"วิษณุ" สวมวิญญาณ “เนติบริกร” ตัดจบปัญหา ขอรับซื้อหมาบางแก้วจาก "บิ๊กตู่"เอง อุบไต๋ใช้วิธีไหน บอกถูกกฎหมายแน่ เผยป.ป.ช.เตรียมแก้ประกาศป.ป.ช. รับของมูลค่าไม่เกิน 3 พันได้ สอดรับกฎหมายใหม่ ประกาศใช้ ขณะที่"ศรีสุวรรณ"ผู้ร้องป.ป.ช. ก็ประกาศขอซื้อ เช่นเดียวกับเลขาธิการ ปชป.ที่ขอซื้อไปแทนคอกที่บ้าน
วานนี้ (4 ม.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ถูกร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ให้สอบสวนกรณีซื้อลูกสุนัขบางแก้ว 3 ตัว แล้วจะให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ คนละตัว ซึ่งส่อผิดกฎหมายป.ป.ช. ว่า "ถ้าคนนั้นไม่เอา คนนี้ไม่เอา ผมจะเอา และผมมีวิธีเอาโดยไม่ผิดกฎหมายด้วย แต่ผมไม่เปิดเผยวิธีการ ว่าทำอย่างไร ตอนนี้ที่บ้านผมเลี้ยงหมาพันธุ์คอร์กี้อยู่ 1 ตัว โดยเลี้ยงอยู่บนบ้าน แต่ถ้าได้พันธุ์บางแก้ว มาก็จะเลี้ยงในบริเวณบ้านได้"
นายวิษณุ เปิดเผยด้วยว่า ตนทราบว่าป.ป.ช. กำลังจะแก้ไขประกาศป.ป.ช.ที่กำหนดวงเงิน ห้ามรับและให้ทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใดมูลค่าเกิน 3,000 บาท เพราะเป็นวงเงินที่กำหนดอยู่ในประกาศป.ป.ช. ปี 2542 ซึ่งเป็นฐานเก่าที่ตั้งไว้แล้ว โดยเป็นการขยับตามค่าครองชีพในปัจจุบัน
ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ก็กล่าวว่า เพื่อเป็นการตัดประเด็นปัญหาทางกฎหมาย ที่อาจจะมีการแอบกระทำการส่งมอบสุนัขดังกล่าวให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ฉัตรชัย หรือผู้อื่นได้ในอนาคต สมาคมฯ จึงขอรับซื้อสุนัขทั้ง 2 ตัวจากนายกรัฐมนตรีไว้เอง ในราคาเดียวกับที่นายกฯซื้อมา คือตัวละ 6,000 บาท และจะตั้งชื่อให้สุนัขทั้ง 2 ตัวว่า “น้องปรองดอง”กับ“น้องสมานฉันท์”แต่ถ้านายกฯไม่ขายให้ ก็จะแจ้งให้ป.ป.ช.ติดตาม ตรวจสอบ ทั้งในระยะสั้นและระยาวต่อไป ว่าสุดท้ายแล้วสุนัขดังกล่าวไปอยู่กับใคร
ทางด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีต ส.ส.พิษณุโลก กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนรักและเลี้ยงสุนัขทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศขายลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว ตนจึงอยากจะขอซื้อหมาบางแก้ว ซึ่งเป็นสุนัขจาก จ.พิษณุโลก และอยากขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ช่วยโปรโมตสุนัขพันธุ์บางแก้ว เพราะเป็นพันธุ์ไทยที่มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของเป็นที่สุด อยู่บ้านใครขโมยไม่ขึ้น
“พอดีสุนัขพันธุ์บางแก้วที่บ้านตนเพิ่งตายหมดคอกไปแล้ว ฉะนั้นถ้าท่านนายกฯพร้อมจะขายผมยินดีที่จะซื้อต่อและขอขอบพระคุณแทนคนที่เลี้ยงสุนัขบางแก้วทั้ง จ.พิษณุโลกว่าทำให้พันธุ์นี้ ดังเป็นที่รู้จักขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองแต่เป็นเรื่องคนรักหมาล้วนๆ ตอนที่เห็นข่าวเรื่องการรับสุนัขบางแก้วก็รู้สึกชื่นใจแต่เมื่อมีการประกาศขายก็รู้สึกสนใจและจริงจังในแบบของคนรักสุนัข” นายจุติ กล่าว
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กฎหมายคือกฎหมาย แล้วตอนนี้หมาก็ยังไม่ได้รับสักตัว ยังอยู่ที่จ.พิษณุโลก แล้วสื่อจะเขียนอะไรกันทุกวัน เรื่องของหมาก็คือหมา ก็ว่าไป ตนแค่หวังดี เจตนาดีกับคนขาย เป็นการให้กำลังใจที่ให้เงินเกินไปก็เป็นการให้กำลังใจเขา ตนเป็นคนมีน้ำใจแบบนี้ ไม่ได้ตั้งใจ หรือเจตนาให้มันผิด หรือถูก ขอให้เข้าใจกันบ้าง พร้อมกับบอกว่า ที่บ้านก็เลี้ยงหมาอยู่แล้วสามตัว มีชื่อว่า“เสือ” “ไทเกอร์”และ“ไข่ตุ๋น” เป็นหมาพันธุ์ต่างประเทศสองตัว กับพันทาง 1 ตัว ส่วนพันธุ์บางแก้วที่ซื้อก็เพราะอยากจะส่งเสริมคนเลี้ยง เพราะการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์แท้ ต้องมีการลงทุนสูงมาก.
