ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดหุ้นไทยร่วงหนักเกือบ 20 จุด หลังนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพนักงาน-ปิโตรเคมี พร้อมแนะจับตาสถานการณ์สหรัฐฯ-อิหร่าน เข้ามากระทบตลาดหุ้น ระบุ 1 เดือนย้อนหลัง นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นต่อเนื่องเฉียด 3 หมื่นล้านบาท
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (8 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักต่อดัชนีตลาดหุ้นในภาพรวม โดยดัชนีปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,756.72 จุด ปิดที่ 1,760.25 จุด ลดลงจากวันก่อน 19.55 จุด หรือคิดเป็น 1.10% มูลค่าการซื้อขายรวม 61,224.79 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิ 2,868.46 ล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,296.65 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,457.43 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 2,029.24 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง รับแรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีที่ปรับตัวลดลงกดดันตลาด โดยมีปัจจัยมาจากทางสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจที่จะประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและใช้มาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีออกมามาก
ประกอบกับปัจจัยที่ส่งผลเชิงลบต่อการลงทุนในสัปดาห์นี้มาจากเงินทุนเคลื่อนย้านผันผวน ในช่วง 1 เดือนย้อนหลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็น 29,000 ล้านบาท และการประชุมเฟดในเดือนหน้า (มิ.ย.) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ได้ส่งสัญญาณในการประชุมเดือนนี้ (พ.ค.) เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อกำลังขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% กดดันเงินทุนไหลออก
สำหรับประเด็นที่จับตาคือ วันที่ 10 พ.ค. จะมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษและแถลงมติเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย วันที่ 12 พ.ค. ก็ต้องรอลุ้นว่าสหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์อิหร่านหรือไม่ หากสหรัฐฯมีมติคว่ำบาตรอิหร่านจะทำให้อุปทานน้ำมันดิบลดลงมากกว่าเดิม วันที่ 14 พ.ค. ประกาศรายชื่อหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI มีผล 30 พ.ค. และในวันที่ 15 พ.ค. กำหนดวันสุดท้ายสำหรับบริษัทจดทะเบียนในการส่งงบการเงินงวดไตรมาส 1/61 โดยมองแนวรับวันพรุ่งนี้ที่ 1,752 จุด แนวต้านที่ 1,772 จุด
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (8 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักต่อดัชนีตลาดหุ้นในภาพรวม โดยดัชนีปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,756.72 จุด ปิดที่ 1,760.25 จุด ลดลงจากวันก่อน 19.55 จุด หรือคิดเป็น 1.10% มูลค่าการซื้อขายรวม 61,224.79 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิ 2,868.46 ล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,296.65 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,457.43 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 2,029.24 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง รับแรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีที่ปรับตัวลดลงกดดันตลาด โดยมีปัจจัยมาจากทางสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจที่จะประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและใช้มาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีออกมามาก
ประกอบกับปัจจัยที่ส่งผลเชิงลบต่อการลงทุนในสัปดาห์นี้มาจากเงินทุนเคลื่อนย้านผันผวน ในช่วง 1 เดือนย้อนหลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็น 29,000 ล้านบาท และการประชุมเฟดในเดือนหน้า (มิ.ย.) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ได้ส่งสัญญาณในการประชุมเดือนนี้ (พ.ค.) เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อกำลังขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% กดดันเงินทุนไหลออก
สำหรับประเด็นที่จับตาคือ วันที่ 10 พ.ค. จะมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษและแถลงมติเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย วันที่ 12 พ.ค. ก็ต้องรอลุ้นว่าสหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์อิหร่านหรือไม่ หากสหรัฐฯมีมติคว่ำบาตรอิหร่านจะทำให้อุปทานน้ำมันดิบลดลงมากกว่าเดิม วันที่ 14 พ.ค. ประกาศรายชื่อหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI มีผล 30 พ.ค. และในวันที่ 15 พ.ค. กำหนดวันสุดท้ายสำหรับบริษัทจดทะเบียนในการส่งงบการเงินงวดไตรมาส 1/61 โดยมองแนวรับวันพรุ่งนี้ที่ 1,752 จุด แนวต้านที่ 1,772 จุด