xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ขายขี้หน้าไปทั่วโลก!! สื่อนอกสามัคคีตีข่าว “นายพลนาฬิกา”รายงานเหมือนกันเป๊ะ “บิ๊กเมืองไทย”ติดปมโคตรนาฬิกา สะท้อนจริยธรรม-ความโปร่งใส แต่ยังนั่งทำงานหน้าตาเฉย ส่วน “นายกฯน้องตู่”ป่านนี้คงเท้าก่ายหน้าผาก คิดจะตัดเนื้อร้ายทิ้ง ก็เหมือนยอมรับว่าผิด

ดวงตกสุดขีด .. ตั้งแต่ยังไม่พ้นเดือนแรกของศักราชใหม่ รายของ“พี่ใหญ่ คสช.”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ติดพันปม“โคตรนาฬิกาหรู” มาตั้งแต่ปีกลาย .. จนโดน “ชาวเน็ต”คุ้ยออกมา 25 เรือนเข้าให้แล้ว ราคาค่างวดแตกต่างกันไป แต่เหมือนกันอยู่อย่าง ที่ไม่มีสักเรือนที่อยู่ในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ที่มีการยื่นเอาไว้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) .. ย้อนไปตั้งแต่ สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรื่อยมาถึงรัฐบาล “นายกฯน้องตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา .. แถมทำท่าว่าจะ “ขว้างงูไม่พ้นคอ”หลังข้ออ้าง “ของยืม”หรือ “นาฬิกาเพื่อน”ที่คายออกมา มันฟังไม่ขึ้น จนจะทำให้เรื่องไปกันใหญ่มากกว่า .. อย่าลืมว่า “พี่ป้อม”เคยตอบ “น้องตู่”ที่ทักให้ระวังตัวเรื่องเฟอร์นิเจอร์ประดับร่างกาย ตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่ๆไว้ประมาณว่า “ของเก่า ใส่อยู่บ่อยๆ”กลางงานทำบุญที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ต้นเดือน ธ.ค.60 อย่าลืมว่า วันนั้นพยานเพียบ .. ก็หวังว่า“ป.ป.ช.” ภายใต้การนำของ “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ จะจับประเด็นยิบย่อยทุกเม็ด เพื่อเคลียร์ประเด็นร้อนของ“นายเก่า”ที่วันนี้เป็น “เผือกร้อน” วางอยู่บนตักตัวเอง ..
ไม่เพียงแต่ดับข้อสงสัยของ“สังคมไทย - สังคมโซเชียล”ไม่ได้เท่านั้น ตลกร้ายกลับยิ่งขยายใหญ่ “ลุงป้อม”ดังไกลชนิด “โกอินเตอร์” .. สื่อนอก ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น จีน “สำนักข่าวเอพี”ของสหรัฐอเมริกา “เดลี เมล์”ของอังกฤษ ตีข่าวกันสนั่น ถึงนาฬิกามูลค่ามหาศาล พร้อมนิกเนม ไม่มีใครเหมือนว่า “นาพลนาฬิกา” ..เนื้อหาที่ “สื่อนอก”รายงานไปในทิศทางเดียวกัน ที่ “ผู้มากบารมี”ในรัฐบาลไทย หมกเม็ด ไม่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเอาไว้ หรือแม้แต่ “KBS”ของเกาหลีใต้ ก็ถูกผู้ประกาศข่าวเอาประเด็นนี้ไปอ่านกันสนุกสนาน .. ขนาดสื่อนอกยังหยิบจับเรื่องนี้ไปนำเสนอ มันก็สะท้อนให้เห็นปรากฏการณ์ว่า สิ่งที่ “บิ๊กป้อม”กำลังเผชิญอยู่ เป็นเรื่องที่ท้าทายจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างรุนแรง .. ในประเทศต่างๆ ผู้นำบางคนอาจต้องแสดงความผิดชอบกับเรื่องทำนองนี้ไปแล้ว แต่ “ที่นี่ประเทศไทย”กลับยังนั่งทำงานหน้าตาเฉย เหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น .. คงต้องบอกว่า“เสือตะวันออก”ตกที่นั่งลำบากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรื่องตัวเองกลายเป็น “สากล”แรงกดดัน แรงถาโถม จะหนักขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัว จนอาจไม่มีสมาธิจะทำงานทำการ ..
ส่วน“นายกฯน้องตู่”ป่านนี้คงเอาเท้าก่ายหน้าผากแล้วว่าจะหาทางออกอย่างไร ที่ผ่านมาคงคิดว่า น่าจะผ่านไปได้เหมือนเรื่องก่อนๆ .. แต่เรื่องนี้มัน “ติดหล่ม”ทำอย่างไรก็ผ่านไม่ได้เสียที แถมนานวันเข้า “พี่ใหญ่”ชักจะไปไม่เป็น ทำได้แต่รอ ป.ป.ช. มาช่วยชีวิต แต่ชี้แจงมันก็ไม่ง่ายอีก .. ถ้ามาแบบ “ขอไปที”ไม่มีรายละเอียด จะยิ่งเป็นการซ้ำเติม“พี่ป้อม”ด้วยซ้ำ .. แบบนี้ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก”ครั้นจะดันทุรัง ฝืนมันอยู่อย่างนี้ให้พี่ใหญ่นั่งๆ ทำงานต่อ พาลจะพังกันทั้งองคาพยพ .. หรือจะตัดปัญหาหั่นเนื้อร้ายทิ้ง ให้ “พี่ป้อม”ไปพักซะ แล้วอยู่เบื้องหลัง มันก็จะกลายเป็นว่า“ยอมรับว่าผิด”จริงๆ ซึ่งไม่ใช่สไตล์ของผู้นำทหารยุคนี้ .. ตอนนี้“นายกฯตู่”อาจจะลุ้นให้ “พี่ป้อม”เห็นคล้อยไปกับ “เพื่อนอุ๋ย”ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ ในรัฐบาล คสช. ที่เป็น “เซนคาเบรียลคอนเนกชั่น”ของ “บิ๊กป้อม”ที่ชี้ทางสว่างไว้แล้วว่า ไม่นาน “เพื่อนป้อม”คงต้องแสดงสปิริตลาออกในเร็วๆนี้.

