xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

จากทุจริต “เงินทอนวัด” ถึงโกงเงิน “คนไร้ที่พึ่ง” หัวใจ “คุณ” ทำด้วยอะไรครับเจ้านาย?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพขณะกลุ่มนักศึกษาฝึกงานรับผิดชอบงานเอกสาร
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กรณี “ทุจริตเงินทอนวัด” ที่สั่นสะเทือนหัวใจพุทธศาสนิกชนยังไม่ทันจางหาย คดีเศร้าสะเทือนใจก็บังเกิดขึ้นมาอีกครั้งและก่อให้เกิดความหดหู่ไม่แพ้กันเลยทีเดียว นั่นก็คือกรณี ที่มีกาารร้องเรียนเรื่อง“ทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ของ “บิ๊กอู๋ -พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว”

ความฉาวโฉ่ปรากฏต่อความรับรู้ของสาธารณชนเมื่อ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส.) เข้าร้องเรียนต่อสำนักงานเลขาธิการ คสช. เรื่องที่เข้าฝึกงานศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น และถูกสั่งให้ปลอมลายมือชื่อของชาวบ้านในใบเสร็จรับเงิน ร่วม 2,000 ราย

เป็นเหตุให้ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีคำสั่งย้าย “นางพวงพะยอม จิตรคง” ผอ. ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ทันที

ทั้งนี้ เบื้องหลังการเปิดโปงขบวนการโกงเงินคนจนเริ่มต้นจากการที่ น.ส.ปนิดา ยศปัญญา อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเพื่อนอีก 3 คน ถูกส่งตัวไปฝึกงานยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น โดยได้รับมอบหมายให้ไปช่วยงานเอกสาร และส่งผลทำให้รับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้น

โดยทางศูนย์ฯ ให้ทำข้อมูลในเอกสารช่วยเหลือประชาชน เอกสารของผู้ยากไร้ ผู้ป่วยเอดส์และส่งเสริมอาชีพ รวมทั้งให้ปลอมลายมือชื่อของประชาชนในใบเสร็จรับเงิน กว่า 2,000 ชุด เช่น กรอกข้อมูลตามบัตรประชาชน ซึ่งแต่ละรายชื่อต้องกรอก 3-4 คำถาม เขียนรายได้ต่อเดือน กำหนดให้เขียนเดือนละ 1,000 -1,500 บาท หรือสูงสุด 2,000 บาท วุฒิการศึกษาให้เขียนห้ามเกินมัธยมต้น หรือไม่ได้รับการศึกษา เป็นต้น

นักศึกษาทั้งหมดจึงปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา จากนั้นได้มีการเรียกตัวกลุ่มนักศึกษาฝึกงานพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น และทางอาจารย์มีข้อสรุปว่าเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด จึงสั่งให้กลุ่มนักศึกษาขอโทษ โดยมีข้อมูลเปิดเผยว่าให้กราบเท้าขอขมาเจ้าหน้าที่ฯ

จากนั้นช่วงก่อนฝึกงานจบ ผู้ตรวจราชการของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ลงพื้นที่ตรวจงานที่ศูนย์ฯ น.ส.ปนิดาและเพื่อนอีก 3 คน จึงยื่นเรื่องร้องเรียนโดยตรง แต่เรื่องกลับไม่คืบหน้า นักศึกษากลุ่มดังกล่าวจึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อสำนักเลขาฯ คสช. ความว่า ขณะฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ จ.ขอนแก่น ตนกับเพื่อนรวม 4 คน ถูกสั่งให้ปลอมเอกสารข้อมูลสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ผู้ติดเชื้อเอดส์ และกลุ่มส่งเสริมอาชีพ ให้ปลอมลายมือในใบเสร็จ ตามคำสั่งของ ผอ. และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการฝึกงานและเงินกองทุน

“ทุกอย่างที่ทำ ก็เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองและเพื่อประชาชนตามสิทธิที่ควรพึงจะได้ เพราะถ้าเราไม่ปกป้องสิทธิของตัวเอง ไม่ทำเพื่อสังคม เราจะเป็นนักพัฒนาที่ดีได้อย่างไร เรียนมาด้านนี้ และเข้าฝึกงานที่ศูนย์ฯ ก็เพราะต้องการเป็นนักพัฒนาที่ดี เรียนจบออกไปทำงานเพื่อสังคมและประชาชนผู้ยากไร้อีกหลายล้านคน” น.ส.ปนิดา กล่าว

และขณะนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เข้าไปให้คุ้มครองความปลอดภัยพยานทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วแล้ว

ด้าน นางพวงพยอมให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะถูกย้ายว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด มีเอกสารมีขั้นตอน ทุกอย่างชี้แจงได้ในทางราชการ คิดว่าสิ่งที่นักศึกษาทำเป็นเพียงอารมณ์ร้อน เป็นอารมณ์วัยรุ่น และไม่ได้ถือสาหาความอะไร แต่เมื่อเจอแบบนี้ก็รู้สึกช็อก

“หากต้องการทุจริตคงไม่ให้เด็กนักศึกษาฝึกงานทำ และไม่ใช้บ้านพักตัวเองเป็นสถานที่ดำเนินการ แต่เพราะบริสุทธิ์ใจ เลยให้นักศึกษาฝึกงานทำให้ หากคิดจะทำผิด หากคิดจะทุจริต คงต้องกรอกเอกสารเองทั้งหมด ไม่ให้คนอื่นทำ และไม่ใช้บ้านตัวเองคงไปเช่าโรงแรมทำแบบครบวงจร แต่นี่การดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส ทำที่บ้านตัวเองและให้เด็กนักศึกษาทำด้วย

ต่อมา พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2560 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) จัดสรรงบประมาณอุดหนุนเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งจำนวนทั้งสิ้น 493,742,900 บาท ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ได้รับงบประมาณ 6,854,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือกลุ่มรายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพรายละ 2,000 บาท เงิน สงเคราะห์ผู้ติดเชื้อเอดส์รายละ 2,000 บาท และทุนประกอบอาชีพของผู้มีรายได้น้อยรายละ 3,000 บาท

ทั้งนี้ หลังตรวจสอบพบพฤติกรรมการทุจริตว่า กลุ่มรายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเลย ส่วนกลุ่มเงินสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อเอดส์ได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 1,000 บาท และกลุ่มทุนประกอบอาชีพของผู้มีรายได้น้อยได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 1,000 - 2,000 บาท ซึ่งขัดกับข้อเท็จจริงในฎีกาเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือตามโครงการที่มีการเบิกจ่ายเงินเต็มจำนวน มีผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือใน 22 อำเภอรวมทั้งหมด 3,276 คน

นอกจากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง รพ.สต.เขาน้อย อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น พบชาวบ้าน 90 คน ที่มีรายชื่อในบัญชีเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือแม้แต่บาทเดียว

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด นายทองสุข ณ พล นักสืบสวนสอบสวน ป.ป.ท. เขต 4 ขอนแก่น เปิดเผยการตรวจสอบของชุดสืบสวนสอบสวนพบหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีมูลการทำความผิดชัดเจน ทั้งเจ้าหน้าที่ในระดับสั่งการและผู้ปฏิบัติการของศูนย์ฯ จำนวน 5 คน จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดยคณะอนุกรรมการของ ป.ป.ท. อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ลงพื้นที่ตรวจสอบ

พร้อมกันนี้ คสช. ได้สั่งการให้ ป.ป.ท. ตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ ทั้งหมด 37 ศูนย์เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งจากการขยายผลตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่มีอยู่ทั้งหมด 70 แห่งพบ 37ศูนย์มีพฤติกรรมไปในทำนองเดียวกัน

พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า มีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่เป็นเป้าหมายเร่งด่วน 37 ศูนย์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือนในการตรวจสอบและสรุปภาพรวมนำเสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เป็นข้อบกพร่องเพื่อให้ฝ่ายบริหารนำข้อมูลไปปรับปรุงการบริหารโครงการเงินสงเคราะห์ของรัฐ

และล่าสุดตรวจพบความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงินที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งวันที่ 20 ก.พ.จะสามารถนำสำนวนเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ท.พิจารณาตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดต่อไป

ถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ต้องจับตาและทำความจริงให้ปรากฏ ให้เร็วที่สุดเพราะถือเป็นเรื่องที่สร้างความหดหู่ไม่แพ้กรณีทุจริตเงินทอนวัดเช่นกัน และยิ่งตัวการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ยิ่งต้องรีบดำเนินการเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป

ขณะเดียกวันก็ต้องปรบมือดังๆ ชื่นชมความหาญกล้าของคนรุ่นใหม่ ที่ออกมาเปิดโปงข้อเท็จจริงเรียกร้องความชอบธรรมแก่สังคม




กำลังโหลดความคิดเห็น