xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ทนทุกข์มานับ 10 ปี!! เปิดเหตุ ดราม่า “ป้าทุบรถ”ต่อสู้เพื่อสิทธิหน้าบ้านตัวเองมานาน ขึ้นศาลนับไม่ถ้วน ตลาดเดิมไม่ปิด ยังเปิดตลาดใหม่เป็นดอกเห็ด ตื้นลึกอย่างไร “หม่อมหมู”อดีตผู้ว่าฯ กทม. น่าจะรู้ดี ก็ขนาดตำรวจยังแหยงบอก“ตลาดเส้นใหญ่”

ก็โดนคุกคามมากว่า 10 ปี .. การแสดงออกก็อาจ “เกินกว่าเหตุ”ไปบ้าง ดราม่า “ป้าทุบรถ”สองพี่น้องตระกูล “แสงหยกตระการ” เจ้าของบ้านในซอยศรีนครินทร์ 55 ย่านสวนหลวง ร.9 ที่ “บันดาลโทสะ”ใช้ขวาน-ท่อนเหล็ก ทุบรถยนต์ที่จอดขวางทางเข้าออกบ้านเป็นเวลานาน .. เหตุการณ์ทุบทำลายรถมันแค่“ปลายเหตุ”ความรับผิดชอบค่าเสียหายก็ว่าไปตามกระบวนการ ที่ “เจ้าของรถ”ไปแจ้งความไว้แล้ว .. ต้องเข้าใจว่า“บ้านแสงหยกตระการ”ถูกคุกคามโดย“ตลาดนัด”ที่ผุดขึ้นรายล้อมบ้านพักมาเป็นเวลานาน .. หากประมวล “ความทุกข์”ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา คงร่ายกันไม่หมด ทั้งมลภาวะจากตลาด เหตุเดือดร้อนรำคาญต่างๆ กระทั่งความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน .. ร้ายกว่านั้นยังเจอเอาเลขที่บ้านไปแอบอ้างรับคนงานต่างด้าว สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายอีกต่างหาก .. จึงไม่น่าแปลกใจ หลังเกิดเหตุ “ทีมป้า”เพียบไปหมด กระแสให้กำลังใจการต่อสู้เพื่อ “สิทธิหน้าบ้าน”สนั่นโซเชียล
พอยิ่งขุดเรื่องราวตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นมา ก็ยิ่งน่าเห็นใจ .. ตั้งแต่ตลาดตั้งไข่เริ่มกิจการตั้งแต่เมื่อปี 2551 กระทั่งมีการนำเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล หลายคดี ก็ยังค้างอยู่ในชั้นศาล ที่ชัดๆ ก็เมื่อปี 2553 ที่ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการปิดตลาดไปแล้ว .. ในคำสั่งศาลเมื่อปี 2553 ระบุให้อำนาจการจัดตั้งตลาดเป็นของ“ผู้ว่าฯกทม.”และ “ผอ.เขตประเวศ”ในขณะนั้น .. “ตัวละครลับ”คนหนึ่งก็ “หม่อมหมู”ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ ขวัญใจมหาชน เจ้าของสโลแกน “ทั้งชีวิตเราดูแล”อีกคนชื่อ สมชาย ฉัตรสกุลเพ็ญ ผอ.เขตประเวศ ในขณะนั้น ที่น่าจะรู้ตื้นลึกหนาบางดี .. น่าเห็นใจมากขึ้นไปอีก เพราะไม่เพียงตลาดนัดยังเปิดมาต่อเนื่อง แล้วก็ยังผุดขึ้นมาอีกนับสิบแห่ง ในละแวกเดียวกัน .. ความผิดมันตำตาก็ด้วยพื้นที่ปัญหาอยู่ใน “หมู่บ้านเสรีวิลล่า”ที่จัดสรรเพื่อที่อยู่อาศัย แต่กลับปล่อยให้มีตลาดทำการพาณิชย์ได้อย่างไร .. สำรวจตรวจสอบรายชื่อ“เจ้าของตลาด”แถวนั้นที่ปรากฏชื่อนับสิบราย ก็“โนเนม”อาจจะมีที่ “นามสกุลดัง”อยู่บ้าง จนอาจพอสรุปว่า ส่วนใหญ่น่าจะเป็น“นอมินี”มีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่อีกชั้นหนึ่ง .. ก็เห็นว่าขนาด “ตำรวจ 191”ยังเคยยอมรับเลยว่า แบบนี้ “ตลาดเส้นใหญ่”แน่ .. เส้นใหญ่ถึงขนาดที่ทำให้ “ผู้ว่าฯกทม.-ผอ.เขต”ละเลยการดูแลทุกข์สุขประชาชน

