คนไทยก็รับได้กับการปรับโครงสร้างราคาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ข่าวสารมีดู รู้ว่าแนวโน้มราคาตลาดโลกเป็นอย่างไร .. แต่ครั้นจะขึ้นพรวดๆ ตามอย่างเขาก็ใช่ที่ ต้องดูด้วยว่า 4 ปีผ่านมา เงินในกระเป๋าคนไทยหดหายไปขนาดไหน .. ณ จุดๆ หนึ่ง “ภาครัฐ” ก็มีหน้าที่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยบ้าง ไม่ใช่ท่องคาถา “ขอให้ร่วมกันประหยัดพลังงาน” แบบคนไม่มีกึ๋น .. ไม่รู้เพิ่งตื่น หรือเห็นท่าไม่ดี ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ก็เลยเพิ่งประกาศจะใช้เงิน “กองทุนน้ำมัน” อุ้มราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท เพื่อไม่ให้กระทบ “ภาคขนส่ง – รากหญ้า” พร้อมกลับลำให้แจ้งปรับราคาน้ำมันล่วงหน้าได้ .. ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร แต่ถ้าให้ดีก็ดูให้รอบ ไปถึงราคาพลังงานตัวอื่นๆด้วย เพราะเอาแค่เรื่องต้นทุนพลังงานอย่างเดียว ก็ประดังประเด กลายเป็น “แพ็กเกจคืนความสุข” ที่คนไทยได้แต่ “ยิ้มทั้งน้ำตา” .. สะท้อนผ่านผลสำรวจ "นิด้าโพล - สวนดุสิตโพล" ที่ออกมาคล้ายคลึงกันว่า ประชาชนพอใจในเรื่องบ้านเมืองสงบ .. แต่ก็ไม่พอใจปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างรุนแรง “นิด้าโพล” ทีหลังๆ หนักไปทาง “เชลียร์” ยังระบุว่า คนไทยมีความสุขลดลงด้วยซ้ำ
** ทำให้เด็กมันดู!! “เสือเฒ่า-มหาเธร์” ไล่เช็กบิล ”นาจิบ” ทุจริต 1 MDB โชว์ความเด็ดขาด ที่ “ทหารไทย” เทียบไม่ติด ตั้งแต่รัฐประหาร 2549 จนถึง 2557 บทสรุป “เสียของ” ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะ “เสือตะวันออก” รัฐบาล คสช. ที่อำนาจล้น-เวลาเพียบ ยังปล่อยเสียของคามือ
ราวกับติดเทอร์โบ .. มีมูฟเมนต์รายวันสำหรับการรีเทิร์น ขึ้นสู่อำนาจของ “เสือเฒ่า” มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกฯมาเลเซีย ในวัย 92 ปี .. หากแต่ความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่น่าสนใจเท่าปฏิบัติการ “เช็กบิล” อดีตนายกฯคนก่อน นาจิบ ราซัค ที่เคยเป็นเด็กปั้นของ “ดร.เอ็ม” เอง .. ตามที่ได้เคยประกาศเดินหน้าสอบสวนกรณีอื้อฉาวกองทุน 1MDB ของรัฐบาล ที่ “นาจิบ” ถูกกล่าวหาว่าโยกเงินจากองทุนเข้ากระเป๋าตัวเอง $700 ล้าน หรือราว 22,400 ล้านบาท .. ตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ประเทศอย่างเป็นทางการ ก็โชว์ “ความเด็ดขาด” ด้วยการสั่ง "ขึ้นบัญชีดำ" ห้าม “นาจิบ” และครอบครัวออกนอกประเทศเด็ดขาด .. พร้อมให้เจ้าหน้าที่ประกบอดีตนายกฯ อย่างไม่วางตา ไม่ให้หลุดรอดออกทาง “ช่องทางธรรมชาติ” เหมือนประเทศแถวๆ นี้ .. ก่อนที่ตำรวจมาเลย์จะปูพรมเข้าตรวจค้นเคหะสถานหลายแห่งที่เป็นของ “นาจิบ” พบของกลาง ที่มีทั้งกระเป๋าหรูหลายร้อยใบ เงินสดหลายสกุล เครื่องประดับ และสิ่งของมีค่า อีกเพียบ .. จัดหนัก-จัดเต็มขนาดนี้ อนาคตของ “นาจิบ” คงไม่พ้นคำทำนายของ อันวาร์ อิบราฮิม คู่ปรับการเมืองคนสำคัญ ที่ว่า ยึดทรัพย์-ติดคุกแน่นอน ..
