เผย 10 ตร.วังทองหลาง รับเข้า “วิคตอเรีย” จริง อ้างแค่ตรวจพื้นที่ ไม่ได้ใช้บริการ "ป.ป.ท." เผยคดีส่วยค้ามนุษย์อ่าง "วิคตอเรีย ซีเครท" คืบหน้า 30 % ขีดเส้นให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน ปทส.ลุยค้นอาบอบนวด“เอ็มบาสซี่” เชื่อลักลอบใช้น้ำบาดาล
วานนี้ (25 ม.ค.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) สั่งการให้ พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รองผบช.น. ในฐานะหัวคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้อบกพร่องเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่กรณีจับกุมสถานบริการ วิคตอเรีย ซีเครท อาบอบนวด ย่านพระราม 9 เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสั่งการทางพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมผู้ต้องหา 2 ประเด็น คือ 1.กรณีใช้บริการแล้วมีบิล 2.การลดเปอร์เซ็นต์ค่าอาหาร กาแฟ ค่าน้ำ ภายหลังจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเคยให้การปฏิเสธที่จะให้การกรณีดังกล่าวตั้งแต่ครั้งแรก
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แบ่งการตรวจสอบตำรวจที่มีความบกพร่องทางวินัยที่มีข้อมูลปรากฏในเอกสารอยู่ในช่วงเวลา 20.00-22.00 น. วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา คือ ตำรวจสังกัด สน.วังทองหลาง ตำรวจสังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 และ ผกก.ทั้งหมดในสังกัด บช.น. อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง จะสอบปากคำผู้เสียหายและพนักงานที่ทำงานอยู่ในสถานบริการดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปใช้บริการหรือไม่ต่อไปในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.วังทองหลาง ทำรายงานชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปยังบริเวณพื้นที่ดังกล่าว 10 นาย ตั้งแต่ผกก.-ชั้นประทวน เป็นการเข้าพื้นที่ไปปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น จึงสั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้บริการ เนื่องจากกรณีที่มีการเขียนว่ามีตำรวจเข้าไปใช้บริการไม่ได้มีการเขียนรายชื่อระบุเอาไว้ ตรวจสอบดูว่าผกก.สน.วังทองหลาง คนเก่าหรือคนใหม่ หรือเป็นการจองให้คนอื่นใช้บริการ โดยทาง ผกก.สน.วังทองหลาง คนปัจจุบันยืนยันว่ามีหลักฐานไม่ได้มาใช้บริการสถานบริการดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามยังคงเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดบก.สปพ. และผกก.ทั้งหมดที่อยู่ในบช.น.ยังไม่ได้ส่งรายงานชี้แจงเข้ามาว่ามีการใช้บริการอาบอบนวดดังกล่าวหรือไม่ จึงให้พนักงานสอบสวนสน.วังทองหลาง สอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมในประเด็นเพิ่มเติมว่าใครเป็นผู้เขียนหรือจัดทำเอกสารดังกล่าว รวมถึงผู้ใช้ปากกาขีดเส้นในเอกสาร แล้วให้ชี้แจงให้ทราบโดยเร็วที่สุดต่อไป
ด้าน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท. ) เปิดเผยถึงการตรวจสอบคดีส่วยอบอบนวดวิคตอเรียซีเครทว่า ที่ผ่านมาป.ป.ท.ได้เข้าร่วมปฏิบัติการตั้งแต่ชั้นตรวจค้น หลังได้รับสำนวนคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปกระทำการทุจริตหรือรับส่วยด้วยการใช้บริการฟรีในสถานอาบอบนวด ป.ป.ท.ก็เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องตามอักษรย่อที่ระบุวันเวลาเข้าใช้บริการ โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปใช้บริการมีทั้งพลเรือนและตำรวจตามที่ปรากฎเป็นข่าว ซึ่งป.ป.ท.สอบสวนทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ จนถึงขณะนี้ภาพรวมการสอบสวนเพื่อยืนยันตัวบุคคลมีความคืบหน้าไปแล้ว 30 % และได้เข้าสอบปากคำหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ที่นำมาดูแลในบ้านเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานครและบ้านเกร็ดตระการไปแล้ว
