“สุวิระ” ชี้หลักฐานชัด “ครูจอมทรัพย์” รู้เห็นปั้นพยานเท็จ อาจผิดหลอกลวง แนะปชช.แจ้งจับ ตร.นำตัว “สับ วาปี” ทำแผนประกอบคำรับสารภาพรับเงิน 1.7 แสนบาทจาก “ครูอ๋อง”วางต่อศาลนครพนมเป็นค่าเยียวยาให้ญาตินายเหลือที่ถูกรถชนตาย “ครูจอมทรัพย์” ยังกบดาน
วานนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางสอบปากคำและร่วมแถลงข่าวกรณี นายสับ วาปี หนึ่งในขบวนการรับผิดแทนกันในคดี ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หลังได้เข้ามอบตัวและสารภาพว่า นายสุริยา นวนเจริญ หรือ "ครูอ๋อง" จ้าง 400,000 บาท ให้รับผิดแทนเพื่อรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ขณะนี้แน่ชัดแล้วว่ามีขบวนการว่าจ้างให้รับผิดแทนครูจอมทรัพย์จริง และนายสับ วาปี ได้รับสารภาพกับพนักงานสอบสวนถึงขั้นตอนรับเงินและรับว่าจ้างอย่างละเอียด จึงเตรียมรวบรวมข้อมูลเป็นหลักฐานสำคัญที่จะเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมสั่งให้เร่งหาพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อเอาผิด ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
"ขณะเดียวกันมีประชาชนจำนวนมากโอนเงินเข้ามาช่วยครูจอมทรัพย์จำนวนกว่า 3 ล้านบาท หากบุคคลเหล่านั้นต้องการเงินคืน สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทุก สภ.ทั่วประเทศ ในข้อหาหลอกลวงประชาชน ด้วยการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ" รอง ผบ.ตร.ระบุ
ต่อจากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง นำตัว นายสับ วาปี นำชี้จุดที่จุดเกิดเหตุ ระบุว่าเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.57 ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดนครพนม เพื่อนำเงินมาจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้กับญาติผู้ตายในคดีรถชนตายคือ นายเหลือ พ่อบำรุง อายุ 75 ปี หลังศาลจังหวัดนครพนม มีคำพิพากษาให้จ่ายเงินชดเชย 1.7 แสนบาท ซึ่งได้มี นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนครูจอมทรัพย์ เป็นคนไปรับมาที่ศาลจังหวัดนครพนม
จากนั้นได้ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของศาลจังหวัดนครพนม ก่อนที่นายสุริยา ที่นั่งอยู่บริเวณเบาะด้านหลังจะยื่นเงินให้ 1.7 แสนบาทซึ่งมี นางจัน วาปี ภรรยา รวมถึงนายเลิศ วาปี น้องชายนั่งมาในรถด้วย ส่วนคนขับรถตนไม่ทราบชื่อ จากนั้นจึงได้นำเงินไปมอบให้กับญาติผู้ตายภายในศาลในฐานะผู้ที่ขับรถชนจนเสียชีวิต ตามข้อตกลงที่ว่าจ้าง ในครั้งนี้นายสับ ได้มีโอกาสพบกับครูจอมทรัพย์ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ แต่ทางศาลได้เบิกตัวมารับทราบในกระบวนการเยียวยาจ่ายเงินแก่ผู้เสียหาย แต่ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ใช้เวลาทำแผนประมาณ 20 นาที ก็นำตัวนายสับกลับไปยัง บก.ภ.จว.นครพนม เพื่อรอส่งตัวฟ้องศาลต่อไป
เวลา 12.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายเลิศวาปีน้องชายนายสับ วาปีนางจันทร์วาปี ภรรยานายสับ วาปี และนายบุญเทิง วาปี ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม ตามหมายเรียกของตำรวจภูธรนครพนมในข้อหาให้การเท็จ โดยทั้งหมดอ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับนายสับ และไม่รู้จักนายสุริยามาก่อน
ทางด้านความเคลื่อนไหวของครูจอมทรัพย์นั้น หลังจากมีการดำเนินกับผู้ใกล้ชิดในข้อหาแข้งความเท็จจริงรับจ้างรับผิดแทน ปรากฏว่าได้ปิดโทรศัพท์หนีไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น.
วานนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางสอบปากคำและร่วมแถลงข่าวกรณี นายสับ วาปี หนึ่งในขบวนการรับผิดแทนกันในคดี ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หลังได้เข้ามอบตัวและสารภาพว่า นายสุริยา นวนเจริญ หรือ "ครูอ๋อง" จ้าง 400,000 บาท ให้รับผิดแทนเพื่อรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ขณะนี้แน่ชัดแล้วว่ามีขบวนการว่าจ้างให้รับผิดแทนครูจอมทรัพย์จริง และนายสับ วาปี ได้รับสารภาพกับพนักงานสอบสวนถึงขั้นตอนรับเงินและรับว่าจ้างอย่างละเอียด จึงเตรียมรวบรวมข้อมูลเป็นหลักฐานสำคัญที่จะเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมสั่งให้เร่งหาพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อเอาผิด ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
"ขณะเดียวกันมีประชาชนจำนวนมากโอนเงินเข้ามาช่วยครูจอมทรัพย์จำนวนกว่า 3 ล้านบาท หากบุคคลเหล่านั้นต้องการเงินคืน สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทุก สภ.ทั่วประเทศ ในข้อหาหลอกลวงประชาชน ด้วยการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ" รอง ผบ.ตร.ระบุ
ต่อจากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง นำตัว นายสับ วาปี นำชี้จุดที่จุดเกิดเหตุ ระบุว่าเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.57 ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดนครพนม เพื่อนำเงินมาจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้กับญาติผู้ตายในคดีรถชนตายคือ นายเหลือ พ่อบำรุง อายุ 75 ปี หลังศาลจังหวัดนครพนม มีคำพิพากษาให้จ่ายเงินชดเชย 1.7 แสนบาท ซึ่งได้มี นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนครูจอมทรัพย์ เป็นคนไปรับมาที่ศาลจังหวัดนครพนม
จากนั้นได้ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของศาลจังหวัดนครพนม ก่อนที่นายสุริยา ที่นั่งอยู่บริเวณเบาะด้านหลังจะยื่นเงินให้ 1.7 แสนบาทซึ่งมี นางจัน วาปี ภรรยา รวมถึงนายเลิศ วาปี น้องชายนั่งมาในรถด้วย ส่วนคนขับรถตนไม่ทราบชื่อ จากนั้นจึงได้นำเงินไปมอบให้กับญาติผู้ตายภายในศาลในฐานะผู้ที่ขับรถชนจนเสียชีวิต ตามข้อตกลงที่ว่าจ้าง ในครั้งนี้นายสับ ได้มีโอกาสพบกับครูจอมทรัพย์ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ แต่ทางศาลได้เบิกตัวมารับทราบในกระบวนการเยียวยาจ่ายเงินแก่ผู้เสียหาย แต่ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ใช้เวลาทำแผนประมาณ 20 นาที ก็นำตัวนายสับกลับไปยัง บก.ภ.จว.นครพนม เพื่อรอส่งตัวฟ้องศาลต่อไป
เวลา 12.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายเลิศวาปีน้องชายนายสับ วาปีนางจันทร์วาปี ภรรยานายสับ วาปี และนายบุญเทิง วาปี ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม ตามหมายเรียกของตำรวจภูธรนครพนมในข้อหาให้การเท็จ โดยทั้งหมดอ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับนายสับ และไม่รู้จักนายสุริยามาก่อน
ทางด้านความเคลื่อนไหวของครูจอมทรัพย์นั้น หลังจากมีการดำเนินกับผู้ใกล้ชิดในข้อหาแข้งความเท็จจริงรับจ้างรับผิดแทน ปรากฏว่าได้ปิดโทรศัพท์หนีไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น.