xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ซูเปอร์คอนเนกชัน!! พลิกปูม “ประธานเปรมชัย”ผู้มีรสนิยมเข้าป่าล่าสัตว์ ทั้ง“อำนาจเงิน-อิทธิพล”พร้อมพรั่ง ถือสัมปทานยุคคสช.เรืองอำนาจ หลักล้านล้านบาท สะท้อนคอนเนกชันการเมืองแน่นปึ้ก จนอาจหลุดบ่วงกรรมเหมือนครั้งร่วม “แก๊ง CTX9000” หรือเปล่า

แค่ข้ามคืน“เบาะแส”อันเกี่ยวกับ เปรมชัย กรรณสูต บิ๊กอิตาเลียนไทย ผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ป่าในเขตอนุรักษ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ก็พรั่งพรูออกมาไม่หยุดหย่อน .. ทั้งข้อมูลจากทางการ การพิเคราะห์ภาพจากเหตุการณ์ หรือการขุดของ“นักสืบโซเชียล”ทั้งหมดทั้งมวล ชี้ตรงกันว่า“ก๊วนพรานเปรมชัย”ไม่ได้มาเล่นๆ แต่เป็นระดับ“มืออาชีพ”หาใช่คนแก่ที่นึกสนุกไปท่องป่าศึกษาธรรมชาติตามที่อ้าง .. อีกทั้งมีการขุดภาพในอดีต ที่“พรานคู่ใจ”ก็เคยลั่นผ่านเฟซบุ๊กอย่างไม่อ้อมค้อมว่า“เข้าป่าล่าสัตว์” จับโกหก“เจ้าสัวเปรมชัย”ที่อ้างว่า เพิ่งเคยเข้าป่า 1-2 ครั้ง ได้จั๋งๆ .. ตลอดจนของกลางที่ตำรวจไปค้นบ้านพัก “ประธานเปรมชัย”พบปืนหลายชนิดมากกว่า 40 กระบอก มีทั้งลูกซอง-ไรเฟิล ที่ส่วนใหญ่เป็น“ปืนเฉพาะทาง”สำหรับ “พรานล่าสัตว์”ทั้งนั้น .. กระทั่งภาพลับเฉพาะที่ “นิตยสารผู้จัดการ”เคยไปสัมภาษณ์ และถ่ายภาพ“เสี่ยเปรมชัย”เมื่อหลายสิบปีก่อน ที่ออฟฟิส บน ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ก็ปรากฏ“หนังเสือโคร่งผืนใหญ่”บนเก้าอี้ทำงาน .. ถือว่าเป็น“หลักฐานแวดล้อม”ที่ไม่เพียงแต่จะถูกสังคมพิพากษาในความอำมหิตไปแล้วเท่านั้น ยังเป็น“ร่องรอย”ที่บ่งชี้ว่า วีรกรรม“คณะล่าเสือดำ”คราวนี้ไม่ใช่ครั้งแรก .. จนพอสรุปได้ว่า“เข้าป่าล่าสัตว์”เป็นกิจกรรมโปรดปรานของ“เจ้าสัวอิตัลไทย”เพียงแต่ไม่เคยเป็นข่าว .. ก่อนจะมาเจอ“คนจริง”อย่าง“พรานวิเชียร”วิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก สยบ“ความอหังการ์”ในครั้งนี้ ..
ปฏิเสธไม่ได้อีกว่า “ความอหังการ์”ของ “พรานเปรมชัย”ที่มีพฤติการณ์หลงยุคเช่นนี้ ก็ด้วยพื้นฐานความร่ำรวย ในฐานะเบอร์ 1 แห่งอาณาจักรแสนล้าน .. ก็ด้วย“เครืออิตาเลียนไทย”ที่เป็นยักษ์ใหญ่วงการรับเหมา ได้แชร์สัมปทานโครงการรัฐมาตลอด ในยุคคสช. ก็เก็บไปไม่น้อย .. สัมปทานรัฐของอิตัลไทย ที่ถืออยู่ตอนนี้ ไล่เรียงกันพอสังเขป ก็มี รถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 9 โครงการ มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท, รถไฟไทย-จีน, รถไฟฟ้าสายสีม่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท , ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 , รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท รวมไปถึงโครงการบริหารจัดการน้ำ ที่โดดเข้าไปแบ่งเค้กด้วย .. สะท้อนให้เห็นว่า นอกเหนือจาก“อำนาจเงิน”แล้ว “เจ้าสัวเปรมชัย”ยังมีอิทธิพลผ่าน“ผู้มีอำนาจ”ในทุกยุคอีกด้วย .. การฝ่าฝืนเข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าใหญ่หนนี้ ก็ไปในฐานะ “แขกวีไอพี”ของใครซักคน ในกรมอุทยานฯ อย่างแน่นอน แม้ตอนนี้จะไม่ยอมรับกันก็ตาม .. ที่น่าติดตามกันต่อว่า“คนระดับนี้”ที่พรั่งพร้อมด้วย“อำนาจเงิน - อิทธิพล”อีกทั้งมี “คอนเนกชันการเมือง”ต่อติดทุกรัฐบาล จะเอาตัวรอดจากคดีล่าเสือดำทุ่งใหญ่ได้หรือไม่ .. เหมือนเมื่อครั้งที่ “เจ้าสัวเปรมชัย”เข้าไปพัวพันในคดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX9000 สมัย“รัฐบาลทักษิณ”..ที่หลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ได้ถูก “คตส.”ตั้งแท่นเอาผิดร่วมกับ ทักษิณ ชินวัตร - สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วย .. แต่ยื้อยุดลากยาวกันหลายปี จนที่สุด ป.ป.ช. มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ .. ทำให้ “แก๊ง CTX9000”ที่มีชื่อ “ประธานเปรมชัย”รวมอยู่ด้วย ก็ลอยนวลไปอย่างค้านสายตาประชาชน มารอบหนึ่งแล้ว