“ป.ป.ท.มีอำนาจตรวจสอบเฉพาะการทุจริตของข้าราชการ โดยเบื้องต้นกำหนดกรอบระยะเวลาการทำงานไว้ 90 วัน ซึ่งจะสรุปได้ว่าคดีมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ประมาณกลางเดือนเม.ย.นี้ สำหรับการสอบสวนทางวินัยกับตัวอักษรย่อต่างๆที่ระบุในบัญชีส่วย กรมการปกครองได้แจ้งว่า ได้ส่งสำนวนคดีที่มีรายละเอียดชุดเดียวกับที่ส่งให้กับป.ป.ท. ต่อพนักงานสอบสวนส น.วังทองหลางแล้ว ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ก็ได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อยืนยันตัวบุคคลที่ปรากฎในบัญชีส่วย" พ.ท.กรทิพย์ ระบุ
วันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง ผบก.ปทส.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสถานบริการอาบอบนวด Embassy (เอ็มบาสซี่) ซ.เพชรบุรี 39 ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นหนึ่งในสถานบริการอาบอบนวด ที่มีชื่อของ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ และเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ออนเซน และกรรมการผู้ขอใบอนุญาตเปิดสถานอาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” เข้าไปเกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าค่านำไฟฟ้าของน้ำภายในห้องน้ำชั้น 2 ของสถานบริการอยู่ที่ 367 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของน้ำประปาที่ต้องมีค่าไม่เกิน 200 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าความคลาดเคลื่อนของค่านำไฟฟ้าของน้ำเกิดจากสาเหตุใด ที่ผ่านมาพบสถานบริการมีการลักลอบใช้น้ำบาดาลในบางพื้นที่ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นอย่างจริงจัง มีสถานบริการบางแห่งยกเลิกการใช้น้ำบาดาลชั่วคราว เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเปรียบเทียบประวัติการใช้น้ำย้อนหลังได้ ว่ามีประมาณการใช้ที่แตกต่างกันมากหรือไม่ หากพบว่ามีการหลบเลี่ยงการตรวจสอบจริง ก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 ข้อหา.
วานนี้ (25 ม.ค.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) สั่งการให้ พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รองผบช.น. ในฐานะหัวคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้อบกพร่องเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่กรณีจับกุมสถานบริการ วิคตอเรีย ซีเครท อาบอบนวด ย่านพระราม 9 เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสั่งการทางพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมผู้ต้องหา 2 ประเด็น คือ 1.กรณีใช้บริการแล้วมีบิล 2.การลดเปอร์เซ็นต์ค่าอาหาร กาแฟ ค่าน้ำ ภายหลังจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเคยให้การปฏิเสธที่จะให้การกรณีดังกล่าวตั้งแต่ครั้งแรก
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แบ่งการตรวจสอบตำรวจที่มีความบกพร่องทางวินัยที่มีข้อมูลปรากฏในเอกสารอยู่ในช่วงเวลา 20.00-22.00 น. วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา คือ ตำรวจสังกัด สน.วังทองหลาง ตำรวจสังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 และ ผกก.ทั้งหมดในสังกัด บช.น. อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง จะสอบปากคำผู้เสียหายและพนักงานที่ทำงานอยู่ในสถานบริการดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปใช้บริการหรือไม่ต่อไปในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.วังทองหลาง ทำรายงานชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปยังบริเวณพื้นที่ดังกล่าว 10 นาย ตั้งแต่ผกก.-ชั้นประทวน เป็นการเข้าพื้นที่ไปปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น จึงสั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้บริการ เนื่องจากกรณีที่มีการเขียนว่ามีตำรวจเข้าไปใช้บริการไม่ได้มีการเขียนรายชื่อระบุเอาไว้ ตรวจสอบดูว่าผกก.