** ใจเพชรยังมีหวั่น!! สารพัดเหตุ“อวมงคล”ถาโถม สั่งแก้เคล็ดกันวุ่น ทั้งที่ควรหวั่นใจ“วาระปราบโกง”ที่กำลังถูกประจานว่าเป็น“ปาหี่”มากกว่า ทั้งดัชนีจ่ายใต้โต๊ะพุ่งปรี๊ด หรือคิว“ต่อตระกูล”ทวงถามบทบาท คตช. ที่งดประชุมไปหลายเดือน กระทั่งปมอ้างชื่อ“พี่น้อง 3 ป.”เรียกรับประโยชน์ที่ วนลูปมาเรื่อย

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ .. ช่วงขาลง อะไรๆมันก็ดูไม่ดีไปหมด แล้วก็ยังมีอะไรที่ส่อไปในทาง“ไม่เป็นมงคล”ประดังประเดมาเรื่อย .. ตั้งแต่อ่างบัวเสริมฮวงจุ้ย เจอรถตำรวจชนแตกเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งที่หน้างานเห็นว่าเป็น“อุบัติเหตุ”แท้ๆ แต่ตามประสา“รัฐบาล 0.4”ก็สั่งให้คนวิ่งโร่เอา“โคมเต็งลั้ง” มาแขวน“แก้เคล็ด”ให้อุ่นใจ .. พอเผลอหน่อย ก็มีธูป 36 ดอก มาปักหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ที่ทำงาน“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เชื่อกันว่าเป็นฝีมือ “คนใน”ที่คงหวังดี“แก้เคล็ด”ให้อีกรอบ .. ที่มันตลกก็“บิ๊กรัฐบาล”สั่งควานหา “มือปักธูป”ด้วยระแวง หวั่นถูกทำ“คุณไสย”สาปแช่งให้แย่ไปกว่าที่ เป็นอยู่ ว่าเข้าไปนั่น .. มาสัปดาห์นี้อ่างบัวใบใหม่มาเปลี่ยนสวยงาม กระถางต้นข่อยข้างๆ ก็ดันแตกโพล๊ะ ซะงั้น .. ตามมาด้วย“อีกา 2 ตัว”รุมทึ้งศพนกพิราบอย่างเมามัน ตรงถนนหน้าตึกไทยฯที่เดิม .. หากพิเคราะห์ตามหลักความเชื่อ ทั้งหมดย่อมเข้าเค้า“เหตุอวมงคล”ทั้งสิ้น จนทำเอา“ลุงตู่”เจ้าของซิงเกิ้ล “ใจเพชร”ยังแอบหวั่น .. ทั้งที่เรื่องน่าหวั่นใจ หาใช่ใครมาทำคุณไสย สาบแช่งกระไรหรอก คะแนนนิยมที่ดิ่วเหว ก็ด้วยตัวเองทำตัวเองล้วนๆ .. เอาแค่ “วาระแห่งชาติ”ที่เคยประกาศ “ปราบโกง”โครมคราม วันนี้มี “ดัชนี”ออกมาฟ้องว่า ไม่เพียงไม่ปราบแล้ว ยังปล่อยให้ระบาดระเบ้อไม่ต่างจาก“รัฐบาลเลือกตั้ง”..วันก่อน “ม.หอการค้าไทย”ออกดัชนีมา ผ่านการทำสำรวจด้วยการ“สัมภาษณ์”ผู้ที่เกี่ยวข้องวงการรับเหมางานภาครัฐ ตัวเลขการจ่ายเงินใต้โต๊ะสูงสุดในรอบ 3 ปี .. แทนที่จะยอมรับความจริง“พะนะท่าน”กลับพลิ้วไปว่า เป็นเพียงการประเมินทางวิชาการเท่านั้น ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน ประมาณว่า “เลือกฟังเฉพาะที่อยากฟัง”นั่นแหละ ..