** น้ำเสียงทะแม่งๆ !! เสียงโห่เกรียวหลัง“บิ๊กรัฐบาล”ตอบปมร้อน“แก๊งพรานเจ้าสัว”รมว.ทรัพยากรฯ เสียงอ่อยๆ“อย่าเพิ่งไปปรักปรำ”เหมือนชี้ช่องอะไรบางอย่าง ทั้งที่สังคมชี้หลักฐานคาตา ส่วน“ผอ.สำนักอนุรักษ์ฯ”เจอย้อนมาตรฐาน เมื่อครั้งเอาเรื่อง“ทีมงานพระเอกดัง”บุกรุกป่า

อาฟเตอร์ช็อก จากประเด็นร้อน “พรานเปรมชัย แห่งป่าทุ่งใหญ่”..นอกจากเสียงชื่นชมที่ถาโถมไปถึง“หัวหน้าวิเชียร”วิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ที่ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา แม้รู้ว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็น“นายทุนยักษ์ใหญ่”ก็ตาม .. ในทางกลับกัน ก็มีเสียงวิพากษ์ ท่าทีของ“คนในรัฐบาล”ตั้งแต่ “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ฉุนเฉียวขึ้นมทันที เมื่อถูกถามจี้ว่า อาจมี“เจ้าหน้าที่รัฐ”ไฟเขียวแก๊งพรานไฮโซ .. หนักหน่อยก็รายของ “บิ๊กเต่า”พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เจ้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่พูดทะแม่งๆ หลังทราบเรื่อง ประมาณว่า “อย่าเพิ่งปรักปรำใคร - อย่าใช้ความรู้สึกไปตัดสิน" .. จนมีเสียงโห่ฮา “บิ๊กเต่า”กระเซ้าว่า ถ้าแบบนี้ยังไม่ชัด ต้องความผิดซึ่งหน้าขนาดไหนกัน บ้างก็ระคนสงสัยว่าเป็นการ“ชี้ช่อง”อะไรหรือเปล่า .. ขณะที่น.ส.กาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ที่ตกเป็น“ผู้ต้องสงสัย”ในการเปิดไฟขียวผ่านตลอดให้ “แก๊งพรานไฮโซ”ก็ยืนยันว่า มีการขออนุญาตตามขั้นตอน แม้จะไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรก็ตาม .. รายของ “ผอ.กาญจนา”ก็ถูดขุดย้อนไปถึงเมื่อคราวมีคดีความกับ “พระเอกดัง”เกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่า ในระหว่างเข้าไปถ่ายทำรายการทีวี .. ครั้งนั้นจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ฝ่าย“พระเอกดัง”ก็ยอมรับความผิด ขณะที่ “ผอ.กาญจนา”ก็ได้คำชม ที่รักษากฎเกณฑ์ แบบไม่มีระดับ“วีไอพี” ..แต่พอมีเรื่อง “แก๊งพรานเจ้าสัว”ขึ้นมา ก็มีคำถามถึงมาตรฐานดุลพินิจการอนุญาตให้ “คณะบุคคล”เข้าพื้นที่ป่าในวันนั้น กับวันนี้ ของ“ผอ.กาญจนา”เปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไร

