xs
xsm
sm
md
lg

ฟ้อง9แกนนำกปปส.กบฏ-"เทือก-ลูกหมี"พ่วงก่อการร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360- อัยการยื่นฟ้อง“สุเทพ-แกนนำ กปปส.”รวม 9 ราย ข้อหาเป็นกบฏ กรณีชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปี 56-57 "สุเทพ-ชุมพล" โดนเพิ่มข้อหาก่อการร้าย ศาลสอบคำให้การจำเลยปฏิเสธ ศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ตีราคาประกันคนละ 6 แสนบาท

วานนี้ (24 ม.ค.) เวลา 10.45 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. , นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อดีตส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์, นายชุมพล จุลใส แกนนำ กปปส.แยกราชประสงค์ และอดีตส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ , นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำ กปปส.แยกราชประสงค์และอดีตส.ส. กทม.ประชาธปัตย์ , นายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส.ห้าแยกลาดพร้าว และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชาธิปัตย์ , นายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปปส.ลุมพินี และอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ประชาธิปัตย์ , นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอดีต ส.ส.สงขลา ประชาธิปัตย์ , นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส.แยกอโศก และอดีต ส.ส. กทม. ประชาธิปัตย์, นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส.และอดีต ส.ส.กทม. ประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นกบฏ , ก่อการร้าย, ยุยงให้หยุดงานฯ , กระทำให้ปรากฏด้วยวาจาหรือวิธีการอื่นใดฯ ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในราชอาณาจักรฯ , อั้งยี่ , ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ, บุกรุกในเวลากลางคืนฯ และร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้งฯ รวม 9 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116 , 117 , 135/1 , 209 , 210 , 215 , 216 , 362 , 364 , 365 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ม.76 , 152 ประกอบ ม.83 และ 91

โดยคำฟ้องอัยการ 17 หน้า บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 ถึง 1 พ.ค. 57 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน จำเลยทั้ง 9 ร่วมสมคบกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร โดยเข้าเป็นสมาชิก หัวหน้าผู้มีตำแหน่งสั่งการของคณะบุคคล ร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่กัน ทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรฐานเป็นกบฏ เพื่อล้มล้าง หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ ระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งระหว่างนั้นมีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองเคลื่อนไหวคัดค้านหลายกลุ่ม กระทั่งวันที่ 29 พ.ย. 56 กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้จัดตั้งเป็นคณะบุคคลที่ปกปิดวิธีดำเนินการโดยใช้ชื่อว่า “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" หรือ กปปส. โดยมี นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ประกาศตัวเป็นเลขาธิการฯ ส่วนจำเลยที่ 2-9 ได้ร่วมเป็นสมาชิก และกรรมการผู้มีหน้าที่สั่งการ
โดยคณะบุคคลนั้นร่วมกันโดยมิชอบด้วยกฎหมายในการร่วมกันปลุกระดม ยุยง ชักชวน ให้ประชาชนทั่วราชอาณาจักร เข้าร่วมการชุมนุมและร่วมกิจกรรมในการก่อความไม่สงบ โดยมุ่งหมายที่จะขับไล่รัฐบาล น.ส ยิ่งลักษณ์ ให้พ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งคัดค้าน และขัดขวางการเลือกตั้งส.ส. เพื่อไม่ให้มีนายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหม่ เข้ามาบริหารประเทศตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ โดยจำเลยทั้ง 9 และคณะบุคคลดังกล่าว ได้ออกประกาศให้รัฐบาลหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ข้าราชการระดับสูง เข้ารายงานตัวต่อ กปปส. จากนั้น กปปส. จะออกคำสั่งแต่งตั้งคณะบุคคลเข้ามาใช้อำนาจบริหารประเทศแทน