** เสียชื่อสื่อคุณภาพโหม้ดด!! บทความดัง “ค่ายฐานเศรษฐกิจ”กระชากหน้ากาก “เสี่ยกำพล”ผ่านพอร์ตหุ้นแบบ “รู้ดีกว่าใคร”แต่ดันปล่อยไก่ ข้อมูล “นสพ.ผู้จัดการ”โยงหุ้น EPCO

ลุกลามบานปลายไปใหญ่ .. ปฏิบัติการทลาย “ดินแดนแห่งความลับ”ของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ร่วมกับ กรมการปกครอง บุก “วิกตอเรียซีเครท”อาบ อบ นวด ชื่อดังย่านพระราม 9 .. ที่ตอนนี้ “อาฟเตอร์ช๊อก”ขยายวงไปไกลเกิน 5-6 คน ที่โดนจับไปดำเนินคดีชุดแรก หรือกระทั่ง “โพยส่วย-โพยอาบน้ำ”ที่ฮือฮาอยู่พักหนึ่งก็ยังจืดไปเลย .. เมื่อมีการออกมาแฉเส้นทางการเงินของอาบอบนวดแห่งนี้ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเป็นอย่างยิ่ง .. โดยเฉพาะการที่เกี่ยวโยงไปถึงหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มีตัวละครสำคัญคือ กำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AQUA) หรือที่ในวงการเรียกขานกันว่า “เสี่ยกำพล” ที่โดนออกหมายจับพร้อมๆกับภรรยา ใน 12 ข้อหาหนัก .. โดยก่อนหน้านี้ชื่อของ “เสี่ยกำพล”ถูกเปิดออกมาโดย “เฮียชู” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของวิคตอเรียฯ ว่าเป็นผู้ซื้อ “อ่างทองคำ”ต่อไปจากเจ้าตัว แต่ “เฮียชู”แค่แตะๆ “เสี่ยกำพล” แล้วอุบไต๋ไว้หลายเรื่อง .. พลันที่ “เสี่ยกำพล”โดนออกหมายจับ จึงมาได้รู้จักตื้นลึกหนาบางกันมากขึ้นผ่าน “บทความ”ในเวบไซต์ “ฐานเศรษฐกิจ”ที่จัดการเปิดโปง “เสี่ยกัมพล”เน้นไปที่พอร์ตการลงทุน ที่เป็นข้อมูลแบบ“รู้ดีกว่าใคร”..
ทว่าข้อมูลของ “เสี่ยกำพล”ที่ทาง “ฐานเศรษฐกิจ”เผยแพร่ออกมา “ครั้งแรก”(ปัจจุบันมีการแก้ไขแล้ว) กลับมีการกล่าวถึง “นสพ.ผู้จัดการ”ผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัย .. ก็ท่อนที่กล่าวถึงหุ้นของ “เสี่ยกำพล”ใน บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) จำนวน 37 ล้านหุ้น พร้อม “หมายเหตุ”ตัวเข้มๆ ว่า เจ้าของ EPCO คือ “นสพ.ผู้จัดการ” ..ทั้งที่สถานะของ “เครือผู้จัดการ” วันนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับหุ้นทุกตัวในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนกับ EPCO เราก็มีฐานะเป็นเพียง “ผู้ว่าจ้าง”ที่สั่งพิมพ์สื่อในเครือ กับโรงพิมพ์ตะวันออกเท่านั้น .. ซึ่งข้อมูลที่ผิดพลาดขนาดนี้ จนมันดู “ทะแม่งๆ”ไม่น่าจะออกมาจาก “ฐานเศรษฐกิจ”สื่อด้านธุรกิจเบอร์ต้นของประเทศ .. ก็ต้องถามไปถึง “คนเขียน”มีเจตนาไม่บริสุทธิ์อย่างไรหรือไม่ หรือไม่รู้จริงๆว่า EPCO เป็นกิจการของใคร ถ้าไม่รู้ “ข้อมูลพื้นๆ”แบบนี้ก็ไม่ควรมาขีดๆเขียนๆ อะไรให้เสียชื่อหัว “นสพ.คุณภาพ”แห่งนี้ แล้วก็ไม่ควรได้อยู่กินเงินเดือนในเครือนี้ต่อไปด้วยซ้ำ .. ทางที่ดี “ผู้บริหารฐานฯ" ควรรีบจัดการ “ลูกน้อง”คนนี้เสีย ที่เหมือนจะจงใจ “บิดเบือน”จนเป็นการหา “เผือกร้อน”ให้ “เจ้านายตัวเอง”มากกว่า.

