"วัน อยู่บำรุง" โพสต์ภาพร่วมโต๊ะอาหารกับ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ที่สิงคโปร์ ด้านนายทะเบียนพรรคการเมืองยัน อดีต ส.ส.บินพบ"ทักษิณ"ไม่ผิด แต่ล่อแหลม–เสี่ยง ถูกร้องเรียนเข้าข่ายครอบงำ-ชี้นำพรรค ด้าน คสช.เล็งเช็คบิลรายตัว "ม็อบอยากเลือกตั้ง" เตรียมรับมือบุกทำเนียบฯ 22 พ.ค.นี้
จากกรณี อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวนมากได้เดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) นายวัน อยู่บำรุง อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก 2ภาพ ซึ่งเป็นภาพที่ นายวัน และ ร.ต.อ.เฉลิม ถ่ายภาพคู่กับนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมระบุข้อความ "ผมชอบภาพนี้ ผมสะดวกแบบนี้"
ขณะที่ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร ก็โพสต์รูปลงทั้งเฟชบุ๊ก และผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ขณะนั่งรับประทานอาหาร ร่วมกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่คาดว่าอยู่ในประเทศสิงคโปร์ พร้อมแคปชั่นว่า "วันนี้ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนนะ เสื้อก็ยังเหมือนด้วย ! นานิ ถาม : ทำไมน้าอิ๊งค์กับตาตาใส่เสื้อเหมือนกันหล่ะคะ น้าเลยตอบว่า : เพราะตาตากับน้าอิ๊งค์ ก็เป็นแฝดกันเหมือนเอมินานิไงลูก"
ส่วน"เอม" พินทองทา คุณากรวงศ์ ก็โพสต์ภาพและข้อความในอินสตาแกรม เป็นภาพ นายทักษิณ กอดหลานสาวฝาแฝด "เอมิ-พิณธารา" เเละ "นานิ-พิณนารา" โดยระบุข้อความ "เมื่อตาตาเจอหลาน # เต็มกำลังใจ # รักที่สุด # คุณพ่อฝากขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาใต้รูปนะคะ # รักและห่วงใยเหมือนเดิมเสมอ @thaksibnlive by @pouyingluck_shin"
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คนในตระกูล "ชินวัตร" ได้โพสต์ภาพของ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผ่านทางสื่อโซเซียล อย่างคึกคัก ซึ่งก็มีผู้แสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจกำลังใจคนในตระกูลชินวัตร อย่างต่อเนื่อง
ด้านพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึง กรณีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ว่า การพบปะกันตามปกติ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็มีความล่อแหลม และสุ่มเสี่ยงที่จะถูกกล่าวหา หรือ ร้องเรียนได้ว่า การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายลักษณะเป็นการครอบงำ หรือ ชี้นำได้ เนื่องจากตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ระบุไว้ว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอม หรือให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่สมาชิกกระทําการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือโดยทางอ้อม
ดังนั้น ตนในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองกระทำผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จึงอยากให้ศึกษาข้อกฎหมายให้มากๆ เพราะขณะนี้กฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่ มีเนื้อหามาก นักการเมือง และพรรคการเมืองจำเป็นที่จะศึกษาข้อกฎหมายต่างๆให้ดี และรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การที่เขาจะไปพบใคร ที่เขารัก ตนว่าเป็นสิทธิของเขา การที่คนเขาจะรักกัน จะไปห้ามไม่ได้ ซึ่งตนสนับสนุนให้รักกัน แต่อย่าทำให้บ้านเมืองวุ่นวายก็เป็นอันใช้ได้ ส่วนที่มองว่าการไปพบกันครั้งนี้ อาจจะผิดกม.พรรคการเมืองได้นั้น ตนยังมองไม่เห็นว่าจะผิดอย่างไร เพราะต้องมีข้อเท็จจริงที่มากกว่านี้ ว่ามีการกระทำ หรืออยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด หรือไม่
"ผมมองว่า ไม่มีอะไรจะป่วน เพราะเป็นการไปพบกับคนที่เขารัก รัฐบาลก็อย่าไปกังวลจนเกินเหตุ คนเขาจะรักกัน และไม่น่าจะเกี่ยวกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่เคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน แต่ที่กังวลคือ การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งมากว่ากลุ่มที่ไปพบนายทักษิณ เพราะการชุมนุมที่มีประชาชนเข้ามาสนับสนุนในระดับหนึ่ง อาจจะมีสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ ซึ่งผมไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องพยายามอย่าให้เกิดความรุนแรง" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึง กรณีแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ขู่บุกทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 4 ปี การเข้ามายึดอำนาจของ คสช.ว่า เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ และองค์ประกอบต่างๆ เพื่อนำมาประเมิน มาตรการที่จะใช้รองรับต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับการชุมนุมเมื่อ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา กิจกรรมทั้งหมดอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ ไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ไหน ถือว่าการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ และแกนนำเป็นไปด้วยดี
"ภาพรวมทั้งหมด ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการกระทบกระทั่งกัน การอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ก็เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ส่วนการปราศรัยบนเวที จะมีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ฝ่ายกฎหมายของ คสช. ก็ติดตามดูอยู่เป็นรายคน" พล.ต.ปิยพงศ์ ระบุ
