xs
xsm
sm
md
lg

ลุงตู่กับการสืบทอดอำนาจ พูดได้ไหมว่ามันจบแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หนึ่งความคิด”
“สุรวิชช์ วีรวรรณ”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.นั้นมีทีท่าที่ชัดเจนว่า อยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง โดยใช้เส้นทางคนนอกที่เขียนเปิดทางไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 272

ล่าสุดเมื่อถูกถามถึงเหตุผลว่าทำไมเรื่องการเลือกตั้งออกไป พล.อ.ประยุทธ์นอกจากปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นแล้ว ยังถามกลับว่า จะเอาผมหรือกลับไปอยู่ที่เดิม ไม่กระมิดกระเมี้ยนอำพรางความมุ่งหวังที่จะสืบทอดหลังการเลือกตั้งอีกแล้ว

คนเขาก็เลยตั้งคำถามว่า เหตุที่ต้องยื้อเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆนั้น เพราะพรรคที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีความพร้อม เมื่อพรรคใหญ่ 2 พรรค คือพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ก็แสดงท่าทีชัดว่าจะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะคนนอก รวมถึงตอนนี้ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์กำลังอยู่ในขาลง จากการสำรวจความนิยมของโพลจากหลายสำนักที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันหมด

กรุงเทพโพล ล่าสุดสำรวจความนิยมในตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความนิยมลดลงเหลือเพียงร้อยละ 36.8 ลดจากเดือนมกราคมปี2560ที่ได้ร้อยละ 61.8 ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 70.6 ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก อยากได้นายกฯจากการเลือกตั้ง

ดุสิตโพล ถามว่า ถ้าจะมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่เพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ประชาชนคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ อันดับ 1 ไม่เหมาะสมร้อยละ 53.29เพราะอาจถูกมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ

นิด้าโพล เผยผลสำรวจว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 76.32 ระบุว่า มีความไม่ปกติ/ไม่โปร่งใสเกิดขึ้นในรัฐบาล/คสช.ล่าสุดนิด้าโพล ที่ถูกระงับมีข้อมูลเปิดเผยว่า ประชาชนร้อยละ85 ไม่เชื่อว่านาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืมเพื่อนมา

ซูเปอร์โพล บอกว่า ประชาชนร้อยละ 60.9 ยังมองไม่เห็นความชัดเจนอนาคตของประเทศ

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง ในระหว่างเวลาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ใน บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกัน จํานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง แจ้งไว้ตามมาตรา 88 ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ ทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดําเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง แจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้

ถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นรัฐบาลต่อหลังเลือกตั้งในโควต้าคนนอก ถ้า ส.ส.และส.ว.ไม่สามารถเลือกนายกฯจากรายชื่อพรรคการเมืองเสนอได้ ต้องใช้เสียง2ใน3คือ500เสียงเพื่อขอมตินายกฯคนนอก ถ้าไม่มีเสียงก็เดินต่อไม่ได้เป็นทางตัน มีคนบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์มีมาตรา44ในมือ ถึงตอนนั้นก็ใช้มาตรา44ผ่าทางตันได้ ผมอยากให้หลับตานึกภาพดูว่าถึงตอนนั้น ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ใช้มาตรา44เพื่อให้ตัวเองเป็นนายกฯต่อได้อะไรจะเกิดขึ้น

บางคนบอกว่าถึงเวลานั้น ถ้าหลังเลือกตั้งตั้งรัฐบาลไม่ได้ รัฐบาลประยุทธ์ก็รักษาการไปเรื่อยๆ ลองคิดว่าจะไหวไหมแล้วสังคมจะคิดอย่างไรถ้าเลือกตั้งแล้วยังเหมือนเดิมไปต่อไม่ได้

ส่วนการเป็นรัฐบาล ใครคิดว่ามี ส.ว.250คนอยู่แล้วได้ ส.ส.126คนเป็น376คนครึ่งหนึ่งของ2สภาก็พอแล้วเป็นพวกตกคณิตศาสตร์ทางการเมือง เพราะจะเป็นรัฐบาลบริหารประเทศไปได้จะต้องมีส.ส.ในมือไม่น้อยกว่า251คนอยู่ดี คำถามว่าจะเอา ส.ส.มาจากไหนถ้า2พรรคใหญ่ไม่เอาด้วย

