xs
xsm
sm
md
lg

ชง3มาตการอุ้มยาง จัดแพกเกจแก้จนเป็นของขวัญปีใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360-กระทรวงเกษตรฯ ชง ครม. วันนี้ เสนอ 3 มาตรการเข้าแทรกแซงยางพารา เพื่อผลักดันราคาให้สูงขึ้นและช่วยเหลือชาวสวนยางอย่างเร่งด่วน พร้อมรับลูก "สมคิด" ร่วมมือ 4 หน่วยงานทำแพกเกจแก้จนให้ 4 ล้านครัวเรือน ก่อนนำเสนอครม.ภายใน 2 สัปดาห์เป็นของขวัญปีใหม่ ด้านตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยางบุรีรัมย์สุดทน เรียกร้อง "บิ๊กตู่" ช่วยเหลือด่วน หลังราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี เผยยางก้อนถ้วยเหลือแค่กิโลละ 12 บาท บางแผ่นดิบ 36 บาท ย้ำหากไม่ได้รับคำตอบ เตรียมขนคนบุกถึงทำเนียบฯ แน่

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้ (12ธ.ค.) กระทรวงฯ จะเสนอมาตรการผลักดันราคายางพารา 3 มาตรการให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อผลักดันให้ราคายางพาราขยับขึ้นและเป็นการช่วยเหลือชาวสวนยางให้เร็วที่สุด

ส่วนแพกเกจแก้จน ช่วยลดหนี้สินเกษตรกรยากจน 3.96 ล้านครัว ขณะนี้ นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรฯ กำลังร่างแผนแก้หนี้ ฟื้นฟูอาชีพรายบุคคล ร่วมกับ 4 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีสั่งการให้นำเสนอเข้า ครม. ภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อประกาศเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกร

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า 3 มาตรการที่จะขออนุมัติจาก ครม. ได้แก่ มาตรการแรก ให้บริษัทร่วมทุนยาง เข้าไปซื้อยางพาราในราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต หรือระหว่าง 50-60 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และให้ภาคอุตสาหกรรม ผู้ส่งออก เข้าช่วยรับซ์อด้วย มาตรการที่ 2 เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศจาก 3.3 หมื่นตันเป็ฯ 5-8 หมื่นตัน และมาตรการที่ 3 หาก 2 มาตรการแรกไม่ได้ผล ก็จะให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดจุดรับซื้อ
วันเดียวกันนี้ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 4 หมื่นไร่ ได้ร่วมกันออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือ โดยการเร่งหาแนวทางกระตุ้นราคายางพาราให้สูงขึ้นอยู่ที่จุดคุ้มทุน พร้อมให้พิจารณาจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือไร่ละ 1,500 บาท ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ หลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนักจากภาวะราคายางพาราที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่า 20 ปี โดยปัจจุบันราคายางก้อนถ้วยอยู่ที่ กก. ละ 12-13 บาท ส่วนยางแผ่นดิบเหลือเพียง กก.ละ 36 บาทเท่านั้น

โดยตัวแทนเกษตรกรเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางกระตุ้นราคายางก้อนถ้วยไม่ให้ต่ำกว่า กก.ละ 30 บาท ยางแผ่นดิบไม่ควรต่ำกว่า กก. ละ 60 บาท จึงจะสามารถอยู่รอดได้ เพราะเกษตรกรต้องแบกรับภาระทั้งค่าจ้างกรีด และลงทุนซื้อปุ๋ยบำรุงต้นยาง ซึ่งที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือผ่านจังหวัด หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ไปยังกระทรวงเกษตรฯ และรัฐบาลถึง 4 ครั้งแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือน จะถึงกำหนดปิดหน้ายางแล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบจากรัฐบาลว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอย่างใด

พร้อมกัน ได้ระบุต่อว่า หากการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องในครั้งนี้ ยังไม่ได้รับคำตอบถึงแนวทางการช่วยเหลือที่ชัดเจน ภายในสิ้นเดือนธ.ค. ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยางในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จะเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

นางสุพิศ คำเรือง อายุ 66 ปี เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ กล่าวว่า ปลูกยางทั้งหมด 13 ไร่ ปีนี้ประสบปัญหาเดือดร้อนหนักจากราคายางที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ทำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะจะต้องจ่ายค่าจ้างกรีด และค่าปุ๋ยบำรุงต้นยาง หากราคายางยังตกต่ำอยู่อย่างนี้ ก็จะไม่มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส. จึงอยากร้องขอให้นายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร ก่อนจะถึงกำหนดปิดหน้ายาง

นายสวาท จำปาสาสว่างวงษ์ ตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยยื่นหนังสือผ่านจังหวัด และหน่วยงานต่างๆ ถึงรัฐบาลไปแล้วถึง 4 ครั้ง เพื่อให้ช่วยเหลือเรื่องราคายาง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบหรือชี้แจงจากหน่วยงานใดถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ปลูกยางที่ชัดเจนเลย อีกทั้งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอีก 3 เดือนถึงค่อยคุยเรื่องการแก้ไขปัญหาราคายาง ทำให้ไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะเหลืออีกเพียง 2 เดือนจะปิดหน้ายางแล้ว หากไปแก้ปัญหาหลัง 3 เดือนยางตกอยู่ในมือของผู้ประกอบการไปแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือเกษตรกร โดยการพยุงราคายางให้สูงขึ้น และจ่ายชดเชยไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่โดยเร่งด่วนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น