กรมอุทยานฯ รับได้อัยการสั่งฟ้อง “เปรมชัย” 6 ข้อหาหลัก ส่วนที่เหลือ เป็นคดีประกอบ ลุยเอาผิดแพ่งต่อ ด้าน"ศรีวราห์" รอความเห็นอัยการอัยการภาค 7 ที่สั่งไม่ฟ้องอีก 5 ข้อหา เตรียมประชุมคณะทำงาน ชี้แจงแนวทางเห็นแย้ง
วานนี้ (5 เม.ย.) นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง กรณีอัยการภาค 7 มีความเห็นสั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 6 ข้อหา จาก 11 ข้อหาว่า สำหรับ 6 ข้อหา ที่อัยการสั่งฟ้องนายเปรมชัย ถือเป็นคดีหลักที่มีความครอบคลุมในการทำความผิด ส่วนที่เหลือถือเป็นคดีประกอบ ซึ่งศาลจะพิจารณาคดีหลักที่มีโทษสูงเป็นหลัก จึงถือว่าเรายอมรับได้
ส่วนค่าเสียหายทางคดีอาญาเกี่ยวกับเสือดำที่ถูกยิงตาย จำนวน 4.6 แสนบาทนั้น คงเป็นการคำนวณเฉพาะในส่วนของเสือดำ ซึ่งกรมอุทยานยังต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งคู่ขนานไปกับในส่วนของคดีอาญาด้วย โดยคณะกรรมการพิจารณาคิดคำนวณค่าเสียหายทางแพ่ง กรมอุทยานฯ จะมีการพิจารณาคิดวิเคราะห์ค่าเสียหายต่อระบบนิเวศประกอบ เพื่อดำเนินการต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึง กรณีอัยการภาค 7 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย อีก 5 ข้อหา ว่า อำนาจการฟ้อง หรือไม่ฟ้อง เป็นของอัยการ ต้องเคารพในอำนาจหน้าที่ของท่าน แต่ขณะนี้อัยการภาค 7 ยังไม่ได้ส่งความเห็นมา ถ้าส่งมาถึง ก็จะเรียกประชุมแนวทางที่ตำรวจเห็นแย้ง เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถลงความเห็นได้
ทั้งนี้ตน ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผบช.ภ.7 เรียบร้อยแล้ว เมื่อทำความเห็นเสร็จ ก็ส่งกลับไปที่อัยการภาค 7 หลังจากนั้น อัยการภาค 7 ก็จะส่งไปที่อัยการสูงสุดเอง ยืนยัน ไม่ได้มีความขัดแย้งกับอัยการ การลงความเห็นต่าง เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นหน้าที่ เป็นความเห็นทางอาญา
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า ทางตำรวจเห็นแย้งทุกข้อหา ที่ไม่สั่งฟ้อง เช่น เรื่องพยายามล่าสัตว์ ที่สั่งฟ้อง นายธานี ทุมมาศ แต่ไม่สั่งฟ้องคนอื่น นายธานี เอาปืนของนายเปรมชัยไปยิง ถ้าไม่ผิด ก็มีต้องมีความผิดฐานสนับสนุน แต่การเข้าไปหรือพาอาวุธปืนเข้าไป นายวิเชียร ชินวงษ์ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ไม่มีอำนาจในการอนุญาต การอนุญาตเป็นอำนาจ เขตบ้านโป่ง หรือ ผอ.สำนักใน กทม. ทางกรมยืนยันมาแบบนี้ ประกอบกับกรณีนี้ รัฐเสียหาย ค่าธรรมเนียมไม่ได้เก็บ เหตุที่ผมแย้งส่วนใหญ่ ขอชี้แจงว่า เมื่อมีข้อหาตามกฎหมาย ถ้าตนทำทองไม่รู้ร้อน เดี๋ยวก็จะโดนว่าอีก ต้นเหตุคือ เงิน 110 บาท ค่าเข้าอุทยานฯ หรือไม่นั้น พวกคุณคิดเอาเองแล้วกัน ถ้าไม่เข้าไป มันจะล่าสัตว์ได้หรือเปล่า ทุกอย่างควรสิ้นสุดที่ศาล เพราะรัฐเสียหาย
ส่วนบางข้อหา ที่ไม่มีบทกำหนดโทษในคดีอาญา อัยการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 4 แสนกว่าบาท โดยเฉพาะเสือดำ แต่ความเสียหายในระบบนิเวศน์ เรื่องนี้ปรึกษากับพนักงานสอบสวน และทางกรมอุทยานฯแล้ว ส่วนสำนวนเกี่ยวกับอาวุธปืน ติดสินบนเจ้าพนักงาน ครอบครองงาช้างผิดกม. ได้ส่งให้พนักงานอัยการไปหมดแล้ว มั่นใจทุกสำนวนรัดกุม ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ส่งไปตั้งแต่ต้น หลักฐานพอมี ก็ต้องฟ้องเห็นควรจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกข้อหา.