จากกรณี อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวนมากได้เดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) นายวัน อยู่บำรุง อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก 2ภาพ ซึ่งเป็นภาพที่ นายวัน และ ร.ต.อ.เฉลิม ถ่ายภาพคู่กับนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมระบุข้อความ "ผมชอบภาพนี้ ผมสะดวกแบบนี้"
ขณะที่ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร ก็โพสต์รูปลงทั้งเฟชบุ๊ก และผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ขณะนั่งรับประทานอาหาร ร่วมกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่คาดว่าอยู่ในประเทศสิงคโปร์ พร้อมแคปชั่นว่า "วันนี้ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนนะ เสื้อก็ยังเหมือนด้วย ! นานิ ถาม : ทำไมน้าอิ๊งค์กับตาตาใส่เสื้อเหมือนกันหล่ะคะ น้าเลยตอบว่า : เพราะตาตากับน้าอิ๊งค์ ก็เป็นแฝดกันเหมือนเอมินานิไงลูก"
ส่วน"เอม" พินทองทา คุณากรวงศ์ ก็โพสต์ภาพและข้อความในอินสตาแกรม เป็นภาพ นายทักษิณ กอดหลานสาวฝาแฝด "เอมิ-พิณธารา" เเละ "นานิ-พิณนารา" โดยระบุข้อความ "เมื่อตาตาเจอหลาน # เต็มกำลังใจ # รักที่สุด # คุณพ่อฝากขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาใต้รูปนะคะ # รักและห่วงใยเหมือนเดิมเสมอ @thaksibnlive by @pouyingluck_shin"
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คนในตระกูล "ชินวัตร" ได้โพสต์ภาพของ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผ่านทางสื่อโซเซียล อย่างคึกคัก ซึ่งก็มีผู้แสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจกำลังใจคนในตระกูลชินวัตร อย่างต่อเนื่อง
ด้านพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึง กรณีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ว่า การพบปะกันตามปกติ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็มีความล่อแหลม และสุ่มเสี่ยงที่จะถูกกล่าวหา หรือ ร้องเรียนได้ว่า การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายลักษณะเป็นการครอบงำ หรือ ชี้นำได้ เนื่องจากตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ระบุไว้ว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอม หรือให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่สมาชิกกระทําการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือโดยทางอ้อม
ดังนั้น ตนในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองกระทำผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จึงอยากให้ศึกษาข้อกฎหมายให้มากๆ เพราะขณะนี้กฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่ มีเนื้อหามาก นักการเมือง และพรรคการเมืองจำเป็นที่จะศึกษาข้อกฎหมายต่างๆให้ดี และรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การที่เขาจะไปพบใคร ที่เขารัก ตนว่าเป็นสิทธิของเขา การที่คนเขาจะรักกัน จะไปห้ามไม่ได้ ซึ่งตนสนับสนุนให้รักกัน แต่อย่าทำให้บ้านเมืองวุ่นวายก็เป็นอันใช้ได้ ส่วนที่มองว่าการไปพบกันครั้งนี้ อาจจะผิดกม.พรรคการเมืองได้นั้น ตนยังมองไม่เห็นว่าจะผิดอย่างไร เพราะต้องมีข้อเท็จจริงที่มากกว่านี้ ว่ามีการกระทำ หรืออยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด หรือไม่
"ผมมองว่า ไม่มีอะไรจะป่วน เพราะเป็นการไปพบกับคนที่เขารัก รัฐบาลก็อย่าไปกังวลจนเกินเหตุ คนเขาจะรักกัน และไม่น่าจะเกี่ยวกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่เคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน แต่ที่กังวลคือ การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งมากว่ากลุ่มที่ไปพบนายทักษิณ เพราะการชุมนุมที่มีประชาชนเข้ามาสนับสนุนในระดับหนึ่ง อาจจะมีสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ ซึ่งผมไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องพยายามอย่าให้เกิดความรุนแรง" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึง กรณีแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ขู่บุกทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 4 ปี การเข้ามายึดอำนาจของ คสช.ว่า เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ และองค์ประกอบต่างๆ เพื่อนำมาประเมิน มาตรการที่จะใช้รองรับต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับการชุมนุมเมื่อ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา กิจกรรมทั้งหมดอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ ไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ไหน ถือว่าการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ และแกนนำเป็นไปด้วยดี
"ภาพรวมทั้งหมด ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการกระทบกระทั่งกัน การอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ก็เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ส่วนการปราศรัยบนเวที จะมีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ฝ่ายกฎหมายของ คสช. ก็ติดตามดูอยู่เป็นรายคน" พล.ต.ปิยพงศ์ ระบุ