xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิรูปตำรวจชี้ขาดอยู่ที่"บิ๊กตู่" จะเอาแต้มหรือเอาเสียงโห่ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ก็ถือว่าเหนือความคาดหมายเหมือนกัน กับการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ที่มี มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน ที่ว่าเหนือความคาดหมายก็คือ ได้เห็นแนวโน้มในทางบวกอย่างชัดเจนมากขึ้น สำหรับความหวังของชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ต้องการเห็นการปฏิรูปตำรวจให้เป็นรูปธรรม และตรงใจมากที่สุด
อย่างไรก็ดี แค่การประชุมของคณะกรรมการชุดดังกล่าวผ่านไป 2 นัดเท่านั้น ก็เริ่มมองเห็นทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นว่า "น่าจะ" เป็นการปฏิรูปตำรวจไปในทิศทางที่ชาวบ้านต้องการมากขึ้นกว่าเดิม เรียกว่า "พอมีความหวัง" ว่างั้นเถอะ
จากการเปิดเผยของ คำนูณ สิทธิสมาน ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดนี้ ได้ย้ำว่าสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้ก็คือ จะแยก"ภารกิจหลัก" กับ "ไม่ใช่ภารกิจหลัก" ออกมาให้ชัด เช่น งานรักษาความสงบ งานป้องกัน งานปราบปรามโจรผู้ร้าย และงานที่นำคนทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ส่วนภารกิจอื่นเท่าที่มีการระบุออกมา คร่าวๆ เช่น งานที่เกี่ยวกับงานบริการประชาชน เช่น งานทะเบียน หรือ งานจราจร สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็น"งานรอง" ของตำรวจ ควรถ่ายโอนไปให้หน่วยงานอื่น หรือท้องถิ่นที่มีความพร้อม และเมื่อแยกภารกิจหลัก และภารกิจรองออกมาให้เห็นชัดเจนแล้ว ก็จะมาพิจารณากันถึงโครงสร้างของตำรวจ
**สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือ การแยกงานสอบสวนออกจากงานปราบปราม ให้ชัดเจน ส่วนจะมีรายละเอียดแบบไหน ก็ค่อยมาว่ากันแต่หลักการน่าจะเป็นแบบนี้ รวมไปถึงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ต้องพิจารณาว่า "ใคร" เป็นคนตั้ง และใครคนนั้น จะมีอิสระปลอดจากการชี้นำ หรือยู่ใต้อำนาจของฝ่ายการเมืองหรือใครหรือไม่
เพราะหากไม่มีการ "ออกแบบ" ให้มีความ"เป็นอิสระ" ทำให้การแต่งตั้งตำรวจเกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ได้คนดี มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งหากทำได้แค่นี้ ก็เป็นการสร้างหลักประกันความยุติธรรมให้กับชาวบ้านได้ในชั้นต้นแล้ว
แน่นอนว่า การปฏิรูปตำรวจถือว่าเป็นความหวังลำดับต้นๆ ของชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้ามาจัดการแก้ปัญหาเป็นอันดับแรกๆ เหมือนกัน เพราะจะว่าไปแล้ว ที่ผ่านมาจะด้วยระบบโครงสร้างที่อ่อนแอ และไม่เป็นธรรมได้สร้างความเจ็บปวดให้กับสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะภารกิจของตำรวจ หรือ "ต้นทาง" ของกระบวนการยุติธรรม หากต้นทางบิดเบี้ยวเสียแล้ว มันก็ย่อมพอมองเห็นแนวโน้มของ "ปลายทาง" ว่าจะบิดเบี้ยวไปแบบไหน
** และจะว่าไปแล้ว แนวทางในการปฏิรูปตำรวจถือว่า "ตกผลึก" กันไปแล้ว เพราะผ่านการศึกษาของคณะกรรมการกันหลายชุด ทั้งที่สรุปออกมาในแบบตรงใจชาวบ้าน หรือออกมาในแบบตรงใจผู้มีอำนาจ หรือข้าราชการตำรวจ ก็มี แล้วแต่ละจะเลือกหยิบออกมาแบบไหนเท่านั้น
ก่อนหน้านี้สำหรับการปฏิรูปตำรวจในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่า"หมดหวัง"ไปแล้ว หลังจากได้เห็นผลสรุปของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจในชุดที่นำโดย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ที่ออกมาในแบบ"เกรงใจ"และส่วนใหญ่เป็นการเน้นในแบบเพิ่มสวัสดิการตำรวจ ไม่ใช่ปฏิรูปโครงสร้างอย่างที่ควรจะเป็น แม้ว่าที่ผ่านมา พล.อ.บุญสร้าง จะได้รับการการันตีในความรู้ความสามารถก็ตาม แต่เมื่อผลออกมาอย่างที่เห็นมันก็ทำให้องค์กรภาคประชาชนที่จับตามองกันอยู่ ไม่ปลื้ม และก็พลอยไปปลื้มไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ อีกด้วย
หลังจากนั้น สังคมก็หมดหวัง พร้อมๆ กับความ "เสื่อมศรัทธา" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถูกระบุว่า สิ่งที่ชาวบ้านอยากให้ทำ ไม่ทำ แต่กลับไปทำในเรื่องอะไรก็ไม่รู้ เสียเวลา เสียงบประมาณ เปลืองน้ำ เปลืองไฟ เปล่าๆ
อาจเป็นเพราะรับรู้ถึงสัญญาณดังกล่าวหรือเปล่าก็ไม่ปราบ ทำให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ ร่าง พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติขึ้นมา โดยมี มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน และแค่ประชุมผ่านไปสองนัด ก็เริ่ม "เห็นหน้าเห็นหลัง" กันแล้ว ไม่ต้องอารัมภบทกันให้ยืดยาว โช๊ะๆ กันไปเลย เพราะรู้กันอยู่แล้วว่าจะเอาแบบไหน เคยมีผลการศึกษามาแล้วเป็นตั้งๆ และแนวทางก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร หากแต่เน้นความอิสระ สร้างหลักประกันในการอำนวยความยุติธรรม แยกภารกิจหลักของตำรวจให้ชัด ว่ามีอะไรบ้างอย่างที่คณะกรรมการชุดนี้สรุปแยกออกมาให้เห็นนั่นแหละ
**ดังนั้น ภารกิจการปฏิรูปตำรวจนี่แหละ ถือว่าอีกหนึ่งไม้ตายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะสร้างผลงานให้จดจำส่งท้าย เพราะนี่คือเรื่องหลักที่ชาวบ้านคาดหวัง ถ้าทำได้ ก็ได้แต้มอักโข แต่ถ้าโม้ หรือ "ท่าดีทีเหลว" ก็น่าจะพอเดาออกว่าผลจะเป็นแบบไหน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น