เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (4ธ.ค.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบบกลาง ศาลได้เบิกตัว อดีตพระครูกิตติพัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ ขันทอง อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดแค และตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีฟอกเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือคดีเงินทอนวัด มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำสั่ง ศาลอุทธรณ์ ที่ อดีตพระครูกิตติพัชรคุณ ได้ยื่นอุทธรณ์ ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการฝากขังครั้งแรก
ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยอ้างว่าผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับสำนวนมูลฐานความผิด คดีทุจริตเงินทอนวัดอีก 12 คดี จึงเกรงว่าจะหลบหนี และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งผู้ต้องหา ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด มีจำนวนมาก ดังนั้นหากให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เป็น อุปสรรคต่อการสอบสวนของพนักงานสอบสวน คำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์ จึงให้ยกคำร้องของผู้ต้องหา
ทั้งนี้ ภายหลังศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งยกคำอุทธรณ์การประกันตัวแล้ว ทำให้ผู้ต้องหา ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำต่อไป ตามระยะการฝากขัง ซึ่งการฝากขังคดีฟอกเงินนี้ สามารถยื่นฝากขังได้ 7 ผัด ผัดละ 12 วัน รวมเวลาทั้งสิ้น 84 วัน ซึ่งระหว่างนี้ ผู้ต้องหา สามารถยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวได้ใหม่ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง โดยคดีนี้ พนักงานสอบสวนปปป. ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 - 12 ธ.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม และตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาด้วย
ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยอ้างว่าผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับสำนวนมูลฐานความผิด คดีทุจริตเงินทอนวัดอีก 12 คดี จึงเกรงว่าจะหลบหนี และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งผู้ต้องหา ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด มีจำนวนมาก ดังนั้นหากให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เป็น อุปสรรคต่อการสอบสวนของพนักงานสอบสวน คำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์ จึงให้ยกคำร้องของผู้ต้องหา
ทั้งนี้ ภายหลังศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งยกคำอุทธรณ์การประกันตัวแล้ว ทำให้ผู้ต้องหา ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำต่อไป ตามระยะการฝากขัง ซึ่งการฝากขังคดีฟอกเงินนี้ สามารถยื่นฝากขังได้ 7 ผัด ผัดละ 12 วัน รวมเวลาทั้งสิ้น 84 วัน ซึ่งระหว่างนี้ ผู้ต้องหา สามารถยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวได้ใหม่ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง โดยคดีนี้ พนักงานสอบสวนปปป. ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 - 12 ธ.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม และตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาด้วย