xs
xsm
sm
md
lg

‘ป้อม’โยนรพ.ตอบ-แจงไม่เคลียร์อวัยวะ “นตท.เมย”หาย เปิดแชตไลน์สุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360 - นายกฯ รับเสียใจนักเรียนเตรียมทหารตาย ระบุเด็กป่วยบ่อย ยันถ้าตายผิดธรรมชาติต้องลงโทษ ด้าน ผบ.รร.ตท.เสียใจมาก ย้ำไม่มีใครทำร้าย มีภาพวงจรปิด ไม่พบตายเพราะถูกซ่อม ผบ.กองการแพทย์ รับพบซี่โครงหัก อกช้ำ เกิดจากของแข็งกระแทก แต่มีปั้มหัวใจถึง 4 ชั่วโมง อาจคลาดเคลื่อนของมือได้ เผยเก็บสมองไว้ บอกพนักงานสอบสวนเพิ่งโทรมานัดคืนอวัยวะ "บิ๊กป้อม" ยัน”น้องเมย”ไม่ได้ถูกทำโทษจนเสียชีวิต ด้านครอบครัว “น้องเมย” ยัน กองทัพแจงไม่เคลียร์ เหตุนำอวัยวะออกจากร่างไม่บอกก่อน พร้อมเปิด แชตไลน์ก่อนตาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ เมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิต และญาติระบุด้วยว่าอวัยวะภายในหายว่า ทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนต.ค.แล้ว จากรายงานพบว่าเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน แต่มีปัญหาที่ผู้ปกครอง โดยรายละเอียดต้องไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ ได้มีการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยนำปอดและหัวใจไปตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผู้ปกครองได้ให้แพทย์อีกคณะมาชันสูตร ปรากฎว่าไม่พบปอดและหัวใจ เรื่องนี้ก็ต้องมาคุยกันเอาตรวจกันอีกครั้ง เท่าที่ทราบเขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ตนก็เสียใจ แต่ตนก็สงสัย เพราะทุกคนที่ไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหารต้องแข็งแรง ตนก็ยังไม่รู้ในรายละเอียด แต่ทราบว่าเด็กคนนี้ป่วยบ่อย ก็ต้องไปดูประวัติการรักษาด้วย แต่ถ้าตายผิดธรรมชาติก็ต้องลงโทษ

ขณะที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.ท.ณตฐพล บุญงาม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย พล.ต.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร พ.ท.นรุฏฐ์ ทองสอน นายแพทย์กองพยาธิ ศูนย์อำนวยการโรงบาลพระมงกุฎเกล้า พ.อ.การุณย์ สุริยวงศ์พงศา ผู้อำนวยการกองการแพทย์โรงเรียนเตรียมทหาร ร่วมแถลงข่าว ชี้แจงการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ โดยพล.ท.ณตฐพล กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายภคพงศ์ เป็นอย่างยิ่ง และการแถลงข่าวในวันนี้ไม่ใช่การตอบโต้กระแสข่าวต่างๆที่เกิดขึ้น เป็นเพียงการชี้แจงให้ผู้เกี่ยวข้องและสังคมได้เข้าใจ ถึงข้อเท็จจริง

พล.ต.กนกพงษ์ กล่าว ในวันที่ 17 ตุลาคม ที่น้องเมย เสียชีวิตตนได้ติดตาม สาเหตุการเสียชีวิตจากมารดาของน้องเมย และ แพทย์ ว่าน้องเมยล้มลง และมีอาการหัวใจเต้นอ่อน จึงได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อพยายามช่วยชีวิต และได้คุยกับทางครอบครัว น้อเมย ว่า เป็นการตายที่ผิดทางธรรมชาติ ควรส่งไปชันสูตรพลิกศพ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ทางครอบครัวก็รับศพเพื่อไปทำพิธีทางศาสนา ซึ่งในช่วงนั้นผมได้พูดคุยกับทางคุณพ่อของน้องเมย มาโดยตลอดแต่สิ่งที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นตนได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนกรณีที่มีนักเรียนเสียชีวิต ถึงสาเหตุว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องในวันที่ 17 ต.ค.หรือไม่ และตนได้ระบุในผลการสอบสวนว่า ยังไม่พบว่ามีใครไปทำร้ายน้องเมย และได้รายงานผลสอบสวน ให้ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้รับทราบ

" ยืนยันว่าได้มีการสอบสวนเรื่องทั้งหมดของ เหตุการณ์วันที่ 17 ต.ค.

