"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"
“บิทคอยน์” ถูกอุปโลกน์ ให้เป็น เงินตราสกลุใหม่ บนโลกดิจิตัล ที่เรียกกันว่า Cryptocurrency ซึ่งมีอยู่หลายร้อยสกุล ในชื่อต่างๆกัน เช่น อีเทอเรียม ไลท์ คอยน์ ฯลนฯ บิทคอย์ เป็นหนึ่งในนั้น แต่ที่รู้จักและนิยมซื้ออขายกันมากที่สุด
บิทคอยน์ ไม่มีลักษะทางกายภาพที่จับต้องได้ เหมือนธนบัต รหรือเหรียญกษาปน์ แต่เป็นข้อมูลอิเล้คดทรนิคส์ที่มีการเข้ารหัส หรือ เป็น “ ดิจิตัล “ นั่นเอง
แต่ความจรืงแล้ว บิทคอยน์ ไม่ใช่สกลุเงินแต่อนย่างใด เพราะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ค่าของบิทคอยน์ เปลีย่นแปลงผันผวนตลอดเวลา เมื่อต้นปีนี้ มีค่าไม่ถึง 1 พันเหรียยสหรัฐ ฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน ราคาเพิ่มขึ้ยไปเป็น 19,000 เหรียญ ในบางช่วง บางวัน ราคาปรับขึ้นลง หลายร้อยเปอร์เซ็นต์
จะใช้บิทคอยน์ชำระหนี้ได้อย่างไร ถ้าค่าของเงิน เปลี่ยนแปลงขึ้นลงเป็นจำนวนมากๆ อยู่ตลอดเวลา ที่มีข่าวว่า บางประเทศมีการรับรอง ให้ใช้บิทคอยน์ ชำระค่าสินค้า บริการได้ หรือ องคืกรธุรกิจ รับบิทคอยน์เด้วย เป็นเพียงเรื่องที่พูดกันไป แต่ไม่เคยมีหลักฐานว่า มีการรับชำระหนี้ด้วยบิทคอยนื อย่างเป็นเรื่องเป็นราวที่ไหนบ้าง
มีแต่คำเตืนอจาก รัฐบาล ธนาคารกลางประเทศต่างๆทั่วโลกว่า การลงทุนในบิทคอยน์ นั้น มีความเสี่ยงสูงมาก และบิทคอยน์ไม่ใช่สกุลเงิน
รัฐบาลจีน ห้ามซื้อขายบิทคอยน์ในประเทศ เพราะเห็นว่า มันคือการหลอกลวง
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายวีรไท สันติประภพ กล่าวว่า บิทคอยน์ ไม่ใช่สื่อกลางการชำระเงินตามกฎหมาย หากจะให้นิยาม น่าจะเป็นเพียงสินทรัพย์หนึ่งเพื่อการลงทุน โดยอาจะเรียกได่ว่า เป็น สินทรัพย์ดิจิตัล และขณะนี้ยังไม่มีธนาคารใดในโลกที่รัยรองสกุลเงินคริบโต เคอเรนซี เป็นสกุลเงินที่ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ตามกฎหมาย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฟันธงเยว่า การลงทุนในบิทคอยน์ คือการพนันชนิดหนึ่ง
สินทรัพย์เพื่อการลงทุน นั้น จะเป็นอะไรก็ได้ สุดแท้แต่มนุษย์จะสร้างขึ้นมา และชักชวนให้คนอื่นๆอาเงินมาลงทุนซื้อขายสินทรัพย์นั้น โดยหวังผลตอบแทนจากการลงทุน
หุ้น พันธบัตร กรมธรรม์ประกันชีวิต เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ในตลาดการเงิน เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน เรามี แชร์ แม่ชม้อย ชักชวนให้คนเอาเงินมาลงทุน ซื้อน้ำมันไปขาย ได้ผลตอบแทนจาการลงทุนงดงาม เดือนหนึ่งหลักหมื่ นภายในไม่กี่เดือนก็คุ้มทุน ที่เหลือคือ รายได้ที่อยู่เฉยๆก็งอกเงยขึ้นมาเองทุกวัน หรือเรียกให้ทันสมัยคือ เป็น passive income
น้ำมัน ก็เป็นสินทรัพย์แห่งการลงทุน ต่อจากยุคแชร์แม่ชม้อย การลงทุนแบบแชร์ลูกโซ่ ก้ยังคงมีอยู่มาจนถึงปัจจุบัน สินทรัพย์แห่งการลงทุน ก็มีหลายๆรูปแบบ เช่น อาหารเสริม เหล็กไหล สลากกินแบ่ง คอร์สสัมมนา โปรแกมทัวร์เกาหลี ฯญี่ปุ่น ฯลฯ ที่ขบวนการต้นคิด ชักชวนให้คนเอาเงินมาลงทุน โดยอวดอ้างว่า ได้ผลตอบแทนสุง ในเวลาอันรดวเร็ว