สน.วังทองหลาง คนเก่าหรือคนใหม่ หรือเป็นการจองให้คนอื่นใช้บริการ โดยทาง ผกก.สน.วังทองหลาง คนปัจจุบันยืนยันว่ามีหลักฐานไม่ได้มาใช้บริการสถานบริการดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามยังคงเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดบก.สปพ. และผกก.ทั้งหมดที่อยู่ในบช.น.ยังไม่ได้ส่งรายงานชี้แจงเข้ามาว่ามีการใช้บริการอาบอบนวดดังกล่าวหรือไม่ จึงให้พนักงานสอบสวนสน.วังทองหลาง สอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมในประเด็นเพิ่มเติมว่าใครเป็นผู้เขียนหรือจัดทำเอกสารดังกล่าว รวมถึงผู้ใช้ปากกาขีดเส้นในเอกสาร แล้วให้ชี้แจงให้ทราบโดยเร็วที่สุดต่อไป
ด้าน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท. ) เปิดเผยถึงการตรวจสอบคดีส่วยอบอบนวดวิคตอเรียซีเครทว่า ที่ผ่านมาป.ป.ท.ได้เข้าร่วมปฏิบัติการตั้งแต่ชั้นตรวจค้น หลังได้รับสำนวนคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปกระทำการทุจริตหรือรับส่วยด้วยการใช้บริการฟรีในสถานอาบอบนวด ป.ป.ท.ก็เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องตามอักษรย่อที่ระบุวันเวลาเข้าใช้บริการ โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปใช้บริการมีทั้งพลเรือนและตำรวจตามที่ปรากฎเป็นข่าว ซึ่งป.ป.ท.สอบสวนทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ จนถึงขณะนี้ภาพรวมการสอบสวนเพื่อยืนยันตัวบุคคลมีความคืบหน้าไปแล้ว 30 % และได้เข้าสอบปากคำหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ที่นำมาดูแลในบ้านเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานครและบ้านเกร็ดตระการไปแล้ว
“ป.ป.ท.มีอำนาจตรวจสอบเฉพาะการทุจริตของข้าราชการ โดยเบื้องต้นกำหนดกรอบระยะเวลาการทำงานไว้ 90 วัน ซึ่งจะสรุปได้ว่าคดีมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ประมาณกลางเดือนเม.ย.นี้ สำหรับการสอบสวนทางวินัยกับตัวอักษรย่อต่างๆที่ระบุในบัญชีส่วย กรมการปกครองได้แจ้งว่า ได้ส่งสำนวนคดีที่มีรายละเอียดชุดเดียวกับที่ส่งให้กับป.ป.ท. ต่อพนักงานสอบสวนส น.วังทองหลางแล้ว ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ก็ได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อยืนยันตัวบุคคลที่ปรากฎในบัญชีส่วย" พ.ท.กรทิพย์ ระบุ
วันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง ผบก.ปทส.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสถานบริการอาบอบนวด Embassy (เอ็มบาสซี่) ซ.เพชรบุรี 39 ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นหนึ่งในสถานบริการอาบอบนวด ที่มีชื่อของ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ และเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ออนเซน และกรรมการผู้ขอใบอนุญาตเปิดสถานอาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” เข้าไปเกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าค่านำไฟฟ้าของน้ำภายในห้องน้ำชั้น 2 ของสถานบริการอยู่ที่ 367 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของน้ำประปาที่ต้องมีค่าไม่เกิน 200 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าความคลาดเคลื่อนของค่านำไฟฟ้าของน้ำเกิดจากสาเหตุใด ที่ผ่านมาพบสถานบริการมีการลักลอบใช้น้ำบาดาลในบางพื้นที่ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นอย่างจริงจัง มีสถานบริการบางแห่งยกเลิกการใช้น้ำบาดาลชั่วคราว เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเปรียบเทียบประวัติการใช้น้ำย้อนหลังได้ ว่ามีประมาณการใช้ที่แตกต่างกันมากหรือไม่ หากพบว่ามีการหลบเลี่ยงการตรวจสอบจริง ก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 ข้อหา.