กกต.เตรียมขอเพิ่มงบเลือกตั้งเกือบเท่าตัวจาก 3 พันล้านเป็น 5.8 พันล้าน พร้อมผุดกองทุนปราบทุจริต แจกใบแดงจ่าย 1 หมื่นบาททันที “มีชัย” เผยส่อตั้งกมธ.ร่วม 3 ฝ่ายดู 2 กม.ลูก ยังเชื่อตกลงกันได้ ออกตัวถ้าคว่ำทั้งฉบับ สนช.ต้องรับผิดชอบ
วานนี้ (1 ก.พ.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กล่าวในงานประชุมผู้บริหารสำนักงาน กกต. เพื่อเผยแพร่ความรู้รัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง ว่า คาดว่าใน 1-2 วันนี้ จะได้รับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งสำนักงานจะต้องจัดทำประเด็นโต้แย้งเพื่อเสนอต่อที่ประชุม กกต. โดยเบื้องต้นเห็นว่าประเด็นที่มีความเป็นไปได้ที่จะต้องทำความเห็นโต้แย้งอยู่พอสมควร โดยเฉพาะประเด็นการจัดมหรสพในช่วงหาเสียงได้ เพราะถือเป็นการจูงใจซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ซึ่งในการปฏิรูปการเลือกตั้ง ต้องการให้พรรคการเมืองใช้ทุนให้น้อยที่สุด แต่กลับให้จัดมหรสพได้ จึงถือว่าขัดกับโจทย์สำคัญคือการลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้พรรคการเมืองที่ไม่มีเงินก็สามารถแข่งขันได้
“ดังนั้นเมื่อไม่อยากให้กลุ่มทุนเข้ามา ก็ต้องลดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงให้ได้ เช่น ป้ายหาเสียงไม่ให้พรรคการเมืองติดป้าย แต่กกต.จะมาทำแทนให้ เพื่อความเท่าเทียม ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งหน้ากกต.จะใช้งบประมาณจำนวน 5,800 ล้านบาท จากเดิม 3,000 ล้าน โดยในส่วนที่เพิ่มขึ้น 2,800 ล้านบาทเพื่อให้รัฐสนับสนุนลงมาช่วยผู้สมัครในการหาเสียง ซึ่งจะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เลือกจากนโยบายของพรรคมากกว่า” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
ส่วนการปฏิรูปการจัดการทุจริตเลือกตั้ง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า สำนักงาน กกต.อยู่ระหว่างการร่างระเบียบตั้งกองทุนปราบทุจริต เพื่อให้เป็นสินบนรางวัลกับบุคคลที่นำพยานหลักฐานการซื้อเสียงหรือการทุจริตเลือกตั้งมาแจ้งต่อกกต. และหากพยานหลักฐานนั้นนำไปสู่การให้ใบแดง หรือ การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้ กกต.จะจ่ายสินบนรางวัลให้ 1 หมื่นบาท
อีกด้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า กรธ. ได้รับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว โดยจากนี้ กรธ. จะตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณารายละเอียดเนื้อหาแยกรายฉบับ ทั้งนี้ตนตอบไม่ได้ว่าจะทำความเห็นโต้แย้งเพื่อนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการร่วมหรือไม่ เพราะต้องรอฟังความเห็นจากที่ประชุม กรธ.และพิจารณารายละเอียดที่ถูกปรับแก้ไปเป็นจำนวนมากก่อน ซึ่ง กรธ.มีเวลาพิจารณาจนถึงวันที่ 9 ก.พ. นี้ ทั้งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่ สนช.แก้ไขค่อนข้างเยอะนั้น มีหลายส่วนที่อาจไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
“สถานการณ์ตอนนี้ทุกอย่างพันกันยุ่งไปหมด ทั้งนี้ยังเชื่อว่าสุดท้ายแล้วไม่น่ามีการล้มกระดานไปเริ่มร่างกฎหมายกันใหม่ และในวันที่ 9 ก.พ.นี้ กรธ.จะส่งความเห็นกลับไปให้ สนช.พิจารณา และมีความเป็นไปได้สูงที่ต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายในการปรับแก้กฎหมายลูก 2 ฉบับนี้ และถ้ากรธ.ปรับแก้แล้ว แต่สนช.ไม่ทำตาม หรือถูกโหวตคว่ำ ก็เป็นเรื่องที่สนช.ต้องรับผิดชอบเอง” นายมีชัย ระบุ.
วานนี้ (1 ก.พ.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กล่าวในงานประชุมผู้บริหารสำนักงาน กกต. เพื่อเผยแพร่ความรู้รัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง ว่า คาดว่าใน 1-2 วันนี้ จะได้รับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งสำนักงานจะต้องจัดทำประเด็นโต้แย้งเพื่อเสนอต่อที่ประชุม กกต. โดยเบื้องต้นเห็นว่าประเด็นที่มีความเป็นไปได้ที่จะต้องทำความเห็นโต้แย้งอยู่พอสมควร โดยเฉพาะประเด็นการจัดมหรสพในช่วงหาเสียงได้ เพราะถือเป็นการจูงใจซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ซึ่งในการปฏิรูปการเลือกตั้ง ต้องการให้พรรคการเมืองใช้ทุนให้น้อยที่สุด แต่กลับให้จัดมหรสพได้ จึงถือว่าขัดกับโจทย์สำคัญคือการลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้พรรคการเมืองที่ไม่มีเงินก็สามารถแข่งขันได้
“ดังนั้นเมื่อไม่อยากให้กลุ่มทุนเข้ามา ก็ต้องลดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงให้ได้ เช่น ป้ายหาเสียงไม่ให้พรรคการเมืองติดป้าย แต่กกต.จะมาทำแทนให้ เพื่อความเท่าเทียม ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งหน้ากกต.จะใช้งบประมาณจำนวน 5,800 ล้านบาท จากเดิม 3,000 ล้าน โดยในส่วนที่เพิ่มขึ้น 2,800 ล้านบาทเพื่อให้รัฐสนับสนุนลงมาช่วยผู้สมัครในการหาเสียง ซึ่งจะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เลือกจากนโยบายของพรรคมากกว่า” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
ส่วนการปฏิรูปการจัดการทุจริตเลือกตั้ง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า สำนักงาน กกต.อยู่ระหว่างการร่างระเบียบตั้งกองทุนปราบทุจริต เพื่อให้เป็นสินบนรางวัลกับบุคคลที่นำพยานหลักฐานการซื้อเสียงหรือการทุจริตเลือกตั้งมาแจ้งต่อกกต. และหากพยานหลักฐานนั้นนำไปสู่การให้ใบแดง หรือ การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้ กกต.จะจ่ายสินบนรางวัลให้ 1 หมื่นบาท
อีกด้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า กรธ. ได้รับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว โดยจากนี้ กรธ. จะตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณารายละเอียดเนื้อหาแยกรายฉบับ ทั้งนี้ตนตอบไม่ได้ว่าจะทำความเห็นโต้แย้งเพื่อนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการร่วมหรือไม่ เพราะต้องรอฟังความเห็นจากที่ประชุม กรธ.และพิจารณารายละเอียดที่ถูกปรับแก้ไปเป็นจำนวนมากก่อน ซึ่ง กรธ.มีเวลาพิจารณาจนถึงวันที่ 9 ก.พ. นี้ ทั้งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่ สนช.แก้ไขค่อนข้างเยอะนั้น มีหลายส่วนที่อาจไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
“สถานการณ์ตอนนี้ทุกอย่างพันกันยุ่งไปหมด ทั้งนี้ยังเชื่อว่าสุดท้ายแล้วไม่น่ามีการล้มกระดานไปเริ่มร่างกฎหมายกันใหม่ และในวันที่ 9 ก.พ.นี้ กรธ.จะส่งความเห็นกลับไปให้ สนช.พิจารณา และมีความเป็นไปได้สูงที่ต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายในการปรับแก้กฎหมายลูก 2 ฉบับนี้ และถ้ากรธ.ปรับแก้แล้ว แต่สนช.ไม่ทำตาม หรือถูกโหวตคว่ำ ก็เป็นเรื่องที่สนช.ต้องรับผิดชอบเอง” นายมีชัย ระบุ.