มีทางเดียวที่จะใช้เสียง375เสียงที่เป็นไปได้คือ 375เสียงเป็นเสียง ส.ส.ทั้งหมด เพราะจะเป็นครึ่งหนึ่งของ2สภาแล้วจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในฝั่ง ส.ส.แบบเด็ดขาดเพราะจะเหลือฝ่ายค้านแค่125เสียง ถ้ารวบรวมอย่างนี้ได้ ก็หักด่านทหารไปตั้งแต่ตอนแรกเลยคือ เลือกนายกฯจากรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอได้เลย ถ้าตกลงกันได้ แต่จะได้ตัวเลขนี้ น่าจะมีทางเดียวคือ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยจับมือกันตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

จำนวน ส.ส.มี500คน ในการเลือกตั้งเมื่อปี2554 พรรคเพื่อไทยได้ 265 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 159 คน 2 พรรคได้ส.ส.รวมกัน 424 คน ตอนนี้ทั้งสองพรรคประกาศว่าจะไม่สนับสนุนนายกฯคนนอก การเลือกตั้งย้อนไปปี2550 พรรคเพื่อไทยได้ 233 คน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 165 คน รวมกัน 398 คน

ลองคิดสิว่า ครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ พรรคประชาธิปัตย์จะได้เท่าไหร่ จากจำนวนเต็ม500คน

ต่อให้พรรคเพื่อไทยมีจำนวน ส.ส.ที่ลดลงเหลือแค่200คน พรรคประชาธิปัตย์เหลือแค่80คนก็ยังเกินครึ่งของจำนวน ส.ส.500คนอยู่ดี แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ถ้าจะไปต่อหลังเลือกตั้งจะต้องมีเสียง ส.ส.สนับสนุนอย่างน้อย251เสียง(ในกรณีที่ส.ว.250คนไม่แตกแถวเลย ถ้า ส.ว.แตกแถว1คน ก็ต้องการส.ส.เพิ่มขึ้น1คนเป็น252คนเป็นต้น) คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมีเสียงสนับสนุนพอไหม

ดังนั้น ถ้า2พรรคใหญ่ได้ ส.ส.รวมกันเกิน 250 เสียง อนาคตของนายกฯคนนอกก็ปิดฉากทันที ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า2พรรคจะจับมือกันทั้งรัฐบาล เพราะผมยังไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ แต่ใครเชื่อบ้างว่า เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.รวมกันไม่เกิน 250 เสียง

ลองทำนายว่า อนาคตหลังเลือกตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นอย่างไร หรือนี่อาจเป็นเหตุผลที่ต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆ นี่เป็นเหตุผลที่พยายามจะแก้กฎหมายประเด็นที่มาของ ส.ว.

ด้านหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์คงหวังว่า นโยบายไทยนิยมที่สั่งข้าราชการและองคาพยพปูพรมลงทุกจังหวัดจะผูกใจคนชั้นล่างได้หลังจากรัฐบาลชุดนี้ถูกมองว่าเอาใจแต่กลุ่มทุน แต่ในเมื่อคุมอำนาจมาเกือบ4ปีแล้ว ยังทำอะไรที่กุมหัวใจคนชั้นล่างไม่ได้ มั่นใจเหรอว่า เวลาที่ทอดออกไปจากเดิม3เดือนนั้นมันจะทำให้สามารถซื้อหัวใจพวกเขาไว้ได้

มีคนบอกว่า ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ใช้นโยบายประชานิยมมากไม่ว่าจะในชื่อประชารัฐหรือไทยนิยม แต่มันก็ยิ่งทำให้คนจดจำเจ้าของแบรนด์คือทักษิณได้มากขึ้นเกือบ4ปีมานี้รัฐบาลยังไม่สามารถทำอะไรที่ทำให้มวลชนกลุ่มหนึ่งแปรใจไปจากทักษิณได้เลย คนพวกนี้รอคอยเพียงว่า เมื่อไหร่เขาจะได้เข้าคูหาไปเลือกตั้งเท่านั้นเอง

แต่ด้านหนึ่งมวลชนที่ไม่เอาทักษิณกลับแตกกันเอง พรรคประชาธิปัตย์ถูกสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้ามาบ่อนเซาะพรรคเก่าของตัวเองเพื่อไปสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ มวลชนกปปส.ส่วนหนึ่งต้องทำใจว่าจะเอากับพรรคประชาธิปัตย์หรือไปกับสุเทพ มวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเดิมแม้จะถูกหมิ่นแคลนว่าร่อยหรอลงไปแล้วแต่เป็นกลุ่มคนที่มีความกระตือรือล้นทางการเมือง และสนใจทุกปัญหาไม่ว่าพลังงานหรือสิ่งแวดล้อม พวกเขาไม่พอใจการดำเนินการของรัฐบาลชุดนี้หลายเรื่อง เพราะถูกทำลายน้ำใจครั้งแล้วครั้งเล่า

และถ้าจะว่าไปแล้ว ถ้าเราไปอ่านคำปรารภของรัฐธรรมนูญชั่วคราว2557 การรัฐประหารเข้ามาของกลุ่มทหารที่คุมอำนาจอยู่ในตอนนี้นั้นก็ไม่ได้มีทัศนคติเป็นมิตรต่อฝ่ายไหน เพราะประกาศชัดเจนว่า ที่ต้องเข้ามาเพราะคนสองฝ่ายทะเลาะกัน ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปไม่ได้ โดยไม่กล้าพูดว่า ฝ่ายไหนที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมืองที่แท้จริง

ผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า ทหารจำเป็นต้องเข้ามาเพราะตอนนั้น หากทหารไม่เข้ามาก็จะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เพราะพวกที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยกลับปล่อยให้ฝ่ายที่สนับสนุนตัวเองใช้อาวุธสงครามมายิงทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นเรื่องตลกมากว่าฝ่ายประชาธิปไตยที่อ้างสิทธิเสรีภาพและต่อต้านรัฐบาล กลับไม่เคยพูดถึงความรุนแรงที่กระทำโดยฝ่ายของตัวเองต่อฝ่ายอื่น แล้วพูดเพียงว่า ฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณเป็นพวกออกบัตรเชิญเรียกทหารเข้ามา

แต่เราจะคาดหวังว่าการเข้ามาของทหารเป็นเรื่องชั่วคราวที่จะร่างกติกากันใหม่ ปกป้องการฉ้อฉล มีการปฏิรูปการเมืองซึ่งเป็นข้อเรียกร้องสำคัญ แต่ปรากฎว่า 3 ปีกว่ามานี้รัฐบาลกลับไม่ได้ทำอะไรเลยที่เป็นรูปธรรม ทั้งที่มีเวลาไม่น้อย

ผมออกขำๆ อยู่บ้าง ที่เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่ามกลางกระแสความตกต่ำของรัฐบาลทหาร มีคนบอกว่า จะไปเลือกตั้งเพื่อให้นักการเมืองกลับมาทำไม บ้านเมืองก็กลับไปเหมือนเดิมอีกตราบเท่าที่ยังไม่มีการปฏิรูป เพราะถ้าคิดแบบนี้ มันก็ต้องถามว่าแล้วจะรอให้มีการปฏิรูปไปถึงเมื่อไหร่จะเลือกตั้งแล้วเกือบ4ปีมานี้ทำไมไม่ทำ

เรื่องสำคัญที่ทำให้รัฐบาลประยุทธ์ลงมาสู่ขาลงที่กระชากเรตติ้งตัวเองอย่างแรงก็คือ การออกมาปกป้อง พล.อ.ประวิตรเรื่องนาฬิกาหรูที่บอกให้สื่อเลิกนำเสนอข่าวบ้าง ให้ลดราวาศอกบ้าง และล่าสุด บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตร เขาก็เห็นว่า แท้จริงแล้วรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกับนักการเมืองตรงไหน

จากเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญมาตรา272 ที่2พรรคใหญ่ประกาศไม่สนับสนุนนายกฯคนนอกและขาลงของรัฐบาลทหารในตอนนี้จึงพูดได้ว่า ถ้าไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ประตูของลุงตู่แทบจะปิดลงแล้ว
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan



กำลังโหลดความคิดเห็น