ธปท. ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้จัดพิมพ์ และออกใช้ธนบัตรแบบใหม่ทุกชนิดราคา เพื่อใช้เป็นธนบัตรหมุนเวียนทั่วไป เริ่มนำออกใช้ วันจักรี 6 เม.ย.นี้
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงว่า ธปท.ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้จัดพิมพ์ และออกใช้ธนบัตรแบบใหม่ (แบบ 17) ทุกชนิดราคา เพื่อใช้เป็นธนบัตรหมุนเวียนทั่วไป โดยได้รับพระราชทานวันออกใช้ธนบัตร ดังนี้ ชนิดราคา 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท ออกใช้ใน วันจักรี 6 เม.ย.61 ส่วนชนิดราคา 500 บาท และ 1000 บาท ออกใช้ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร วันที่ 28 ก.ค. 61
ทั้งนี้ ด้านหน้าของธนบัตร ได้รับพระราชทานพระสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศของกองทัพอากาศ เป็นภาพประธานในธนบัตรทุกชนิดราคา ส่วนด้านหลังธนบัตรแต่ละชนิดราคา เชิญพระบรมสาทิสลักษณ์พระมหากษัตริย์ 2 พระองค์ เรียงตามลำดับรัชกาล โดยมีภาพประกอบเป็นภาพหนึ่งในพระราชกรณียกิจสำคัญของแต่ละพระองค์ ที่มีความโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และจารึกอยู่ในความทรงจำของพสกนิกรชาวไทย
สำหรับธนบัตรแบบ 17 นี้ มีขนาด และโทนสี เช่นเดียวกับธนบัตรแบบ 16 โดยลักษณะต่อต้านการปลอมแปลง ยังคงลักษณะสำคัญของธนบัตรไทยไว้ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ได้ปรับปรุงใหม่ในบางส่วนให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ดังนี้ แถบสีโลหะ ปรากฏที่ด้านหน้าของธนบัตร และในชนิดราคา 100 บาท ภายในแถบสี มีการเคลื่อนไหว ขณะที่หมวดอักษรโรมันและเลขหมายอารบิก ปรับวางตามแนวตั้ง
นายวิรไท กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทยไม่มีนโยบายการยกเลิกใช้ธนบัตรเดิมอย่างแน่นอน โดยยังคงมีการใช้ควบคู่กับธนบัตรแบบใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ธนบัตรรุ่นเก่าจะหมุนเวียนอยู่ประมาณ 3 ปี จึงจะหมดจากตลาดไป ปัจจุบันมีธนบัตรหมุนเวียนในระบบทั้งสิ้น 5.5 พันล้านฉบับ คิดเป็นมูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ กระบวนการผลิตหลักจะเป็นการผลิตธนบัตรแบบ 17
สำหรับประชาชนสามารถเบิกถอนธนบัตรแบบใหม่นี้ได้ตามช่องทางปกติ ผ่านธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมถึงธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงว่า ธปท.ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้จัดพิมพ์ และออกใช้ธนบัตรแบบใหม่ (แบบ 17) ทุกชนิดราคา เพื่อใช้เป็นธนบัตรหมุนเวียนทั่วไป โดยได้รับพระราชทานวันออกใช้ธนบัตร ดังนี้ ชนิดราคา 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท ออกใช้ใน วันจักรี 6 เม.ย.61 ส่วนชนิดราคา 500 บาท และ 1000 บาท ออกใช้ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร วันที่ 28 ก.ค. 61
ทั้งนี้ ด้านหน้าของธนบัตร ได้รับพระราชทานพระสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศของกองทัพอากาศ เป็นภาพประธานในธนบัตรทุกชนิดราคา ส่วนด้านหลังธนบัตรแต่ละชนิดราคา เชิญพระบรมสาทิสลักษณ์พระมหากษัตริย์ 2 พระองค์ เรียงตามลำดับรัชกาล โดยมีภาพประกอบเป็นภาพหนึ่งในพระราชกรณียกิจสำคัญของแต่ละพระองค์ ที่มีความโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และจารึกอยู่ในความทรงจำของพสกนิกรชาวไทย
สำหรับธนบัตรแบบ 17 นี้ มีขนาด และโทนสี เช่นเดียวกับธนบัตรแบบ 16 โดยลักษณะต่อต้านการปลอมแปลง ยังคงลักษณะสำคัญของธนบัตรไทยไว้ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ได้ปรับปรุงใหม่ในบางส่วนให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ดังนี้ แถบสีโลหะ ปรากฏที่ด้านหน้าของธนบัตร และในชนิดราคา 100 บาท ภายในแถบสี มีการเคลื่อนไหว ขณะที่หมวดอักษรโรมันและเลขหมายอารบิก ปรับวางตามแนวตั้ง
นายวิรไท กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทยไม่มีนโยบายการยกเลิกใช้ธนบัตรเดิมอย่างแน่นอน โดยยังคงมีการใช้ควบคู่กับธนบัตรแบบใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ธนบัตรรุ่นเก่าจะหมุนเวียนอยู่ประมาณ 3 ปี จึงจะหมดจากตลาดไป ปัจจุบันมีธนบัตรหมุนเวียนในระบบทั้งสิ้น 5.5 พันล้านฉบับ คิดเป็นมูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ กระบวนการผลิตหลักจะเป็นการผลิตธนบัตรแบบ 17
สำหรับประชาชนสามารถเบิกถอนธนบัตรแบบใหม่นี้ได้ตามช่องทางปกติ ผ่านธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมถึงธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)