xs
xsm
sm
md
lg

นาฬิกาและชะตากรรมป.ป.ช.

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ


ถ้าถามว่าวันนี้ชาวบ้านเชื่อเรื่องที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อ้างว่านาฬิกาเรือนแสนเรือนล้านกว่า 20 เรือนรวมกันมูลค่าเกือบ 40ล้านบาทที่อยู่บนข้อมือของตัวเองนั้นยืมเพื่อนมาทั้งหมดหรือไม่ ตอบได้เลยครับว่า ไม่มีใครเชื่อ

แต่พล.อ.ประวิตรก็ไม่สนใจหรอกว่าชาวบ้านจะเชื่อหรือไม่ ขอให้ ป.ป.ช.เชื่อก็พอ

ตอนนี้ก็เลยต้องมาวัดกันว่า ป.ป.ช.ที่มีชื่อเต็มว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จะทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมศักดิ์ศรีหรือไม่ กลัวเกรง อิทธิพล อำนาจบารมีของพล.อ.ประวิตรหรือไม่ ถ้าป.ป.ช.สรุปว่า พล.อ.ประวิตรไม่ผิด เพราะนาฬิกาเหล่านั้นเพื่อนให้ยืมมาใช้จริง ตัดจบในชั้น ป.ป.ช.ไม่ต้องส่งคดีขึ้นสู่ศาล ป.ป.ช.จะมีคำอธิบายที่หักล้างความเคลือบแคลงใจของสังคมได้หรือไม่

งานนี้นอกจากพิสูจน์ความโปร่งใสของพล.อ.ประวิตรแล้ว ยังพิสูจน์ความโปร่งใสและศักดิ์ศรีขององค์กรอย่าง ป.ป.ช.ด้วย

อย่าลืมนะครับว่า ป.ป.ช.เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรม เป็นองค์กรอิสระที่ไม่ขึ้นกับอำนาจใด แต่ในทางปฏิบัตินั้นก็รู้กันดีว่า การได้ขึ้นมานั่งในตำแหน่งกรรมการป.ป.ช.นั้น ก็ต้องมีเส้นสายบารมีเกี่ยวโยงกับผู้มีอำนาจ ไม่เช่นนั้นก็ก้าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งนี้ได้ยาก ดังนั้นแม้จะเป็นองค์กรที่มีสถานะอิสระ แต่กรรมการก็ขึ้นมาด้วยระบบเส้นสายอยู่ดี

โดยเฉพาะในยุคที่สภานิติบัญญัติเป็น “สภาฝักถั่ว” ไม่มีฝ่ายค้านด้วยแล้ว การตรวจสอบคุณสมบัติและการคัดสรรก็รู้กันโดยพฤตินัยว่า แม้ขั้นตอนการคัดสรรจะกระทำถูกต้องตามนิตินัยทุกอย่างก็เป็นเพียงพิธีกรรมอำพรางเท่านั้นเอง

แถมกรรมการ ป.ป.ช.ชุดนี้ แม้จะมีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2560 กลับได้รับการยกเว้นให้ดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ที่กำลังเป็นคำถามอยู่ว่า สนช.มีอำนาจยกเว้นคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญให้กับ ป.ป.ช.บางคนหรือไม่

แต่องค์กรอย่าง ป.ป.ช.ก็ใช่ว่าจะมีแต่คณะกรรมการที่มาจากการคัดสรรเท่านั้น ยังมีข้าราชการที่เป็นเจ้าพนักงานจำนวนมากที่เชื่อได้ว่า การเข้าไปทำงานในองค์กรนี้ได้นั้นจะต้องผ่านการคัดกรองและตรวจสอบคุณสมบัติกันอย่างเข้มข้น เพราะจะต้องเข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตโกงกินแผ่นดินซึ่งเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ มีระบบระเบียบการทำงานที่เป็นขั้นเป็นตอนให้ยึดถือปฏิบัติก็ไม่ง่ายหรอก ถ้ากรรมการคนไหนจะมาสั่งให้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงและเปลี่ยนจากดำเป็นขาวได้

ดังนั้นเรื่องนาฬิกาของบิ๊กป้อมที่คนทั่วไปฟังแล้วเขาไม่เชื่อ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ที่มีประสบการณ์ในการสืบสวนสอบสวน หาพยานหลักฐาน แสวงหาข้อเท็จจริง มีหลักเกณฑ์วิธีการไต่สวน ก็ยิ่งจะต้องมีกระบวนการที่ดีให้เป็นไปตามกรอบขององค์กรที่ต้องยึดหลักนิติธรรม ความโปร่งใสมากกว่าองค์กรอื่น