**ไม่ขลังเท่าต้นฉบับ!! “เสี่ยอ๊อด”หงายการ์ด “ยืมเพื่อน-คืนไปแล้ว”แต่ก็ยังไม่รอดตัว “ดีเอสไอ”ลุยหนักดูเส้นทางการเงินเชื่อม “เสี่ยกำพล” เทียบเคียงคดีฉ้อโกง “ธรรมกาย-สหกรณ์ฯคลองจั่น”ที่ยักย้ายถ่ายเทเงินโกงกันมันมือ

ยังไม่สิ้นสงสัย .. แม้ “เสี่ยอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. หงายการ์ด “ยืมเพื่อน-คืนไปแล้ว”ชี้แจงกรณีที่มีชื่อเป็น“อดีต ผบ.ตร.”ที่ทาง “ดีเอสไอ”กำลังสอบเส้นทางการเงิน .. เชื่อมโยงกับ กำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือ “เสี่ยกำพล”เจ้าของสถานบริการ วิคตอเรีย ซีเครท ที่ถูกหมายจับในหลายคดี จากกรณีเข้าทลายอาบอบนวด วิคตอเรียฯ .. ในอารมณ์ที่ “เสี่ยอ๊อด”เล่นเป็น ไม่ต้องรอให้ถูกเปิดชื่อ ออกมาแอ่นอกรับหน้าชื่นด้วยตัวเอง .. ด้วยรู้ว่ามี “ข้อหาฉกรรจ์”อย่างการค้ามนุษย์คอยท่าอยู่ แม้จะฟังไม่ค่อยขึ้นว่า เหตุใด“เสี่ยอ๊อด”ผู้มี “พอร์ตหุ้น”หลักหลายหมื่น ถึงต้องบากหน้า ไปยืมเงิน “เสี่ยกำพล”แค่หลักร้อย .. ดูท่าการ์ด“ยืมเพื่อน-คืนไปแล้ว”ที่ “เสี่ยอ๊อด”หงายออกมา จะไม่ขลังเท่า“ต้นฉบับ”แหะ .. ก็แทนที่จะเคลียร์คัตประเด็นคาใจ กลับทำให้"ดีเอสไอ" เพิ่มดีกรีความเข้มขึ้นอีก .
เห็นแย้มๆ ออกมาด้วยว่า มี “ข้อมูลเชิงลึก”ว่า “เสี่ยอ๊อด - เสี่ยกำพล”มีความสัมพันธ์แนบแน่น ไม่ใช่แค่เป็นเพื่อนกันในวงการเซียนพระเท่านั้น .. ยังมีความเกี่ยวข้องในเชิงธุรกิจ ทำธุรกิจร่วมกันหลายตัวอีกด้วย .. โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีการทำธุรกรรมโอนจาก“เสี่ยกำพล”ให้ “เสี่ยอ๊อด”เมื่อปี 2558 นั้น ก็เป็นช่วงที่ฝ่ายแรกกำลังเข้าไปลงทุนใน“หุ้นตัวหนึ่ง”ที่มีความผิดปกติ และกำลังมีการสอบสวนกันอยู่ .. เห็นว่าทาง พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดี ดีเอสไอ พูดเป็นแนวทางไว้ ประมาณว่า นอกจากจะตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เงิน 300 ล้านบาท ที่ว่าเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หรือไม่ ยังต้องดูเรื่องเส้นทางการเงิน .. โดยยกกรณี คดีวัดพระธรรมกาย-สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ที่มีการโยกย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากการ“ฉ้อโกง" ไปมา จนโป๊ะแตก .. นัยของ“ดีเอสไอ”ก็ประมาณว่า ต้องดูว่าเป็น“เงินยืม”หรือ “ให้เปล่า”นั่นเอง.

ช.ชฎา

รูป
เปรมชัย กรรณสูต
วิเชียร ชิณวงษ์
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์
กาญจนา นิตยะ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง


กำลังโหลดความคิดเห็น