xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"หมั่นไส้คนรู้ทันคสช. งัดม.44ปลดสมชัยพ้นกกต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (20มี.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2561 เรื่อง ให้กรรมการการเลือกตั้ง ยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่ มีใจความว่า
ด้วยนายสมชัย ศรีสุทธยากร กรรมการการเลือกตั้ง ได้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในกรณีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความเห็นของตนเกี่ยวกับกระบวนการ และกำหนดการการเลือกตั้ง ด้วยถ้อยคำที่ไม่สมควรในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความสับสน อันจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และการจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากรได้สมัครเข้ารับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งเสียก่อน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจากตนเองเป็นผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องดังกล่าวโดยตรง และจะส่งผลต่อความถูกต้อง และเป็นธรรมในการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงไม่สมควรให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งต่อไป เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส และเป็นธรรม แก่ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกรายอื่นๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้โดยที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดให้ประธานกรรมการการเลือกตั้ง หรือกรรมการการเลือกตั้ง ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับยังคงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และไม่กระทบต่อการเตรียมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความสงบและบริหารจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปองค์กรตามรัฐธรรมนูญภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับ มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับเป็นต้นไป
ข้อ 2 ในกรณีที่ผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการการเลือกตั้งหรือกรรมการการเลือกตั้ง ตามมาตรา 70 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มีอายุครบ70 ปี ให้ผู้นั้นยังคงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวต่อไปจนกว่าประธานกกต. และกกต.ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
บทบัญญัติตาม วรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของบทเฉพาะกาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560
ข้อ 3 คำสั่ง นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. สั่ง ณ วันที่ 20 มีนาคม 2561
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวถึงกรณีถูกสั่งปลดออกจากการทำหน้าที่กกต. ว่า เป็นดุลพินิจของผู้มีอำนาจที่คิดว่าเหมาะสมก็ให้ดำเนินการไป โดยยืนยันว่าการให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมา อยู่บนพื้นฐานการรักษาผลประโยชน์บ้านเมือง ไม่ได้มุ่งเอาใจใคร และการสมัครเลขาฯกกต. ก็เป็นเพราะมีคุณสมบัตที่จะสมัครได้ โดยเชื่อว่า กกต.ชุดปัจจุบันคงไม่กล้าเลือกตนเป็นเลขาฯกกต. เพราะรู้ดีว่า หากตนได้เป็นเลขาฯกกต. อาจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อ ความต้องการของผู้มีอำนาจในบ้านเมืองได้ ทั้งนี้ เมื่อพ้นตำแหน่งแล้ว ก็จะหาแนวทางอื่นในการทำประโยชน์ให้บ้านเมืองต่อไป
นายสมชัย กล่าวว่าขอเวลา 2-3 วัน ในการเก็บของ คิดว่าสำนักงาน กกต. คงไม่ใจร้ายให้เก็บของให้เสร็จภายในวันนี้ และเดิมทีจะไปร่วมสัมมนาเตรียมงานการเลือกตั้ง ของสำนักงานในวันนี้ (21มี.ค.) ก็คงไม่ได้ไปแล้ว เพราะไม่มีหน้าที่แล้ว ส่วนการประชุมพรรคการเมืองเก่า ในวันที่ 28 มี.ค. ซึ่งมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วม จึงได้ยกเลิกการเดินทางไปต่างประเทศนั้น ก็คงไม่ได้ไปร่วม ยกเว้นจะไปร่วมในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
"ผมไม่รู้สึกเสียใจต่อคำสั่งที่ออกมา โดยก่อนหน้านี้ก็พยายามหาทางที่จะออกจากตำแหน่งอยู่แล้ว และรู้ว่าตัวเองสุ่มเสี่ยงมาโดยตลอดกับการที่จะถูกคสช.ปลด เพราะให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ไม่ถูกใจใคร แต่ถือว่าทำตามหน้าที่ ซึ่งอาจมีคนเห็นว่าไปขัดผลประโยชน์จนทนไม่ได้ แต่การเป็น กกต. ก็มีหน้าที่ชี้ว่า สิ่งใดถูกและสิ่งใดผิด" นายสมชัย กล่าว
นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึงการปฎิบัติหน้าที่ของกกต. หลังหัวหน้าคสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งให้นายสมชัย ยุติการปฏิบัติหน้าที่ว่า ไม่มีปัญหา กกต. ที่เหลือก็จะปฏิบัติหน้าที่ 4 คน ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุม ส่วนงานด้านบริหารกลางที่นายสมชัย ดูแลอยู่นั้น ปกติกกต.ไม่ได้คุมงานบริหาร ให้แต่นโยบายอย่างเดียว ซึ่งในส่วนนี้อยู่ในการดูแลสำนักงานและเลขาธิการกกต.
ส่วนการต่ออายุของประธานกกต. และ กกต. บางคนที่จะมีอายุครบ 70 ปีให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่นั้น ก็ไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน โดยผู้ที่จะมีอายุครบ 70 ปี คือ นายบญส่ง น้อยโสภณ กกต. ที่จะครบอายุในวันที่ 7 สิงหาคมปีนี้ และ ตัวเองที่จะครบอายุ 8 กุมภาพันธ์ ปีหน้า ก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่


กำลังโหลดความคิดเห็น