ผู้จัดการรายวัน360 - "บิ๊กตู่" เผยถามพรรคหนุนแล้ว ไม่ได้ดูดส.ส.แลกเก้าอี้ รมต. โวเนื้อหอม นั่งเฉยๆ ก็วิ่งมาเอง แนะจับตาพรรคใดหนุน "คนอยากเลือกตั้ง" ชุมนุมค้างคืน ย้ำเลือกตั้งแน่ต้นปี 62 อย่าห่วงว่าจะเลื่อนอีก "สมคิด" ย้ำหนุน"บิ๊กตู่"อยู่ต่อ งงข่าวดูด อดีต ส.ส. บอกตัวเองโดนดูดมากกว่า ด้าน"บิ๊กป้อม" เชื่อการชุมนุมไม่ยืดเยื้อ ฝ่ายความมั่นคงเตรียมรับมือตลอด ห่วงตีกันเอง
วานนี้ (1 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีนักวิชาการ ออกมาวิจารณ์คนในรัฐบาลและคสช. เล่นการเมืองด้วยวิธีการดูดส.ส. เป็นการกลับเข้าสู่วงจรแบบเก่า ว่า ตอนนี้เห็นนักวิชาการออกมาทักท้วง ตั้งข้อสังเกต วิจารณ์ผ่านสื่อทั่วไป ตนก็ฟัง แต่สิ่งสำคัญคือตนรู้ว่า กำลังทำอะไรอยู่ การที่ตนพูดว่า "ดูด" มีมานานแล้ว คงไม่ใช่ว่าตนยอมรับกติกานี้ อยากให้พิจารณาดูว่า ที่มีข่าวสารออกมามันเป็นเรื่องที่นักการเมืองสมัครใจมากันเองหรือไม่ ทุกทีเวลาเลือกตั้ง สื่อก็จะเห็นอยู่ ทุกคนจะย้ายไปตรงนู้น ตรงนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายพรรคที่เขาอยู่มาก่อน แล้วเขาเห็นอนาคตหรือไม่ ก็เป็นเรื่อของเขา ตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวตรงนี้เลย
"ผมได้สอบถามพรรคการเมือง ที่มีข่าวว่ามาสนับสนุนผม โดยถามไปว่า ทำแบบนั้นหรือ ไปเสนอผลประโยชน์กันไว้หรือ เขาบอกว่าไม่ได้มีอะไร นั่งอยู่เฉยๆ ก็มีคนติดต่อมาขอพบ หารือ ฉะนั้น ยังไม่ชัดเจนหรอก ผมยังไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องการพูดคุย แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องระมัดระวัง ทุกคนคงทราบดีแล้วว่า ตนไม่เห็นด้วยเลย หากเป็นเรื่องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง หรือนโยบายต่างๆ ก็เป็นเรื่องของเขา ตนบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว แต่การใช้เงิน หรือเสนอผลประโยชน์ไว้ล่วงหน้า ตนไม่ต้องการเด็ดขาด จะไปซื้อ สัญญา จะให้ตำแหน่งโควต้ารัฐมนตรี ตนคิดว่าไม่ค่อยถูก แต่หากเป็นเรื่องที่ทุกคนจะเข้ามาทำการเมือง มาพัฒนาประเทศร่วมกัน จะต้องหารือกันว่า จะทำอย่างไรในการเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน
ส่วนมาตรการรับมือกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่เตรียมชุมนุมในวันที่ 5 พ.ค.นี้ โดยจะชุมนุมปักหลักค้างคืนนั้น เราบอกแล้วว่า จะมีการเลือกตั้งต้นปีหน้า แน่นอน ก็ยังจะเคลื่อนไหวอีก ต้องไปดูว่าเป็นกลุ่มคนเดิมๆ หรือคนใหม่ มีการสนับสนุนจากใคร สอดคล้องกับสิ่งที่นักการเมือง หรือพรรคการเมือง ออกมาพูดตรงไหน ก็แสดงว่าใครเป็นผู้สนับสนุนให้ออกมา ดังนั้นอยากให้ประชาชนใช้การเรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมา ช่วยรัฐบาลแก้ปัญหา เพราะกฎหมายมีทุกตัว พอบานปลายก็ต้องใช้กฎหมาย เสร็จแล้วกลายเป็นว่า รัฐบาลไปละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่ตัวเองไปละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมตั้งพรรคการเมือง เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัยว่า "ผมจำได้ว่า ผมยังไม่ได้พูดอะไรมากเลย พูดแค่ประโยคสองประโยคว่า ผมสนับสนุนท่านประยุทธ์ แล้วผมก็คิดว่าท่านเหมาะสม ถ้าท่านจะทำต่อนะ พอพูดแค่นั้นเอง พวกคุณโอเวอร์รีแอค เกินไป หรือไม่ ผมยังงงอยู่เลย"
เมื่อถามถึงกรณีมีการดูด อดีต ส.ส. เพื่อมาสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์นั้น นายสมคิด กล่าวว่า "ผมถูกดูดมากกว่านะ"
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึง การนัดชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ว่า คงไม่ต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษ เพราะเราเตรียมพร้อมตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่วิตกกังวลอะไรต่อการเคลื่อนไหวดังกล่าว
