xs
xsm
sm
md
lg

"อุตตม"จับมือญี่ปุ่นดันSMEs หนุนไทยสู่ฮับนวัตกรรมใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

"อุตตม" จับมือญี่ปุ่น เร่งพัฒนาผู้ประกอบการใหม่(สตาร์ทอัพ) ด้านนวัตกรรม หวังชูไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมใหม่ในภูมิภาค ผุดโครงการ Open Innovation Columbus คัด 30 สตาร์ทอัพเชื่อมญี่ปุ่น “60บิ๊ก บราเธอร์ญี่ปุ่น” จับคู่ SMEs ไทยพัฒนาเข้าถึงเทคโนโลยี และพัฒนาหลักสูตรปั้นบุคลากรให้เข้าถึงเทคโนโลยี คาดเห็นรูปธรรมไตรมาส 2 ด้านรมว.ญี่ปุ่น จ่อบินมาติดตามความคืบหน้าพ.ค.นี้

วานนี้ (22 มี.ค.) นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของนายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ว่า ทูตญี่ปุ่นได้แจ้งความคืบหน้าการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) ที่ก่อนหน้าไทยได้ลงนามความร่วมมือกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (เมติ) แล้วก่อนหน้านี้ 3 โครงการซึ่งจะเห็นผลรูปธรรมในไตรมาส 2 นี้ ได้แก่ 1. โครงการ Open Innovation Columbus ซึ่งเป็นโครงการที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่( startup)ญี่ปุ่น เข้ามาร่วมมือกับธุรกิจ startup ในประเทศไทยพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)เพื่อให้สร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมใหม่(New Innovation Hub)ของภูมิภาคอาเซียนนอกประเทศญี่ปุ่น

" โครงการ Open Innovation Columbus เพื่อความร่วมมือในการพัฒนาสตาร์ทอัพ (Startup) ที่มุ่งเน้น การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องอินเทอร์เน็ตเชือมโยงทุกสิ่ง ( Internet of Things) หรือ IoT มาใช้ในธุรกิจ เพื่อที่จะใช้ไทยให้เป็นศูนย์กลางเทคโยลีใหม่ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งทีมงานร่วมกันแล้วซึ่งทางญี่ปุ่นขอให้ไทยคัดเลือกผู้ประกอบการรายใหม่ที่น่าจะเข้าข่ายนำร่องเบื้องต้น 30 รายและทางญี่ปุ่นจะมาพิจารณาเลือกผู้ประกอบการใหม่ของญี่ปุ่นมาจับคู่กับไทย "นายอุตตมกล่าว

ทั้งนี้นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น(เมติ)จะเดินทางมาไทยประมาณพ.ค.นี้เพื่อจะมาประชุมโต๊ะกลมร่วมกับไทยในการติดตามความคืบหน้านโยบายConnected Industries ซึ่งก็คล้ายกับอุตสาหกรรม 4.0 ของไทย อย่างไรก็ตามแนวทางการพัฒนาสตาร์ทอัพดังกล่าวฝ่ายไทยเองจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ที่จะจัดแพคเกจส่งเสริมการลงทุนให้เหมาะสมกับการพัฒนาด้วย

2. โครงการพี่ช่วยน้อง (Big Brother ) ที่จะเชื่อมโยงระหว่างเอสเอ็มอีญี่ปุ่นและเอสเอ็มไทยในการเข้าถึง เทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT และการถ่ายทอดเทคโนโลยี สู่CLMVT และออกสู่เวทีโลกต่อไป โดยทางญี่ปุ่นคัดเลือก 60 บริษัท เป็น บิ๊ก บราเธอร์ เข้ามาช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เอสเอ็มอีไทย ภายใต้ โครงการ Lean Automation System Integrator (LASIs) ขณะที่ไทยโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.)จะประสานความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)คัดเลือกผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการนี้ 33 บริษัท จาก 11 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. พร้อมเชื่อมกับโครงการยกผลิตภาพของเอสเอ็มอีไทยเป้าหมายรวม 10,000 กิจการ

3. โครงการ Flex Campus จะเป็นการพัฒนาผู้ประกอบการไทยตามแนวประชารัฐที่จะร่วมกับสถาบันการศึกษาในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อพัฒนาบุคคลากรที่มุ่งสู่การเข้าถึงเทคโนโลยีให้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้มีองค์กรจากญี่ปุ่นสนใจประมาณ 40-50 ราย โดยจะเป็นการเสนอหลักสูตรพัฒนาปีต่อปีโดยปีแรกจะเริ่มในปีนี้ที่จะสอดรับกับเทคโนโลยีใหม่ด้าน IoT ที่ญี่ปุ่นจะมาเพิ่มเติมในหลักสูตรของสถาบันการศึกษาไทยโดยผ่านทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ในการนำผู้ประกอบการเข้าร่วม.


กำลังโหลดความคิดเห็น