xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“บิ๊กตู่”จนมุมอุ้ม“พี่ใหญ่” ป.ป.ช.ที่พึ่งเดียว กู้วิกฤติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ถ้าเป็นมวยก็ต้องบอก“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หลังพิงเชือก ยกการ์ดป้องกันหมัดจากคู่ต่อสู้อย่างเดียวแล้ว หลังปม "แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน" นำพาให้ผู้มากบารมีในยุคนี้ เผชิญจุดที่วิกฤติที่สุดในชีวิตก็ว่าได้

เห็นได้จากอาการมวยเมาหมัด เซไปเซมา ไม่รู้ว่าจะหาช่องทางไหนเพื่อสยบเรื่องนาฬิกาหรูให้หายไปจากความสนใจจากสังคม ยิ่งนานวัน มันยิ่งลุกลามบานปลายมากขึ้นทุกขณะ จากเรื่องนาฬิกาเรือนเดียว ขยายเป็น 25 เรือน จากข้อหาปกปิด มาถึงเรื่องสปิริตให้ลาออกจากการเป็นรัฐบาล เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของทั้งคณะ

ในแต่ละวัน ทั้งรัฐบาล “บิ๊กป้อม”ต้องกลายเป็นหมู่บ้านกระสุนตกอยู่คนเดียวนานนับเดือน มิตรร่วมรบต่างพากันนิ่งเงียบ มีแต่น้องรัก อย่าง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กล้าเปิดหน้าปกป้องพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์

จากโซเชียลมีเดีย มาสู่นักการเมือง เลยเถิดไปเป็นเรื่องวาระของสังคม จนกระทั่งล่าสุดลามมาถึงคนใกล้ชิด มิตรเคยรัก อย่างเพื่อนเซนต์คาเบรียล คอนเนกชั่น “หม่อมอุ๋ย”ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ก็ออกมากระทุ้งให้ไขก๊อก เพื่อรักษารัฐบาลไว้

ทุกกลเม็ดที่เคยใช้เพื่อบ่ายเบี่ยงกระแสในคราวตกที่นั่งลำบากจนประสบความสำเร็จ กลับใช้กู้วิกฤติในเรื่องนาฬิกาไม่ได้เลย ทั้งการนิ่งเงียบ การหาประเด็นอื่น การโยนให้เป็นหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือแม้กระทั่งการออกมายอมรับว่า เป็นนาฬิกาที่ยืมเพื่อนรักที่เสียชีวิตไปแล้วมา ต่างไม่ได้ทำให้ไฟที่กำลังลามทุ่ง มีทีท่าทีที่จะมอดดับเหลือแม้แต่น้อย

การปกป้องของ“บิ๊กตู่” นอกจากจะไม่ได้ช่วยชีวิตพี่ใหญ่ให้รอดพ้นวิกฤติครั้งนี้ ยังทำให้เรื่องลามมาถึงตัวเองกับสิ่งที่เคยประกาศไว้เป็นวาระแห่งชาติว่า จะขจัดคอร์รัปชันให้สิ้นซากไปจากประเทศไทย แต่วันนี้กลับกำลังกลืนน้ำลายตัวเอง เมื่อคนข้างกายกระทำเสียเอง

“บิ๊กป้อม”เองก็แสดงให้เห็นว่า ถอยจนสุดกำลังแล้วเหมือนกันกับเรื่องนี้ หลังปรากฏข่าว “ถอดใจ”เตรียมจะไขก๊อกออกจากเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อจบปัญหานี้ เพราะแบกรับแรงกดดันที่มากที่สุดในชีวิตครั้งนี้ไม่ได้ มันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ทางเดียวที่จะทำให้หลุดออกจากหล่ม “นาฬิกาหรู”ได้เหลือแค่ทางเดียว
 
คือ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ยอมเซ่นตัวเอง ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง

ตอนนี้ทุกคนเชื่อว่า ที่สุดรัฐบาลจะตัดสินใจทำแบบนี้ ทว่าคนที่พยายามยื้อยุดฉุดกระชากมากที่สุดไม่ทำวิธีนั้น ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น“บิ๊กตู่” เอง ไม่ใช่เพราะ“บิ๊กป้อม”คือ พี่ชายสุดที่เลิฟชนิดที่ขาดไม่ได้เพียงอย่างเดียว หากแต่พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ คือ คีย์แมนคนสำคัญของรัฐบาลที่ขาดไม่ได้เลย

“บิ๊กตู่”อาจได้รับความนิยมจากเรื่องความตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน หรือมีผลประโยชน์เหมือนกับนักการเมืองทั่วไป จุดขายคือ ความซื่อสัตย์สุจริต ที่ยังเป็นต้นทุนให้ตัวเองยังลากยาวอำนาจได้อยู่ทุกวันนี้ ในขณะที่ “บิ๊กป้อม”ติดภาพลักษณ์เรื่องไม่ดีไม่งามมาตลอด แต่น้องรักยังกอดแน่นราวกับกล่องดวงใจ ที่ขาดไม่ได้เลยแม้สักวัน
                   
   นั่นเพราะใน“ความยี้”ของ“บิ๊กป้อม”มันมีสิ่งหนึ่งที่“บิ๊กตู่”ไม่มี คือ พระเดช พระคุณ ในการเลี้ยงลูกน้องให้อยู่กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสายขาว หรือสายดำ เรื่อยไปถึงเรื่องคอนเนกชั่นกับกลุ่มการเมือง กลุ่มทุน กลุ่มนักธุรกิจ ทหาร ตำรวจ ที่มีความสำคัญในการรักษาเสถียรภาพ และความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่งพี่ใหญ่มีคุณสมบัติพวกนี้ทั้งหมด