วานนี้ (5 เม.ย.) นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง กรณีอัยการภาค 7 มีความเห็นสั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 6 ข้อหา จาก 11 ข้อหาว่า สำหรับ 6 ข้อหา ที่อัยการสั่งฟ้องนายเปรมชัย ถือเป็นคดีหลักที่มีความครอบคลุมในการทำความผิด ส่วนที่เหลือถือเป็นคดีประกอบ ซึ่งศาลจะพิจารณาคดีหลักที่มีโทษสูงเป็นหลัก จึงถือว่าเรายอมรับได้
ส่วนค่าเสียหายทางคดีอาญาเกี่ยวกับเสือดำที่ถูกยิงตาย จำนวน 4.6 แสนบาทนั้น คงเป็นการคำนวณเฉพาะในส่วนของเสือดำ ซึ่งกรมอุทยานยังต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งคู่ขนานไปกับในส่วนของคดีอาญาด้วย โดยคณะกรรมการพิจารณาคิดคำนวณค่าเสียหายทางแพ่ง กรมอุทยานฯ จะมีการพิจารณาคิดวิเคราะห์ค่าเสียหายต่อระบบนิเวศประกอบ เพื่อดำเนินการต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึง กรณีอัยการภาค 7 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย อีก 5 ข้อหา ว่า อำนาจการฟ้อง หรือไม่ฟ้อง เป็นของอัยการ ต้องเคารพในอำนาจหน้าที่ของท่าน แต่ขณะนี้อัยการภาค 7 ยังไม่ได้ส่งความเห็นมา ถ้าส่งมาถึง ก็จะเรียกประชุมแนวทางที่ตำรวจเห็นแย้ง เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถลงความเห็นได้
ทั้งนี้ตน ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผบช.ภ.7 เรียบร้อยแล้ว เมื่อทำความเห็นเสร็จ ก็ส่งกลับไปที่อัยการภาค 7 หลังจากนั้น อัยการภาค 7 ก็จะส่งไปที่อัยการสูงสุดเอง ยืนยัน ไม่ได้มีความขัดแย้งกับอัยการ การลงความเห็นต่าง เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นหน้าที่ เป็นความเห็นทางอาญา
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า ทางตำรวจเห็นแย้งทุกข้อหา ที่ไม่สั่งฟ้อง เช่น เรื่องพยายามล่าสัตว์ ที่สั่งฟ้อง นายธานี ทุมมาศ แต่ไม่สั่งฟ้องคนอื่น นายธานี เอาปืนของนายเปรมชัยไปยิง ถ้าไม่ผิด ก็มีต้องมีความผิดฐานสนับสนุน แต่การเข้าไปหรือพาอาวุธปืนเข้าไป นายวิเชียร ชินวงษ์ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ไม่มีอำนาจในการอนุญาต การอนุญาตเป็นอำนาจ เขตบ้านโป่ง หรือ ผอ.สำนักใน กทม. ทางกรมยืนยันมาแบบนี้ ประกอบกับกรณีนี้ รัฐเสียหาย ค่าธรรมเนียมไม่ได้เก็บ เหตุที่ผมแย้งส่วนใหญ่ ขอชี้แจงว่า เมื่อมีข้อหาตามกฎหมาย ถ้าตนทำทองไม่รู้ร้อน เดี๋ยวก็จะโดนว่าอีก ต้นเหตุคือ เงิน 110 บาท ค่าเข้าอุทยานฯ หรือไม่นั้น พวกคุณคิดเอาเองแล้วกัน ถ้าไม่เข้าไป มันจะล่าสัตว์ได้หรือเปล่า ทุกอย่างควรสิ้นสุดที่ศาล เพราะรัฐเสียหาย
ส่วนบางข้อหา ที่ไม่มีบทกำหนดโทษในคดีอาญา อัยการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 4 แสนกว่าบาท โดยเฉพาะเสือดำ แต่ความเสียหายในระบบนิเวศน์ เรื่องนี้ปรึกษากับพนักงานสอบสวน และทางกรมอุทยานฯแล้ว ส่วนสำนวนเกี่ยวกับอาวุธปืน ติดสินบนเจ้าพนักงาน ครอบครองงาช้างผิดกม. ได้ส่งให้พนักงานอัยการไปหมดแล้ว มั่นใจทุกสำนวนรัดกุม ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ส่งไปตั้งแต่ต้น หลักฐานพอมี ก็ต้องฟ้องเห็นควรจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกข้อหา.