วานนี้ (4 ม.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ถูกร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ให้สอบสวนกรณีซื้อลูกสุนัขบางแก้ว 3 ตัว แล้วจะให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ คนละตัว ซึ่งส่อผิดกฎหมายป.ป.ช. ว่า "ถ้าคนนั้นไม่เอา คนนี้ไม่เอา ผมจะเอา และผมมีวิธีเอาโดยไม่ผิดกฎหมายด้วย แต่ผมไม่เปิดเผยวิธีการ ว่าทำอย่างไร ตอนนี้ที่บ้านผมเลี้ยงหมาพันธุ์คอร์กี้อยู่ 1 ตัว โดยเลี้ยงอยู่บนบ้าน แต่ถ้าได้พันธุ์บางแก้ว มาก็จะเลี้ยงในบริเวณบ้านได้"
นายวิษณุ เปิดเผยด้วยว่า ตนทราบว่าป.ป.ช. กำลังจะแก้ไขประกาศป.ป.ช.ที่กำหนดวงเงิน ห้ามรับและให้ทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใดมูลค่าเกิน 3,000 บาท เพราะเป็นวงเงินที่กำหนดอยู่ในประกาศป.ป.ช. ปี 2542 ซึ่งเป็นฐานเก่าที่ตั้งไว้แล้ว โดยเป็นการขยับตามค่าครองชีพในปัจจุบัน
ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ก็กล่าวว่า เพื่อเป็นการตัดประเด็นปัญหาทางกฎหมาย ที่อาจจะมีการแอบกระทำการส่งมอบสุนัขดังกล่าวให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ฉัตรชัย หรือผู้อื่นได้ในอนาคต สมาคมฯ จึงขอรับซื้อสุนัขทั้ง 2 ตัวจากนายกรัฐมนตรีไว้เอง ในราคาเดียวกับที่นายกฯซื้อมา คือตัวละ 6,000 บาท และจะตั้งชื่อให้สุนัขทั้ง 2 ตัวว่า “น้องปรองดอง”กับ“น้องสมานฉันท์”แต่ถ้านายกฯไม่ขายให้ ก็จะแจ้งให้ป.ป.ช.ติดตาม ตรวจสอบ ทั้งในระยะสั้นและระยาวต่อไป ว่าสุดท้ายแล้วสุนัขดังกล่าวไปอยู่กับใคร
ทางด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีต ส.ส.พิษณุโลก กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนรักและเลี้ยงสุนัขทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศขายลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว ตนจึงอยากจะขอซื้อหมาบางแก้ว ซึ่งเป็นสุนัขจาก จ.พิษณุโลก และอยากขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ช่วยโปรโมตสุนัขพันธุ์บางแก้ว เพราะเป็นพันธุ์ไทยที่มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของเป็นที่สุด อยู่บ้านใครขโมยไม่ขึ้น
“พอดีสุนัขพันธุ์บางแก้วที่บ้านตนเพิ่งตายหมดคอกไปแล้ว ฉะนั้นถ้าท่านนายกฯพร้อมจะขายผมยินดีที่จะซื้อต่อและขอขอบพระคุณแทนคนที่เลี้ยงสุนัขบางแก้วทั้ง จ.พิษณุโลกว่าทำให้พันธุ์นี้ ดังเป็นที่รู้จักขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองแต่เป็นเรื่องคนรักหมาล้วนๆ ตอนที่เห็นข่าวเรื่องการรับสุนัขบางแก้วก็รู้สึกชื่นใจแต่เมื่อมีการประกาศขายก็รู้สึกสนใจและจริงจังในแบบของคนรักสุนัข” นายจุติ กล่าว
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กฎหมายคือกฎหมาย แล้วตอนนี้หมาก็ยังไม่ได้รับสักตัว ยังอยู่ที่จ.พิษณุโลก แล้วสื่อจะเขียนอะไรกันทุกวัน เรื่องของหมาก็คือหมา ก็ว่าไป ตนแค่หวังดี เจตนาดีกับคนขาย เป็นการให้กำลังใจที่ให้เงินเกินไปก็เป็นการให้กำลังใจเขา ตนเป็นคนมีน้ำใจแบบนี้ ไม่ได้ตั้งใจ หรือเจตนาให้มันผิด หรือถูก ขอให้เข้าใจกันบ้าง พร้อมกับบอกว่า ที่บ้านก็เลี้ยงหมาอยู่แล้วสามตัว มีชื่อว่า“เสือ” “ไทเกอร์”และ“ไข่ตุ๋น” เป็นหมาพันธุ์ต่างประเทศสองตัว กับพันทาง 1 ตัว ส่วนพันธุ์บางแก้วที่ซื้อก็เพราะอยากจะส่งเสริมคนเลี้ยง เพราะการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์แท้ ต้องมีการลงทุนสูงมาก.