บิทคอยน์ ก็ไม่ต่างจากสินทรัพย์แห่งการลงทุนเหล่านี้ แต่เข้ากับยุคสมัย ที่โลกกลายเป็นโลกดิจิตัล และประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 คือเป็นสินทัพน์การลงทุนที่เป้นดิจิตัล หรือ เป็น แชร็แม่ชม้อย 4.0
บิทคอยน์เกิดขึ้นมาเกือบสิบปีแล้ว โดยบุคคลนิรนามในชื่อ Satoshi Nakamoto ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า เป็นใคร และมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ บิทคอย์ ถูกสร้างขึ้น โดยการ ประมวลผล สมการคณิตสาสตร์อันสลับซับซ้อนด้วย ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาโดยเฉพาะ ต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีสมรถนะสูง ทำงาน 24 ชั่วโมง ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ เพื่อไม่ให้เครื่องร้อน ซึ่งมีศัพท์เฉพาะเรียกกว่า การทำเหมือง หรือ การขุดบิทคอยน์
การขุดบิทคอยน์ ต้องลงทุนเป็นเงินหลายแสนบาท เป็นค่าเครื่อง ค่าซออฟต์แวร์ และค่าไฟ สิง่ที่ได้ที่ได้คือ ชุดข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ารหัส ที่ชื่อว่า บิทคอยน์ วิธีทำเงินจากบิทคอยน์คือ ขายบิทคอยน์ให้คนที่ต้องการลงทุน แต่ไม่ต้องการทำเหมืองขุดบิทคอย์เอง ขอซื้อจากคนที่มีบิทคอยน์อยู่ ต่อมา จึงเกิดธุรกิจ หรือ “ตลาด” ซื้อขายบิทคอยน์ขึ้น
จากเดิมตอนแรกๆราคา บิทคอยน์ ซึ่งมีหน่วยเป็น BTC มีค่าไม่กี่สิบเหรียญสหรัฐฯ บางช่วงก็ไมมีความเคลื่อนไหวอยู่เป็นเวลานาน ต้นนี้ บิทคอยน์ มีราคาไม่ถึง 1 พันเหรียญ แต่หลังจากนั้นราคาก็ขึ้นลง อย่างรวดเร็ วเพราะได้รับความสนใ จ มีคนเข้ามาลงทุนกันมาก เ พื่อเก็งกำไร จนราคาบิทคอยน์ ทะลุ 10,000 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือ สามแสนกว่าบาท เมื่อสิ้นเดือพฤศจิกายน พร้อมกับเรื่องเล่าปากต่อปากว่า คนนี้ คนนั้น รวยเป็นสิบๆล้าน จาก บิทคอยน์
ราคาที่ถูกปั่นขึ้นไปสูง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ การที่ตลาดซื้อขายตราสารล่วงหน้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา คือ CME และ CBOE ที่ชิคาโก เปิดการซื้อขายตราสารบิทคอยน์ ล่วงหน้า หรือ Bitcoin Futures การที่ CME และ CBOE กระโดดเข้ามาเป็นเจ้ามือ ในตลาดบิทคอยน์ด้วย ก็ยิง่ทำให้เกิดภาพลวงตาว่า บิทคอยน์ เป็นสินทรัพย์ที่น่าเชื่อถือ
ก่อนที่จะเกิดวิกฟ์ตซับไพร์มเมื่อ ปี 2008 ทั้งสองตลาดนิ้เปิดการซื้อขาย อนุพันธ์ ที่ผูกกับ สินเชื่อซับไพร์ม และอนุพันธ์ที่อิงกับสินเชื่อซับไพร๋มนี่เอง ที่เป็นปัจจัยหนึ่งทื่ทำให้เกิด วิกฤติซับไพร๋ม และทำให้ลุกลามออกไปอย่างกว้างขวาง การเปิดโต๊ะตรสารล่วงหน้า บิทคอยน์ เป็นการขยายตลาดนักลงทุนบิทคอยน์ให้มากขึ้น จากที่เคยมีแต่ตลาดซื้อขายบิทคอยน์ โดยตรง ก็มีเจ้ามือ เปิดโต๊ะ ให้แทงบิทคอยน์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้นอีก 2 โต๊ะ
สินทรัพย์เพื่อการลงทุนแบบเก็งกำไร ยิ่งมีผู้เล่นมากเท่าไร ก็ยิ่งปั่นราคาได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ราคาที่สูงขึ้น ก็จะยิ่งล่อใจให้นักเสี่ยงโชคเข้ามามากขึ้น และยิ่งเร่งเวลาที่ฟองสบู่จะแตกให้เร็วขึ้น
นีคือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับแชร์แม่ชม้อยในอดีต และกำลังจะเกิดขึ้นกับ การลงทุนในบิทคอยน์
**************************************