ไม่เท่านั้นคิวของ “คนใน”อย่าง ต่อตระกูล ยมนาค ประธานอนุกรรมการฯในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่มี “นายกฯตู่”เป็นประธาน ทำหนังสือให้ คตช.แสดงบทบาท หลังไม่ได้มีการประชุมมาร่วม 4 เดือน .. ก็ฟ้องให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจ ในการปราบโกงอย่างเข้มข้นตามที่พูด อ่านไม่ยากว่า เหตุที่ คตช.งดประชุมมาหลายเดือน ก็ด้วย“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ติดปม“นาฬิกาหรู”ก็เป็นกรรมการ คตช. อยู่ด้วย .. หากทะลึ่งนัดประชุม ก็ย่อมมีกรณี “นาฬิกาหรู”มากางรอบนโต๊ะนั่นเอง .. ตามาด้วยข่าวคุ้นหู การอ้างชื่อ “3 ป.”เรียกรับผลประโยชน์ ที่เห็นว่า “บิ๊กตู่”โพล่งขึ้นมาอีกครั้งในที่ประชุม ครม. .. รับรู้กันดีว่า “3ป.ปลา”ก็มี “ป.ประยุทธ์ –ป.ป้อม”และ“ป.ป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา .. แล้วก็ตามสคริปต์ เมื่อ “พี่น้อง 3 ป.”ยืนยันไม่เคยสั่งให้ใครไปเรียกรับผลประโยชน์ พร้อมขู่ฟ่อว่า หากรู้ว่าใครไปแอบอ้าง ก็จะเอาเรื่อง“ไอ้คนนั้น”.. ต้องยอมรับว่า เรื่องแบบนี้หา “ใบเสร็จ”ยาก ใครทำอะไร หรือไม่ได้ทำอะไร ก็รู้อยู่แก่ใจ .. ทว่ามันน่าสังเกตอยู่อย่างว่า ตลอดเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ก็มีข่าวในทำนอง แอบอ้างชื่อ “3 ป.” ไปเรียกรับผลประโยชน์บ่อยๆ ทุกครั้ง“บิ๊ก คสช.”ก็เรียงหน้าปฏิเสธทุกที .. หากเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมมาถึงวันนี้ ก็ยังมีการแอบอ้างชื่อ“พี่น้อง 3 ป.”อยู่อีก ...จริงอยู่อาจเป็นระดับนำในรัฐบาล แต่หากอ้างแล้ว-จ่ายแล้ว ไม่ได้มรรค-ผล ก็ไม่รู้จะอ้างไปทำมะเขืออะไร มุกนี้ก็คงขายไม่ออก ไม่ถูกแอบอ้างมาจนป่านนี้หรอกมั้ง??.