ไม่เท่านั้น ยังเดินเกมรุกแบบไม่ให้หายใจ ด้วยการตั้ง “หน่วยเฉพาะกิจ” ขึ้นมาสางคดีโกงกองทุน 1MDB ที่ประเดิมงานแรกด้วยการเรียก “นาจิบ” มาสอบกรณีเงิน $10 ล้าน โผล่ในบัญชีส่วนตัว .. เป็น “หน่วยเฉพาะกิจ” ที่น่าจะไม่ใช่ ก็ใกล้เคียงการตั้ง “คตส.” ที่มาไล่เบี้ย “ระบอบทักษิณ” ของคณะรัฐประหาร เมื่อปี 2549 ของไทย .. ต่างกันหน่อยก็ตรงของเรามาจากการยึดอำนาจ ส่วนทางนู้นมาตามกระบวนการเลือกตั้งปกติ .. และที่น่าจะต่างกันฟ้ากับเหว ก็ของเราทำ “เสียของ” ทำกันแบบ “ไม่สะเด็ดน้ำ” ก่อนส่งไม้ต่อให้ ป.ป.ช. จนหลายคดีถูกตีตกไปอย่างไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางกระแสข่าว “เกี้ยะเซียะ” กันอยู่เนืองๆ .. ไม่ต่างจากรัฐประหาร ปี 2557 ที่อาจจะพอสรุปได้แล้ววว่า คสช. ก็ “เสียของ” ไม่ต่างจาก “นักรัฐประหารรุ่นพี่” .. ทั้งที่อำนาจเต็ม-เวลาเพียบ แต่วาระปฏิรูปที่ไม่เดิน การปราบโกงไม่กระดิก ความเด็ดขาดไม่ได้ครึ่งของ “ผู้นำเสือเหลือง” .. ที่แซวๆ กันว่า “มหาเธร์” ทำงาน 2 วัน มากกว่าที่ คสช.ทำมา 4 ปี ก็ไม่ได้ห่างไกลจากความจริงเท่าไร
**แบบนี้เข้าทาง!! “ม็อบอยากเลือกตั้ง” ไปไม่ถึงฝั่ง เจอ “พี่ตำรวจ” มาเป็นกองทัพ หมายให้ภาพออกมา “เกินเลยความเป็นจริง” ตามแผน “คนไม่พร้อม” เข้าสู่สังเวียนเลือกตั้ง เป็น “ข้ออ้าง” ยืดเวลา ขยายโรดแมป เป็นอานิสงส์ ต่อวีซ่าให้ คสช. อีกต่างหาก
พอหอมปากหอมคอ .. มีฉากบู๊กันบ้างประปราย กับภารกิจ “ม็อบอยากเลือกตั้ง” ที่ไม่บรรลุเป้าหมาย ในการไปเช็กอิน ประกาศเจตนารมณ์ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล .. ทำได้ดีที่สุด คือมวลชนกลุ่มหนึ่งที่ไปสุดทางที่ “สะพานมัฆวานฯ” ส่วน “ทัพใหญ่” ไปไม่ถึง กองกันอยู่ที่หน้า ม.ธรรมศาสตร์ .. ก่อนที่ “แกนนำ” รวม 14 คนนำโดย “รังสิมันต์ โรม - จ่านิว สิริวิทย์” จะ “เปิดวาร์ป” ถูกควบคุมตัวไปอยู่ สน.กันถ้วนหน้า .. ในมุมของผู้ชุมนุมก็ถือว่า “น่าพอใจ” กับการสร้าง “อีเวนต์” จนเป็นกระแสชิงพื้นที่ข่าวได้ตลอดทั้งวัน และได้ “องค์กรเมืองนอก” รับลูกประณามรัฐบาล คสช.ทันที ราวกับนัดกันไว้ .. ต้องไม่ลืมว่า งานนี้ใช้ “แกนนำเด็ก” ออกหน้าล้วนๆ หรืออาจจะมี “ทีมพิเศษ” คอยประคองอยู่ห่างๆ ก็ตาม แต่ก็ทำให้ “รัฐบาลทหาร” ดูจะตื่นตูม จนเกิดภาพมาสู้รบ ตบมือกับ “เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” .. ยิ่งมีประกาศิตจาก “รองฯป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ประกาศห้ามผู้ชุมนุมเข้าใกล้ทำเนียบฯ โดยเด็ดขาด .. ทำเอา “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ขมีขมันเป็นพิเศษ ด้วยมีความหวังเล็กๆ บางประการ .. ทำ “โอเวอร์” ไประดมเจ้าหน้าที่ตำรวจมากว่า 20 กองร้อย ราวกับจะไปออกรบที่ไหน .. ตามประสา “น้ำน้อยแพ้ไฟ” แค่ประเมินด้วยสายตาก็เห็นชัดๆ ว่า “ตำรวจ” มากกว่า “ผู้ชุมนุม” เป็นเท่าตัว .. ด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มากเกินพอดี ทำให้ภาพที่ออกมาดู “เกินเลยความเป็นจริง” ไปพอสมควร ทั้งที่เทียบจำนวนกำลังต่างกันลิบลับ .. ภาพที่ “เกินเลยความจริง” มองในมุม “ม็อบอยากเลือกตั้ง” หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังอาจจะพึงพอใจ .. แต่บอกเลย “รัฐบาล คสช.” แฮปปี้มากกว่า และเจตนาให้ดูใหญ่ๆเยอะๆ แบบนี้ตั้งแต่ต้นด้วย .. อ่านไม่ยาก ก็ด้วยอารมณ์ยังไม่อยากปลดล็อกการเมือง ตลอดจนยังไม่พร้อมเข้าสู่สังเวียนเลือกตั้ง .. มีม็อบแบบนี้ออกมาก็ “เข้าทาง” กลายเป็น “ข้ออ้าง” ยืดเวลา ขยายโรดแมปได้ตามใจชอบ .. จนมีการพูดกันว่า ม็อบนี้ไม่ได้มาล้ม คสช. ตามที่ประกาศ แต่กลายเป็นตัวช่วยต่อวีซ่าให้ คสช. ต่างหาก.
++++++++++++++++
รูป-- พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
-มหาเธร์ โมฮัมหมัด
–พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล -