xs
xsm
sm
md
lg

สภาวะรัฐบาลในขณะนี้ : เรือเล็กโต้คลื่นในทะเลลึก

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

สถานการณ์ที่เสี่ยงต่ออันตราย 3 ประการคือ

1. อสรพิษที่กำลังเลื้อยอยู่บนหน้าผา เป็นอันตรายต่อผู้ที่เดินเข้าไปใกล้หน้าผา เนื่องจากอาจจะถูกงูพิษฉกกัดได้ทุกขณะ

2. หญิงสาวที่อยู่กันสองต่อสองกับหนุ่มคนรักในที่ลับหูและลับตาคน เนื่องจากเสี่ยงต่อการสูญเสียพรหมจรรย์ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน

3. เรือเล็กที่กำลังโต้คลื่นในทะเลลึก เนื่องจากเสี่ยงต่อการล่มได้ตลอดเวลา

ในขณะนี้รัฐบาลภายใต้การกำกับดูแลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีสภาวะไม่แตกต่างไปจากเรือเล็กที่กำลังแล่นฝ่ามรสุมในทะเลลึก ทั้งนี้อนุมานจากเหตุปัจจัยอันเปรียบด้วยคลื่นลมดังต่อไปนี้

1. ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคสูงขึ้น แต่ราคาผลผลิตทางด้านเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวและยางพารา จึงทำให้เกษตรกรเดือดร้อนเนื่องจากรายได้ไม่พอจ่าย ประกอบปัญหาหนี้สินทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังต่อเนื่องกันมา

2. ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลของเศรษฐกิจตกต่ำ คนจนเพิ่มขึ้น ปัญหายาเสพติด และการอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเข้ามามากเกินไปจนการควบคุมทำได้ไม่ทั่วถึง รวมไปถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มุ่งจำนวน แต่ขาดการควบคุมด้านคุณภาพ ทำให้อาชญากรในคราบนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จนยากแก่การปราบปรามและเป็นภาระงบประมาณในส่วนนี้ด้วย

3. กลุ่มการเมืองเก่า ซึ่งสูญเสียอำนาจจากการทำรัฐประหารและรอโอกาสที่จะทวงคืนอำนาจเมื่อการเลือกตั้งมาถึง แต่ระหว่างรอคอยการเลือกตั้งก็โจมตีรัฐบาล และ คสช.ในทุกแง่ทุกมุมที่มีช่องทางทำได้ เพื่อบั่นทอนศรัทธาและเปิดแผลทางการเมือง เป็นการสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยอาศัยเสียงสนับสนุนของ ส.ว. 250 คน บวกกับเสียง ส.ส.จากพรรคเฉพาะกิจที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ และจากพรรคการเมืองเก่าส่วนหนึ่งด้วย

4. ภายในรัฐบาลเอง ก็มีเหตุปัจจัยที่นักการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม และประชาชนที่ผิดหวังจากการทำงานของรัฐบาล เช่น มวลชนของ กปปส.ที่ไม่พอใจการปฏิรูปประเทศ นำไปเป็นประเด็นวิพากษ์รัฐบาลในทางลบ เช่น เรื่องนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นต้น

จริงอยู่เรื่องนี้เป็นประเด็นเล็กน้อยในสายตาคนธรรมดาทั่วไป เพียงแค่มีเงิน และเป็นคนนิยมของแพงก็ซื้อหามาใช้ได้ จะมีเสียงวิพากษ์ในทางลบบ้างก็เป็นเพียงการฟุ่มเฟือยไม่พอเพียงเท่านั้น

แต่สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเรื่องใหญ่ ในแง่ของการได้มาและครอบครองทรัพย์สินที่กฎหมายกำหนดให้ต้องแจ้งต่อ ป.ป.ช.แต่ไม่ได้แจ้ง

แม้กระทั่งในทางสังคม ก็จะถูกมองว่าเป็นคนไม่พอเพียง ซึ่งสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการบริหารประเทศ

ดังนั้น คนในรัฐบาลควรจะปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง

อีกประการหนึ่ง เรื่องนี้ถ้ามองเพียงผิวเผินแล้วก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย สำหรับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้มากด้วยบารมี ก็คงจะแก้ปัญหาได้ในแง่ของปัจเจกบุคคล

แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปในแง่บริหาร เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำรัฐบาลซึ่งจะต้องยึดภาพรวมของรัฐบาลเป็นที่ตั้ง เรื่องเล็กๆ กลายเป็นจุดหักเหของรัฐบาลได้ในทำนองเดียวกันกับแผลเล็กน้อยที่เกิดขึ้นกับจระเข้ใหญ่ เป็นจุดให้ปลาซิวไล่ตอดจนทำให้ต้องหนีขึ้นจากน้ำไปบนบกก็มีให้เห็น และกลายเป็นคำพังเพยที่คนเฒ่าคนแก่ในภาคอีสานนำมาเป็นอุปมาสอนลูกหลานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ในทำนองเดียวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กแต่อาจทำให้คนระดับรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการฯ ต้องพ้นจากตำแหน่งได้ ด้วยความจำใจก็เป็นไปได้

5. กฎหมาย ป.ป.ช.ที่เปิดทางให้ ป.ป.ช.อยู่ครบ 9 ปี ซึ่งท่านผู้รู้หลายท่านท้วงติง โดยอ้างเหตุว่าขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ และมีคำวิพากษ์ว่าทำเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง

ปัจจัย 5 ประการนี้ เป็นเสมือนคลื่นลมซัดเข้าหารัฐนาวาที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นกัปตันอยู่ จนเป็นเหตุให้เรือแล่นออกนอกเส้นทาง และชนกับหินโสโครกทำให้น้ำเข้าเรือ

โดยปกติในภาวะเช่นนี้ ลูกเรือทุกคนจะต้องช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ และช่วยกันอุดรอยรั่วแต่เท่าที่เห็น มิได้เป็นเช่นนั้น ลูกเรือบางคนนอกจากไม่ช่วยวิดน้ำแล้ว ยังเพลิดเพลินกันหาสีมาทาเรือเป็นลวดลายต่างๆ ดูหลากสี และบอกกัปตันว่า เรือกำลังแล่นไปได้ด้วยดี และมีคนชื่นชมความสวยงามของเรือ ทั้งคาดหวังว่าเรือจะถึงฝั่งตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีโอกาสแล่นกลับมาในเส้นทางเดิมได้อีกครั้ง และกัปตันเองดูเหมือนจะเชื่อเช่นนั้นด้วย จึงได้ไม่กังวลกับคลื่นลม

สุดท้ายขอจบบทความนี้ด้วยบทกลอนนี้

อ่านแล้วคิด คิดแล้วจำ ทำตามอย่าง

เป็นแนวทาง ทำการ งานทั้งหลาย

อ่านแล้วไม่คิด ไม่จำ แถมทำลาย

อย่าได้หมาย ว่าคนดี ช่วยชี้นำ



กำลังโหลดความคิดเห็น