** ทบต้นทบดอก!! “เครือโอเอ ณ ศูนย์เหรียญ”ยังไม่พ้นกรรม คดีเลี่ยงภาษีจ่อคอหอย งวดนี้อัพยอดเป็น 1.7 หมื่นล้าน “รุ่งโรจน์”หัวโต๊ะกู้ศรัทธาสีกากี หลังเคยลือมีเจอ“ค่าลมเพลมพัด”หลักร้อยล้าน ทำสำนวนอ่อนยวบ

เสียรังวัดไปเมื่อครั้งก่อน .. หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง“ขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ”ไปยกกระบิ เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน .. ท่ามกลางกระแสข่าว มี “ค่าลมเพลมพัด”ถึงกว่า 360 ล้าน จนทำให้สำนวนอ่อนยวบ .. ไม่เท่านั้นยังเม้าต์กันให้แซ่ดว่า งานนั้นมี “พล.ต.ต.ใหญ่กว่า พล.ต.อ.”จน “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ถึงกับ “ของขึ้น”โวยลั่น “ไม่มี พล.ต.ต.ใหญ่กว่า พล.ต.อ. ถ้า พล.ต.ต. มีบารมีกว่า พล.ต.อ. อยู่กันไม่ได้ ก็ต้องไปกันข้างหนึ่ง” ..จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็จำเป็นต้องกระชับอำนาจทีมพนักงานสอบสวน .. ส่ง“บิ๊กจุก”พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. ฝ่ายกฎหมาย ลงไปเป็นหัวหน้าทีมพนักงานสอบสวน เอง .. จากนั้นเป็นต้นมา ความเข้มข้นเรื่องคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ก็เริ่มฟื้นกลับมาตามลำดับ ตั้งแต่ที่ อัยการ อุทธรณ์คดี ยันข้อหาเดิมกลับไปที่ศาล .. หรือการประสานข้อมูลระหว่างกันกับ กรมสรรพากร หาช่องเอาผิดในคดีเลี่ยงภาษี กับบริษัทในเครือ “โอเอ ทรานสปอร์ต”จิ๊กซอร์สำคัญในคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ..
ถ้าจำกันได้เมื่อช่วงเดือนกันยายนปีก่อน กรมสรรพากร ก็เคยส่งเรื่องให้ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) หรือ “ตำรวจเศรษฐกิจ”มาหนหนึ่งแล้ว .. โดยชี้ว่า“เครือโอเอ”มีพฤติการณ์แจ้งข้อมูลเท็จเพื่อหลบเลี่ยงภาษีกว่า 7.8 พันล้านบาท .. แต่เรื่องก็ดันเงียบหายไปในกลีบเมฆ ทำเอาพาลนึกไปว่า สะดุดอะไรเข้าอีกแล้ว หรือมี “นายพลตรี”คนไหนมาขัดแข้งขัดขาอีกซะล่ะมั้ง .. พลันกลับมาเป็นข่าว ก็ตูมตามทีเดียว เมื่อมีรายงานว่า “บิ๊กจุก”เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปกรณี “เครือโอเอ”เลี่ยงภาษีในวันนี้ แล้วเห็นว่ามีสัญญาณเข้ม ให้กระซวกแบบเลี้ยงไม่โต ด้วยข้อหาเดิมหลบเลี่ยงภาษีนั่นแหละ .. แต่ยอดเงินพุ่งกระฉูดจาก 7.8 พันล้านบาท เป็น 1.7 หมื่นล้านบาทแทน เรียกว่า "ทบต้นทบดอก" จากเมื่อครั้งเสียชื่อในศาลชั้นต้น.. แถมพ่วงด้วยข้อหาฟอกเงิน ที่เตรียมส่งดาบให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จัดหนักต่อด้วย.
ช.ชฎา
รูป

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล
กำพล วิระเทพสุภรณ์
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม


กำลังโหลดความคิดเห็น