ที่สำคัญพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเด็ดขาด เพราะเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ถูกกล่าวหาคือ บิ๊กป้อม เพราะเคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีประจำตัวของบิ๊กป้อมมาก่อน และยังเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาของพล.ต.อ.พัชรวาทน้องชายของบิ๊กป้อมอีกด้วย

ซึ่งเป็นข้อต้องห้ามตามระเบียบการวิธีการของ ป.ป.ช.อยู่แล้วที่บอกว่า (5) มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในฐานะญาติ หรือเป็นหุ้นส่วน หรือมีผลประโยชน์ร่วมกันหรือขัดแย้งกันทางธุรกิจกับผู้กล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งวงเล็บนี้เขียนไว้ในพ.ร.ป.ป.ป.ช.มาตรา 46 ด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นสถานะของพล.ต.อ.วัชรพลตอนนี้นั้นไปตามที่กล่าวไว้ข้างต้นยังเป็นที่กังขาว่า ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ และสนช.กำลังยื่นร่างพ.ร.ป.ป.ป.ช.ฉบับล่าสุดให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 บัญญัติไว้ว่า นอกจากคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในส่วนที่ว่าด้วยองค์กรอิสระแต่ละองค์กรแล้ว ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามทั่วไปดังต่อไปนี้ด้วย (3) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 202

มาตรา202 (4) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในระยะสิบปีก่อนเข้ารับการคัดเลือกหรือสรรหา

ขณะที่มาตรา 178 ร่างพ.ร.ป.ป.ป.ช.บัญญัติว่า “ให้ประธานป.ป.ช.และกรรมการป.ป.ช.ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระตามที่กำหนดในพ.ร.บ.ว่าด้วยการ ป.ป.ช. 2542 หรือพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 19 เว้นแต่กรณีตามมาตรา 19 (3) ในส่วนที่เกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติตามมาตรา 9 และลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 (1) และ 18 มิให้นำมาใช้บังคับ”

มาตรา 178 นี้ทำให้ ป.ป.ช. 7 คนใน 9 คนได้ประโยชน์เพราะได้อยู่ในตำแหน่งต่อแม้จะมีคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 หนึ่งในนั้นก็คือตัว พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช.เอง เพราะพล.ต.อ.วัชรพล เพิ่งพ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมาไม่ถึง 10 ปี

การเขียนกฎหมายลูกตามมาตรา 178 ให้ยกเว้นบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญนั้นทำได้หรือ คำถามว่า สนช.มีอำนาจที่เหนือกว่ารัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติไว้ชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทําใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทํานั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้

แต่เรื่องมันยุ่งตรงที่การร่างพ.ร.ป.รัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระนั้น สนช.มีมาตรฐานที่แตกต่างกันหรือพูดว่าไร้มาตรฐานก็ได้ เพราะมีทั้งให้อยู่ในตำแหน่งต่อและให้เลือกกันใหม่หมด 2 องค์กรที่ถูกเซ็ตซีโร่ ก็คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กลับยกเว้นให้คณะกรรมการป.ป.ช. คณะกรรมการผู้ตรวจการแผ่นดิน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้อยู่ต่อไปได้โดยไม่เซ็ตซีโร่ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

มีคนพยายามอ้างว่า ร่างพ.ร.ป.ป.ป.ช.ไม่น่าจะขัดรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ร่างมาตรา 56 ของพ.ร.ป.ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาแล้ว โดยมาตรา 56 บัญญัติว่า ให้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งดำรงตำแหน่ง อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ บรรดาที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระตามที่กำหนด ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 หรือพ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 18

โดยในครั้งนั้นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ทำได้เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของ สนช.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 273

แต่จะเห็นว่า ต่างกันในร่างพ.ร.ป.ผู้ตรวจการแผ่นดินมาตรา 56 นั้น เขียนไว้ชัดว่า คนที่อยู่ในตำแหน่งต่อนั้นคือ “บรรดาที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ” แต่ร่างพ.ร.ป.ป.ป.ช.ในมาตรา 178 นั้น สนช.กลับให้คนที่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญอยู่ต่อ ซึ่งเป็นการเขียนกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา 5 ดังนั้นการลงมติของสนช.ที่รับรองน่าจะเข้าข่ายความผิดคุกๆ ด้วย

ดังนั้น ทั้งเรื่องนาฬิกาบิ๊กป้อมที่สังคมกำลังจับจ้องว่า ป.ป.ช.จะทำเรื่องที่ขัดกับความรู้สึกของสังคมจนหมดศักดิ์ศรีหรือไม่ การอยู่ในตำแหน่งต่อไปของป.ป.ช. 7 คนที่ขัดรัฐธรรมนูญซึ่งรวมถึงพล.ต.อ.วัชรพลคนใกล้ชิดของบิ๊กป้อมก็เป็นคำถามเช่นเดียวกัน

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น