xs
xsm
sm
md
lg

สนช.คว่ำ7ว่าที่กกต. ปูดใบสั่งคสช.ล้มกระดาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“สภาฝักถั่ว” ลงมติไม่เห็นชอบ 7 รายชื่อที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ชุดใหม่ ปูดใบสั่ง คสช.นาทีสุดท้ายสั่งล้มกระดานสรรหาใหม่หมด อ้างปมที่มา 2 ตัวแทนศาลไม่ถูกต้อง ไร้ผู้มีประสบการณ์ตรงจัดเลือกตั้ง “สมชัย” เชื่อไม่กระทบโรดแมปเลือกตั้ง

วานนี้ (22 ก.พ.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งผ่านการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม จากคณะกรรมาธิการฯแล้วจำนวน 7 คน ประกอบด้วยบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหา 5 คน ได้แก่ นายประชา เตรัตน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และ นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ หัวหน้าสำนักงานกฎหมายสุธีรชาติ ส่วนอีก 2 รายเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้แก่ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และ นายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา

หลังเข้าสู่วาระการประชุม ประธานในที่ประชุมได้สั่งให้มีการประชุมลับ เพื่อพิจารณารายงานการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะเปิดให้ลงมติโดยเป็นการลงมติลับด้วยการเข้าคูหากาบัตรลงคะแนน ผลปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 ราย ด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้น ดังนี้ นายฐากร ไม่เห็นชอบด้วยคะแนน 156 เห็นชอบ 27 งดออกเสียง 17, นายเรืองวิทย์ ไม่เห็นชอบด้วยคะแนน 175 เห็นชอบ 10 งดออกเสียง 14, นางชมพรรณ์ ไม่เห็นชอบด้วยคะแนน 168 เห็นชอบ 16 งดออกเสียง 16, นายอิสสรีย์ ไม่เห็นชอบด้วยคะแนน 149 เห็นชอบ 30 งดออกเสียง 21, นายประชา ไม่เห็นชอบด้วยคะแนน 125 เห็นชอบ 57 งดออกเสียง 86, นายฉัตรไชย ไม่เห็นชอบด้วยคะแนน 128 เห็นชอบ 46 งดออกเสียง 26 และ นายปกรณ์ ไม่เห็นชอบด้วยคะแนน 130 เห็นชอบ 41 งดออกเสียง 29

รายงานข่าวแจ้งว่า การที่ สนช. ไม่ให้ความเห็นชอบผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อไปเป็นกรรมการขององค์กรอิสระ ถือเป็นครั้งแรกที่โหวตคว่ำยกชุด โดยขั้นตอนต่อไป สนช. จะต้องรายงานการประชุมไปให้คณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อดำเนินการสรรหาบุคคลมาให้ สนช. ลงมติให้ความเห็นชอบใหม่อีกครั้ง ขณะที่ทั้ง 7 คนดังกล่าว จะไม่สามารถกลับมาสมัครใหม่ได้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย กกต.ฉบับใหม่

รายงานข่าวระบุด้วยว่า สาเหตุที่ สนช. มีมติไม่ให้ชอบทั้งหมด แม้ว่าทั้ง 7 รายจะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ แต่เนื่องจาก สนช. เห็นว่า งานของกกต.ตามรัฐธรรมนูญใหม่ มีภารกิจสำคัญเรื่องการเลือกตั้ง จึงอยากได้บุคคลที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการทำงาน ซึ่งสมาชิก สนช. ส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อมั่นในฝีมือของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของสาธารณชน และยังไม่เคยแสดงฝีมือการทำงานให้เป็นที่ประจักษ์ อีกทั้งในส่วนของผู้ได้รับการเสนอชื่อจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คน อาจมีปัญหาเรื่องที่มาการสรรหาว่ามีการดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ อาจทำให้มีผู้ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยขั้นตอนการสรรหาของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาในภายหลัง

สมาชิก สนช.รายหนึ่งอ้างด้วยว่า การลงคะแนนของสมาชิกสนช. เป็นการตัดสินใจแบบกะทันหัน หลังจากที่มีการถกกันในการประชุมลับ ซึ่งการลงคะแนนแบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่าสมาชิกสนช. ไม่มั่นใจในกรรมการสรรหา ไม่เชื่อมั่นในกรรมการสรรหา ไม่รู้ไปทำงานกันมาอย่างไร ถึงออกมาเช่นนี้

ขณะที่สมาชิก สนช.อีกรายหนึ่ง ยอมรับว่า มีสัญญาณชัดจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้คว่ำการสรรหาทั้ง 7 คนจริง เพราะ 2 เหตุผล คือ 1.ตัวแทนจากศาลฎีกา 2 คน มาจากการสรรหาโดยใช้วิธีการลงคะแนนอย่างเปิดเผยถูกต้องหรือไม่ และ 2.มีความกังวลว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อประมาณ 2-3 คน อาจทำงานไม่ได้ เพราะไม่มีประสบการณ์ด้านการเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันฝ่าย สนช. เอง ก็ไม่สามารถให้ความเห็นชอบอีก 2 คนที่เหลือได้ และเกรงจะถูกมองว่าไม่ให้เกียรติศาล จึงมีความเห็นว่าต้องคว่ำให้หมดทั้ง 7 คน

ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. และในฐานะหนึ่งในกรรมการสรรหาฯกล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องดำเนินการสรรหากกต.ทั้ง 7 คนใหม่ โดยเลขาธิการวุฒิสภาจะส่งหนังสือไปยังประธานศาลฎีกาในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา เพื่อดำเนินการสรรหาใหม่ทั้งในขั้นตอนของการสรรหาโดยคณะกรรมการสรรหา และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ซึ่งจะต้องดำเนินการสรรหาใหม่ให้เสร็จภายในกรอบเวลา 90 วัน และขอให้มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เนื่องจากกกต.ชุดปัจจุบันยังสามารถดำรงตำแหน่งได้อยู่

ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวว่า สนช.ควรมีคำอธิบายว่าผู้สมัครทั้ง 7 คน มีปัญหาเรื่องใด จะได้เป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่จะต้องดำเนินกระบวนการสรรหาใหม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่ามีจุดอ่อนใด เพราะถ้าไม่มีเหตุผลเลยก็จะเป็นปัญหาต่อกระบวรการสรรหาในครั้งหน้าได้ อย่างไรก็ตามการสรรหาใหม่คงต้องใช้เวลา 5-6 เดือน กว่าจะมี กกต.ใหม่ แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบใดต่อโร๊ตแมปการเลือกตั้ง เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันยังคงทำหน้าที่ต่อไป.


กำลังโหลดความคิดเห็น