xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"ย้ำเดินหน้าปฏิรูปฯ "พี่ใหญ่"วางมือ สัญญาณชัดจัดเต็มแน่ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แน่นอนว่า หากมองไปรอบตัวเวลานี้จะได้ยินเสียงของพวกนักการเมือง โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่หัวแถวยันปลายแถว ประเภทที่ว่าใครที่พอพูดภาษาไทยได้ ก็ให้กล่าวโจมตีถึงความล้มเหลวในเรื่อง "การปฏิรูป" ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และรัฐบาล ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องชี้ให้เห็นว่า 4 ปีของพวกเขา "ล้มเหลว" ในเรื่องดังกล่าว
**ขณะเดียวกัน หากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้ว พรรคเพื่อไทยทั้งพรรค รวมทั้งเจ้าของพรรคในอดีตคือ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ล้วนไม่เคยผลักดันเรื่องการปฏิรูปเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การกระจายอำนาจ หรือปฏิรูปเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่เคยปริปากสักแอะ นั่นอาจเป็นเพราะพวกเขาได้ประโยชน์จากการใช้อำนาจผ่านพวกข้าราชการเหล่านั้น โดยเฉพาะตำรวจ ที่เวลานั้นไม่ต่างจาก "รัฐตำรวจ" ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
ดังนั้น การที่ทุกคนในพรรคเพื่อไทย ออกมาพยายามโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าล้มเหลวในเรื่องปฏิรูปนั้น ก็ต้องรีบทำความเข้าใจก่อนว่า พวกเขาไม่ได้ผิดหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.ล้มเหลวในเรื่องนี้ แต่เจตนาเพียงแค่ต้องการดิสเครดิตเท่านั้น พร้อมทั้งฉวยโอกาสโจมตีพรรคการเมืองอีกฝ่ายไปในคราวเดียวกัน ขณะที่นักการเมืองอีกฝ่ายในนามกลุ่ม กปปส. ที่ออกมาขับไล่รัฐบาลนอมินี ของครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร พร้อมกับผลักดันให้เกิดการปฏิรูปโดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากภาพรวมๆ ที่มองกันแบบไม่มีส่วนได้เสียทางการเมือง แบบวงนอกมองเข้าไป ก็ต้องยอมรับเช่นเดียวกันว่า ในรอบ 4 ปีสำหรับ "วาระเรื่องการปฏิรูป" ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แทบจะไม่มีความคืบหน้า หรือไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วน ที่ชาวบ้านต้องการให้สำเร็จก่อนก็คือ การปฏิรูปตำรวจ ก็เสียเวลาไปกับการตั้งคณะกรรมการสารพัดชื่อ สารพัดชุด ซื้อเวลาไปเรื่อยเปื่อย เพราะหากย้อนกลับไปเท่าที่จำได้ก็มีชุดของตำรวจ นี่ก็อย่างน้อยหนึ่งถึงสองชุด แม้จะไม่ใช่เป็นคณะกรรมการระดับชาติ แต่ก็ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ตำรวจ มาปฏิรูปตำรวจ หรือที่พอ จดจำได้ก็คือ คณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ที่นำโดย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ตอนนั้นถึงกับออกมาการันตีความชัวร์ ย้ำว่า นี่คือ"อาจารย์ผมเอง เจ๋งสุดยอด" อะไรประมาณนี้ จนในที่สุด ก็มีผลสรุปออกมาแบบเน้นไปที่ขึ้นเงินเดือน เพิ่มค่าตอบแทนตำรวจ เปลืองน้ำเปลืองไฟ ไม่ได้อะไรเป็นเรื่องเป็นราว
จนกระทั่งล่าสุดนี่แหละที่ถือว่า (พอ) มีความหวังบ้าง จากการตั้งคณะกรรมการพิจารณา พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ นำโดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่มีความคืบหน้า เข้าใกล้แนวทางที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการ เพราะจะว่าไปแล้ว แทบจะหลับตาร่างกฎหมายกันได้เลย เนื่องจากแนวทางปฏิรูปตำรวจนั้น "ตกผลึก" กันมานานมากแล้ว ศึกษากันมาหลายรอบ แค่ปรับเอามาใช้ ก็ทำได้แล้ว เหมือนกับที่คณะกรรมการชุด นายมีชัย กำลังยกร่างอยู่นี่แหละ ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่มีแนวความคิดอะไรใหม่แต่อย่างใด ล้วนเป็นความคิดที่ผ่านหูผ่านตามาแล้วทั้งสิ้น
**อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วเนื่อหาสาระสำคัญจะเป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ สุดท้ายจริงๆ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเอาอย่างไร เพราะขนาด นายมีชัย เองยังเคยย้ำเองว่า อยู่ที่ สนช.จะเอาด้วยหรือไม่ ซึ่งหลายคนก็เชื่อว่าแล้วแต่ "สัญญาณ" ชี้ขาดจากข้างบนว่าจะเอาหรือเปล่าเท่านั้นเอง
นี่คือตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า การปฏิรูปตำรวจ หากทำให้สำเร็จโดยเร็วแล้วรับรองว่าชาวบ้านก็จะได้เห็นผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเรื่องปฏิรูป แต่นี่กลับใช้เวลาเกือบครบ 4 ปีเข้าไปแล้ว เพิ่งจะได้คณะกรรมการชุด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ล่าสุดเพิ่งประชุมเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง ก็เริ่มเห็นหน้าเห็นหลังแล้ว
แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีสิทธิ์ จะเถียงว่า 4 ปีที่ผ่านมา ผลงานด้านการปฏิรูปมีมากมาย ทำไมไม่มองบ้าง อาจจะ "หัวร้อน" ต้องการตอบโต้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่วิจารณ์รวมๆ เรื่องดังกล่าวว่าไม่เป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่ตั้งข้าราชการมาทำงาน ที่ทำให้ออกทะเล แต่จะว่าไปแล้ว นายบวรศักดิ์ ก็อวย พล.อ.ประยุทธ์ ในทำนองว่า เอาจริงเอาจังในเรื่องปฏิรูป เห็นได้จากการตั้งกรรมการพิจารณาพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่เขาก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
**พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า 4 ปี ที่ผ่านมา มีการออกกฎหมายมากมายนับร้อยฉบับ ถือว่าเป็นการปฏิรูปอย่างหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาที่หมักหมม หรือที่รัฐบาลอื่นไม่ได้ทำ หรือไม่กล้าทำ เรื่องแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อาจเข้าใจผิด หรือจัดลำดับตามความต้องการผิดพลาด หรือเปล่า เพราะหากเริ่มจากการปฏิรูปตำรวจเหมือนกับที่ตั้งคณะกรรมการชุด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในเวลานี้ รวมไปถึงออกแอ็กชั่นเรื่องการ "ปราบปรามทุจริต" ในแบบที่ไม่เกรงใจใคร ประกาศตรวจสอบทั้งหมด ไม่เว้นแม้คนในกองทัพ "เพื่อนพ้องน้องพี่" สร้าง"มาตรฐานทางจริยธรรมทางการเมืองแบบใหม่" ที่อยู่เหนือกว่ากฎหมาย
พร้อมกันนี้ก็ออกกฎหมาย แก้ไขกฎหมายที่บอกว่ามีนับร้อยนับพันฉบับอย่างที่พูดมาก็ทำไปด้วย เพราะต้องทำอยู่แล้ว หากต้องการจะให้การบริหารราชการแผ่นให้ก้าวหน้า
นาทีนี้ถึงได้บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งมาเร่งเรื่องการปฏิรูปเอาตอนใกล้จะหมดเวลานี่แหละ ซึ่งหลายคนก็ยังจับตามองอยู่ว่าจะเอาจริงหรือไม่
วกมาที่ "พี่ใหญ่ " พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ประกาศวางมือ ไม่ขอร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯ อีกครั้งหลังการเลือกตั้ง แต่สนับสนุนอยู่ข้างหลัง โดยอ้างอายุมาก ไม่แข็งแรง ก็อาจยอมรับสภาพตามความเป็นจริงว่า เขาสุขภาพไม่แข็งแรงจริง แต่อาจพูดไม่หมด เป้าหมายสำคัญเพราะน่าจะรู้ดีว่า เขาคือ "ตัวถ่วง" มีภาพลักษณ์เป็นลบมาตลอด แต่ด้วยสายสัมพันธ์แบบทหารพี่กับน้อง ผูกพันตัดกันไม่ขาด ก็ต้องอุ้มกระเตงกันไป
แน่นอนว่า ในบรรยากาศการเมืองที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นจำกัดจุดอ่อนออกไป เพื่อให้ได้มีพลังก้าวกระโดดไปข้างหน้า ซึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปต่อ เมื่อไม่มี "ตัวถ่วง" เส้นทางข้างหน้าก็น่าจะเห็นรำไรขึ้น ขณะเดียวกัน สำหรับพี่ใหญ่ก็อาจเปลี่ยนบทมา "สั่งการอยู่หลังฉาก" ก็ได้ เพราะเครือข่ายที่สร้างเอาไว้ยังมีอยู่เต็มพิกัดเช่นเดิม
**ดังนั้นหากสรุปทั้งสองเรื่อง คือ การยืนยันเดินหน้าปฏิรูปในช่วงเวลาที่เหลือให้สำเร็จอย่างน้อยก็เรื่องปฏิรูปตำรวจ หากทำได้สำเร็จจริงก็ถือว่าเป็นผลงานโบแดงแล้ว รวมทั้งการแสดงท่าทีวางมือการเมืองของ "พี่ใหญ่" ที่ชัดเจน ทางนี้ถือว่า"ปลดหินถ่วง" ลงไปได้อย่างเหมาะเจาะ อีกด้านหนึ่งมันก็เหมือนกับเป็นสัญญาณแรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการไปต่อ และเดินหน้า "ดูดแบบใหม่" (ไม่ต้องย้ายพรรค แต่ขอเสียงสนับสนุนเป็นนายกฯหลังเลือกตั้งมาแบบ"นายกฯคนใน") ก็ลุยได้เต็มตัว !!
-----------------
ใช้รูป -- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ นายมีชัย ฤชุพันธุ์


กำลังโหลดความคิดเห็น