ซึ่งการกระทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว จำเลยทั้ง 9 และพวกได้แบ่งหน้าที่กันทำ คือ การปราศรัยชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมหรือออกมาขับไล่รัฐบาล อีกส่วนหนึ่งทำหน้าที่เป็นกองกำลัง ทั้งที่มีและไม่มีอาวุธบุกรุกเข้าไปยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานต่างๆ โดยมีการใช้กำลังขัดขวางต่อสู้ทำร้ายร่างกายและขู่ว่าจะใช้กำลังกระทำต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่รักษาอาคารสถานที่ราชการและประชาชน ขณะเดียวกันก็ได้มีการรวบรวมจัดหาชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งมาเป็นกองกำลังโดยเรียกว่า “นักรบศรีวิชัย , นักรบตะนาวศรี , กลุ่มกระเบนธง”โดยเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 57 ได้มีการสะสมกำลังโดยประกาศรับสมัครชายฉกรรจ์ 500 คนเพื่อทำการไล่ล่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯ และรัฐมนตรีอื่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกบฏ โดยจะบีบบังคับให้ นายกฯและรัฐมนตรีนั้น หยุดปฏิบัติหน้าที่และให้พ้นจากตำแหน่ง จากนั้นจะตั้งศาลประชาชนขึ้น พิจารณาพิพากษาลงโทษ และริบทรัพย์ นอกจากนี้พวกจำเลยได้ยุยงชักชวนให้ธุรกิจเอกชน , ข้าราชการ , พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนร่วมกันหยุดปฏิบัติงาน ปิดงาน ไม่ยอมค้าขาย ชะลอและงดการจ่ายภาษีให้รัฐบาลพร้อมกันให้บุกรุกเข้าไปยังสถานที่ราชการ สถานที่เอกชน รัฐวิสาหกิจ และศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งการกระทำนั้นได้เผยแพร่ให้ปรากฏแก่ประชาชนทั่วราชอาณาจักรผ่านการกล่าวปราศรัย ที่ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง และจัดให้มีการชุมนุมใหญ่ของประชาชน ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน และบริเวณใกล้เคียง กระทั่งมีการขยาย และยกระดับการชุมนุมด้วยการนำประชาชนเดินขบวน เคลื่อนย้ายด้วยยานพาหนะหลายชนิดไปปิดล้อม บุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น รวมทั้งตัดระบบไฟฟ้า น้ำประปาในทำเนียบรัฐบาล กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงพลังงาน ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนไทย ญี่ปุ่น ดินแดง และ รัฐวิสาหกิจรวมทั้งเอกชนที่สำคัญหลายแห่ง เช่น อาคารเอ็นเนอจีคอมเพล็กซ์ ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งหลังจากบุกรุกเข้าไปในสถานที่ต่างๆ หลายแห่งแล้วพวกจำเลยร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายด้วยการใช้ ก้อนหิน , ขวดแก้ว , ไม้ท่อน , หนังสติ๊ก , กระสุนหัวน็อต , ระเบิดเพลิงปะทัดยักษ์ , ระเบิดปิงปอง , อาวุธปืนสั้น-ปืนยาวฯ มีดปลายแหลม เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งรักษาความสงบเรียบร้อยได้รับอันตราย และมีเสียชีวิตหลายราย

และตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. -2 มี.ค. 57 จำเลยกับพวกยังได้ปิด กทม. หรือ Bangkok Shutdown รวม 7 จุด โดยตั้งเวทีปราศรัย ปิดกั้นการจราจรสาธารณะ ประกอบด้วยเวทีแจ้งวัฒนะ , ห้าแยกลาดพร้าว , อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , แยกปทุมวัน , แยกราชประสงค์ , สวนลุมพินี และแยกอโศก โดยมีการนำแท่งปูน , ผนังคอนกรีต , รั้วลวดหนาม และยางรถยนต์วางเป็นเครื่องกีดขวาง แล้วในช่วงการประกาศการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 ก.พ. 57 จำเลยกับพวกยังให้มีการชุมนมปิดล้อมหน่วยรับสมัคร และหน่วยเลือกตั้งใน กทม. และต่างจังหวัดหลายแห่ง เพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. แล้ววันที่ 5 เม.ย. 57 ยังได้ร่วมกันประกาศว่า กลุ่ม กปปส. จะเข้าใช้อำนาจอธิปไตย และประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ที่จะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกฯ และครม.

นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ย. 56 นายสุเทพ เลขาธิการ กปปส. และ นายชุมพล แกนนำ กปปส. จำเลยที่ 1 และ 3 ยังร่วมกันก่อการร้าย โดยทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบโทรคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์สาธารณะ เช่น เครื่องควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าหลัก และไฟฟ้าสำรองของ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท. รวมทั้งระบบอินเตอร์เนตส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้เกิดความเสียหายนับพันล้านบาท เหตุเกิดในพื้นที่ กทม. และ จ.นนทบุรี , เพชรบุรี , พังงา ,ชุมพร , นครศรีธรรมราช , ยะลา หลายแห่งเกี่ยวพันกัน โดยจำเลยที่ 1-4 , จำเลยที่ 7-9 เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 57 , จำเลยที่ 5 เข้ามอบตัวที่ 28 พ.ค. 57 และจำเลยที่ 6 เข้ามอบตัววันที่ 27 พ.ค. 57 ชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 9 ให้การปฏิเสธ ซึ่งหากจำเลยยื่นขอปล่อยชั่วคราว อัยการก็ขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล โดยท้ายฟ้องอัยการโจทก์ ยังขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยทั้งเก้า ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ด้วย

ศาลได้ประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 และสอบคำให้การเบื้องต้นแล้วจำเลยให้การปฏิเสธ โดยนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 19 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายความของ 9 แกนนำ กปปส. ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันภัย บ.วิริยะประกันภัย คนละ 800,000 บาท รวม 7.2 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้จำเลยทั้งเก้ามีประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 600,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งหมดออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล


กำลังโหลดความคิดเห็น