xs
xsm
sm
md
lg

อัยการตีกลับคดีหวย30ล. ให้กองปราบส่งป.ป.ช.ชี้มูลความผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (18เม.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา , นายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ร่วมทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าว ผลการพิจารณาสำนวนคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาท ที่นายปรีชา หรือครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.กาญจนบุรี และ นางรัตนา หรือ เจ๊บ้าบิ่น สุภาทิพย์ แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาดเรดซิตี้ ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1-2 ในความผิดร่วมกันแจ้งข้อความเท็จฯ และที่ ครูปรีชา เป็นผู้กล่าวหาหมวดจรูญ ผู้ต้องหาในความผิดลักทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์ สิ่งของตกหล่นฯ
โดยนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า คณะทำงานอัยการพิจารณาแล้ว เห็นว่าข้อกล่าวหาในคดีนี้ เกี่ยวพันกรณีการกล่าวหาร่วมพล.ต.ต. สุทธิ พวงพิกุล อดีต ผบก.จว.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย ดังนั้นจึงมีคำสั่งคืนสำนวนทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน ซึ่งความผิดที่ถูกกล่าวหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบนั้น ต้องส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. พิจารณา ขณะเดียวกันวันนี้ซึ่งครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายของผู้ต้องหาทั้งสอง ดังนั้น อัยการ จึงยื่นคำร้องต่อศาลให้ปล่อยตัวทั้งสองเป็นอิสระ พ้นอำนาจการควบคุมตัวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคน ยังต้องมารายงานตัวต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก ตามกำหนดนัดในวันที่ 19 เม.ย. พร้อมรับทราบคำสั่งอัยการ ที่ให้คืนสำนวนด้วย
วันเดียวกันนี้ ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. กล่าวถึง กรณีอัยการมีความเห็นให้ส่งคืนสำนวนคดีหวย 30 ล้านบาท กลับมายังกองปราบปราม เพื่อให้พนักงานสอบสวน ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. พิจารณาชี้มูลความผิด ก่อนส่งให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิจารณา เนื่องจากเห็นว่า การกระทำของ นายปรีชา และ นางรัตนาพร เป็นความผิดต่อเนื่องกับคดีของพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ที่ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหา "ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างพยานหลักฐานเท็จ" ว่า ทางกองปราบปราม ได้รับสำนวนคืนมาจากอัยการ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้ส่งสำนวนต่อไปให้ป.ป.ช. พิจารณาชี้มูลความผิดแล้ว
ส่วนกรณีที่อัยการระบุว่า คดีดังกล่าว จากพยานหลักฐานในสำนวนคดีแจ้งความเท็จ และคดีประพฤติมิชอบของ พล.ต.ต.สุทธิ เป็นความผิดต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน ก็เป็นมุมมองทางกฎหมายของอัยการ ที่อาจมีมุมมองต่างกัน แต่ยืนยันว่าการรวมสำนวน และส่งสำนวนคืนให้กองปราบปราม ไม่กระทบต่อคดี อีกทั้งยังมีความเห็นสอดคล้องกับอัยการด้วยว่า การรวมสำนวนกันนั้น เมื่อมีการพิพากษาว่า ผู้ต้องหาผิดจริง ผู้ต้องหาก็จะได้รับโทษหนักขึ้นกว่าสำนวนที่ส่งไปก่อนหน้านี้
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้หาก ป.ป.ช.จะสอบสวน หรือต้องการพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก็สามารถดำเนินการได้เลย เพราะมีอำนาจหน้าที่ครอบคลุมอยู่แล้ว ส่วนการที่ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัวสองผู้ต้องหาแล้วหลายฝ่ายมีความกังวลว่า ผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ทำให้คดีเสียหาย ยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะที่ผ่านมาผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์แบบนี้แต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น