แม้แต่เรื่องการวางเกมในอนาคต เพื่อปูทางให้น้องรักได้เป็นนายกฯ อีกสมัย ก็เป็น“บิ๊กป้อม”ในฐานะ“มิสเตอร์ดีล”ที่เป็นคนเดินเรื่องต่างๆ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งการรวบรวมกลุ่มทุน นักธุรกิจ นายทหาร นายตำรวจ กลุ่มการเมือง เพื่อมาเป็นดาวบริวารให้กับ“บิ๊กตู่”ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

สองคนพี่น้องมีจุดเด่น จุดด้อย ที่ต่างกัน แต่เมื่อมารวมกันมันทำให้เสถียรภาพของ คสช. และรัฐบาลที่ผ่านมาแข็งโป๊ก นักการเมืองล้มกันไม่ได้ง่ายๆ เรียกว่า บนดินให้ “บิ๊กตู่”บริหารประเทศ สร้างคะแนนนิยม ในขณะที่ใต้ดินเป็น“บิ๊กป้อม”ที่จัดแจงทุกอย่างให้น้องรักเอง

ถ้าปล่อยให้ “บิ๊กป้อม”ลาออก มันจะมีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลทันที แน่นอนพี่ใหญ่อาจหลบไปอยู่หลังฉากเพื่อเดินเกมต่อไปได้ แต่การสละเก้าอี้ รมว.กลาโหม ที่คุมกำลังทหารและตำรวจเบ็ดเสร็จ มันทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ และราคาของตัวเองลดลง การ“ดีล”เรื่องต่างๆ จะไม่ง่ายมากขึ้น

ทหารและตำรวจที่เคย“แถวตรง”ในยุคของ“บิ๊กป้อม”จะไม่นิ่งเหมือนเก่า จะเกิดสายต่างๆ แตกแยกออกมาอีกมากมาย เพราะคนที่มีอำนาจในทางการเมือง ไม่มีอำนาจในทางกฎหมายที่จะเปิดหน้าจัดแจง จัดระบบ ได้ถนัดเหมือนแต่ก่อน

ที่สำคัญ การขาด“บิ๊กป้อม”ในรัฐบาล จะทำให้“บิ๊กตู่”อ่อนแอลงในทางการเมือง เพราะทุกคนรู้ว่า ลำพังตัวนายกฯคนเดียว ไม่ได้แข็งแกร่งมากพอที่จะพร้อมรับกับกลเกมการเมืองที่เต็มไปด้วย เสือ สิงห์ กระทิง แรด ได้
                 
   นี่จึงทำให้รัฐบาลพยายามกอดพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ เอาไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

เหมือนกับตอนนี้ที่รัฐบาลเหมือนจะทุ่มความหวังทั้งหมดที่มีไปให้กับ คณะกรรมการป.ป.ช. ภายใต้การคุมของ “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ปั๊มหัวใจพี่ใหญ่ออกจากอาการโคม่าให้ได้ เห็นได้จากการที่ป.ป.ช. ออกมาแถลงความคืบหน้าในคดี ชนิดที่พยายามจะหาประเด็น เพื่อทำให้ผู้มากบารมีพอจะมีเวลาได้พักหายใจบ้าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้“วรวิทย์ สุขบุญ”เลขาธิการป.ป.ช. เล่นบทเตมีย์ใบ้มาตลอด

โดยเฉพาะข้อผิดสังเกตที่“บิ๊กตู่”ออกมารู้ล่วงหน้าก่อนว่า ป.ป.ช.จะแถลงเรื่องนี้ ทั้งที่ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการแจ้งกำหนดการกับนักข่าวแต่อย่างใด ก่อนที่ให้หลังไม่กี่ชั่วโมงต่อมา จะมีการแจ้งว่า ป.ป.ช.จะแถลงข่าวในวันรุ่งขึ้น จริงดังที่นายกฯบอกเป๊ะ

“บิ๊กกุ้ย”คนที่หลายคนระแวง ประกาศถอนตัวออกจากการพิจารณา พร้อมกับมีความชัดเจนเรื่องเวลาของการตรวจสอบ ว่าจะเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่นานเกินไป ทำให้ประเด็นร้อนเบาบางลงเป็นการชั่วคราว สังคมคงหยุดขุดไปชั่วคราว เพื่อรอคำตอบจากองค์กรตรวจสอบ

ทีนี้ก็เหลือเพียง“ป.ป.ช.”จะเป็นหมอรักษาอาการไข้ให้กับ“บิ๊กป้อม”ได้แค่ไหน ลำพังการใช้องค์กรฟอกเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ หากแต่ถ้าพี่ใหญ่จะไม่ผิด มันต้องสมเหตุสมผล เคลียร์ชัดทุกประเด็น นั่นถึงจะสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว นอกจากจะไม่ช่วยอะไร ยังเป็นการซ้ำเติมให้รัฐบาลหมดมุกที่จะยื้อชีวิต“บิ๊กป้อม”อีกต่อไป
              
    ดังนั้น ป.ป.ช.จึงคือความหวังสูงสุดของคนไข้ระยะสุดท้ายอย่าง“บิ๊กป้อม”




กำลังโหลดความคิดเห็น