"เจ้าหน้าที่ความมั่นคง เรามีไว้ทำไม เขามีไว้สำหรับดูแลความปลอดภัย เผื่อตีกันเอง และตอนนี้รัฐบาลก็บอกแล้วว่า จะมีการเลือกตั้งใน ก.พ.62 และเชื่อว่าผู้ชุมนุม เขารู้ว่าชุมนุมอย่างไร ไม่ผิดกฎหมาย และคิดว่าการชุมนุมครั้งนี้ จะไม่ยืดเยื้อ และไม่มีฝ่ายอื่นๆ มาร่วมผสมโรงในการชุมนุม มีแต่ผู้สื่อข่าวผสมโรงเล่นงานเรา" พล.อ.ประวิตร กล่าว
วานนี้ (1 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีนักวิชาการ ออกมาวิจารณ์คนในรัฐบาลและคสช. เล่นการเมืองด้วยวิธีการดูดส.ส. เป็นการกลับเข้าสู่วงจรแบบเก่า ว่า ตอนนี้เห็นนักวิชาการออกมาทักท้วง ตั้งข้อสังเกต วิจารณ์ผ่านสื่อทั่วไป ตนก็ฟัง แต่สิ่งสำคัญคือตนรู้ว่า กำลังทำอะไรอยู่ การที่ตนพูดว่า "ดูด" มีมานานแล้ว คงไม่ใช่ว่าตนยอมรับกติกานี้ อยากให้พิจารณาดูว่า ที่มีข่าวสารออกมามันเป็นเรื่องที่นักการเมืองสมัครใจมากันเองหรือไม่ ทุกทีเวลาเลือกตั้ง สื่อก็จะเห็นอยู่ ทุกคนจะย้ายไปตรงนู้น ตรงนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายพรรคที่เขาอยู่มาก่อน แล้วเขาเห็นอนาคตหรือไม่ ก็เป็นเรื่อของเขา ตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวตรงนี้เลย
"ผมได้สอบถามพรรคการเมือง ที่มีข่าวว่ามาสนับสนุนผม โดยถามไปว่า ทำแบบนั้นหรือ ไปเสนอผลประโยชน์กันไว้หรือ เขาบอกว่าไม่ได้มีอะไร นั่งอยู่เฉยๆ ก็มีคนติดต่อมาขอพบ หารือ ฉะนั้น ยังไม่ชัดเจนหรอก ผมยังไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องการพูดคุย แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องระมัดระวัง ทุกคนคงทราบดีแล้วว่า ตนไม่เห็นด้วยเลย หากเป็นเรื่องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง หรือนโยบายต่างๆ ก็เป็นเรื่องของเขา ตนบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว แต่การใช้เงิน หรือเสนอผลประโยชน์ไว้ล่วงหน้า ตนไม่ต้องการเด็ดขาด จะไปซื้อ สัญญา จะให้ตำแหน่งโควต้ารัฐมนตรี ตนคิดว่าไม่ค่อยถูก แต่หากเป็นเรื่องที่ทุกคนจะเข้ามาทำการเมือง มาพัฒนาประเทศร่วมกัน จะต้องหารือกันว่า จะทำอย่างไรในการเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน
ส่วนมาตรการรับมือกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่เตรียมชุมนุมในวันที่ 5 พ.ค.นี้ โดยจะชุมนุมปักหลักค้างคืนนั้น เราบอกแล้วว่า จะมีการเลือกตั้งต้นปีหน้า แน่นอน ก็ยังจะเคลื่อนไหวอีก ต้องไปดูว่าเป็นกลุ่มคนเดิมๆ หรือคนใหม่ มีการสนับสนุนจากใคร สอดคล้องกับสิ่งที่นักการเมือง หรือพรรคการเมือง ออกมาพูดตรงไหน ก็แสดงว่าใครเป็นผู้สนับสนุนให้ออกมา ดังนั้นอยากให้ประชาชนใช้การเรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมา ช่วยรัฐบาลแก้ปัญหา เพราะกฎหมายมีทุกตัว พอบานปลายก็ต้องใช้กฎหมาย เสร็จแล้วกลายเป็นว่า รัฐบาลไปละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่ตัวเองไปละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมตั้งพรรคการเมือง เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัยว่า "ผมจำได้ว่า ผมยังไม่ได้พูดอะไรมากเลย พูดแค่ประโยคสองประโยคว่า ผมสนับสนุนท่านประยุทธ์ แล้วผมก็คิดว่าท่านเหมาะสม ถ้าท่านจะทำต่อนะ พอพูดแค่นั้นเอง พวกคุณโอเวอร์รีแอค เกินไป หรือไม่ ผมยังงงอยู่เลย"
เมื่อถามถึงกรณีมีการดูด อดีต ส.ส. เพื่อมาสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์นั้น นายสมคิด กล่าวว่า "ผมถูกดูดมากกว่านะ"
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึง การนัดชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ว่า คงไม่ต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษ เพราะเราเตรียมพร้อมตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่วิตกกังวลอะไรต่อการเคลื่อนไหวดังกล่าว
"เจ้าหน้าที่ความมั่นคง เรามีไว้ทำไม เขามีไว้สำหรับดูแลความปลอดภัย เผื่อตีกันเอง และตอนนี้รัฐบาลก็บอกแล้วว่า จะมีการเลือกตั้งใน ก.พ.62 และเชื่อว่าผู้ชุมนุม เขารู้ว่าชุมนุมอย่างไร ไม่ผิดกฎหมาย และคิดว่าการชุมนุมครั้งนี้ จะไม่ยืดเยื้อ และไม่มีฝ่ายอื่นๆ มาร่วมผสมโรงในการชุมนุม มีแต่ผู้สื่อข่าวผสมโรงเล่นงานเรา" พล.อ.ประวิตร กล่าว