** อวสานหวย 30 ล้าน!! ใกล้บทสรุป“หมวดจรูญ”ภาษีดีกว่า ส่วน“ครูปรีชาและพวก”ส่องานเข้า หลังรูปการณ์ไม่สู้ดีมาเรื่อย ยิ่งพอมีชื่อ“เทอดศักดิ์ เจียมฯ” โผล่เป็นกุนซือ ก็ยิ่งชัด งานนี้ลุ้นแค่ใครโดนหมายจับบ้าง-คนละกี่กระทง

ยังไม่จบบริบูรณ์ .. มหากาพย์ลอตเตอรี่ 30 ล้าน ที่ลากกันมาร่วม 3 เดือน ระหว่าง“หมวดจรูญ”ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ กับ “ครูปรีชา”ปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนในจ.กาญจนบุรี .. สืบสาวราวเรื่องอยู่นาน ย้ายมือจาก“ตำรวจภูธร ภาค 7”มาให้ “กองปราบปรามฯ”รับผิดชอบแทน .. หลังไล่สอบพยานมากกว่า 30 ปาก ก็มี “ข่าวลือ”(อีกครั้ง)ว่า ทางตำรวจสรุปสำนวนได้แล้วว่า ลอตเตอรี่ 533726 ที่ถูกรางวัลที่ 1 งวด 1 พ.ย. 60 จำนวน 5 ใบ เป็นของ “หมวดจรูญ”ผู้ถือกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ต้น .. แม้จะเป็นแค่“ข่าวโคมลอย”แต่ทิศทางคดีตอนนี้ก็เป็นที่รับรู้กันว่า เอียงไปทาง “หมวดจรูญ”มากกว่าอีกฝ่าย .. แต่ไม่ว่าออกหน้าไหน มันก็ต้องมี“คนโกหก”ที่ต้องงานเข้า กันอย่างแน่นอน ตอนนี้ชาวโซเชี่ยลฯ ก็ค่อนข้างเป็นห่วง“ครูปรีชาและพวก”ที่ “เล่นใหญ่”กันมานาน .. เห็นว่างานนี้ “หมายจับ”มีแน่ อยู่ที่จะโดนกี่รายเท่านั้น ทางตำรวจกองปราบฯ แบ่งคนเข้าข่ายจะต้องถูกดำเนินคดีไว้ 2 กลุ่ม ..
กลุ่มแรก คนที่เจตนา-สมรู้ร่วมคิดตั้งแต่แรก มีความผิดฐานให้การเท็จเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่น เป็น“คดีอาญา”กลุ่มนี้มี 2 คนด้วยกัน .. ส่วนอีกกลุ่มฐานกระทำความผิดพุ่งเป้าไปที่ “เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.ภ.7”ที่มีข่าวว่าจะโดนหลายรายอยู่ .. แรกเริ่มเดิมทีคดีนี้ “ครูปรีชา”มีภาษีดีกว่า ด้วยจำนวนพยานหลายปาก แต่พอสืบไปสืบมา ก็เข้าทำนองความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนที่พยายามบิดเบือนความจริงกำลังจะตาย .. รูปการณ์ของ“ครูปรีชา”เริ่มดูไม่ดีมาร่วมเดือนแล้ว แล้วยังมีข่าวทำนองว่า“ทีมครูปรีชา”มี “กุนซือระดับ ดร.”วางเกมให้ .. พอเปิดชื่อมาว่าเป็น“ดร.โต้ง”เทอดศักดิ์ เจียมกิจ วัฒนา ผู้มากความสามารถ หยั่งรู้เบื้องลึกในทุกวงการ เท่านั้นแหละ “ชัดเลย”.. ไม่เท่านั้นการที่“ดร.โต้ง”คอยออกทีวี ถือหางฝั่ง “ครูปรีชา”ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่าเดิม ด้วยเครดิตชื่อเสียงที่มักออก“ลูกมั่ว”จนขาดความน่าเชื่อถือ .. มาทรงนี้ ก็คงเป็นอย่างที่“บิ๊กหมู”พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เคยเตือนผู้เกี่ยวข้องไว้ว่า“ถ้าเกิดอะไรขึ้น ต้องรับสภาพนะ”หลังให้โอกาสรับสารภาพ-กลับคำให้การไปแล้ว

ช.ชฎา

รูป-- สองพี่น้องตระกูล“แสงหยกตระการ”
ต่อตระกูล ยมนาค
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ปรีชา ใคร่ครวญ
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา


กำลังโหลดความคิดเห็น