จากกล้องวงจรปิดพบว่าน้องเมย จะอยู่ที่กองแพทย์เป็นหลัก ซึ่งในช่วงเช้ามีการออกไปแต่งเครื่องแบบ แต่ก็ไม่ได้ไปเรียนทางทหารและได้กลับมาที่กองแพทย์และตอนเที่ยงได้มีการพูดคุยกับเพื่อนๆ และมีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับคุณแม่ ประมาณ 10 นาที และมีผลการชันสูตรทางการแพทย์ ว่าน้องเมย หัวใจล้มเหลว"

ด้าน พ.ท.นพ.นรุฏฐ์ กล่าวว่า ได้รับร่างน้องเมยผ่าการพิสูจน์ โดยภายนอกไม่พบร่องรอยบาดแผลประทุษกรรมทางร่างกาย และภายในพบว่ามีกระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 บริเวณด้านขวาหัก มีรอยช้ำบริเวณอกทางด้านขวาและซ้าย แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ว่ารอยช้ำหรือกระดูกซี่โครงหักจะทำให้เสียชีวิตได้ จึงต้องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ดังนั้นจำเป็นต้องเก็บอวัยวะบางส่วน ตัดออกไปประมาณหัวแม่มือ หรือแล้วแต่สไตล์การเก็บตัวอย่างของแพทย์ ทั้งนี้การเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ แพทย์จะเน้นตรวจสอบที่สมองและหัวใจเป็นหลัก จึงได้เก็บสมองไว้ทั้งหมด และฉีดฟอร์มาลีน ทำการตรวจสอบต่อไป

“สาเหตุของหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันของน้องเมย หากดูจากกายภาพและนำมาชั่งน้ำหนักวัดขนาดของหัวใจแล้วค่อนข้างจะเป็นคนที่มีลักษณะปกติดี แต่จากการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์แล้ว พบว่าเซลล์บางตัวคนปกติอายุ 19 ปีไม่ควรจะพบ อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้ประสานกับทางพี่สาวของน้องเมย ไว้ว่าได้ทำการเก็บเอาอวัยวะแล้วพร้อมคืน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนและแนะนำให้ประสานกับทางพนักงานสอบสวนเพื่อขอรับคืนโดยทางแพทย์ก็พร้อมที่จะคืนให้ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีพนักงานสอบสวนติดต่อมาที่แพทย์จนกระทั่งเวลา 12.00 น. ของวันนี้ (21 พ.ย.) พนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์มาหาแพทย์ เพื่อนัดวันติดต่อรับอวัยวะคืน ทางแพทย์ยืนยันว่าเราทำตามกฏหมาย" พ.ท.นรุฏฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า รอยช้ำที่บริเวณหน้าอกเกิดจากสาเหตุใด พ.ท.นรุฏฐ์ กล่าวว่า คาดว่าจะเกิดจากของแข็งที่ไม่มีคมมากระแทกโดยอาจเกิดจากสาเหตุใดก็ได้แต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นปั๊มหัวใจ เพราะทราบว่าได้ผ่านการปั๊มหัวใจมาประมาณ 4 ชั่วโมง อาจจะทำให้เกิดการคาดเคลื่อนของมือก็เป็นได้ และยอมรับว่า เคยช่วยเหลือ น้องเมย จนฟื้นจากการถูกซ่อม จนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา

***"บิ๊กป้อม" ยัน”น้องเมย”ไม่ได้ถูกทำโทษจนเสียชีวิต

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า จากการตรวจของแพทย์ ที่ได้ตรวจหัวใจ และปอด พบว่าเป็นการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ส่วนกรณีที่ พ่อ แม่ ของนักเรียนเตรียมทหารคนดังกล่าว ร้องเรียนว่า อวัยวะภายในหายไปนั้น ไม่ได้มีสมองหาย แพทย์แค่เอาอวัยวะออกไปตรวจเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องสอบถามทางโรงพยาบาล ที่ขณะนี้มีการตรวจสอบอยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ่อของนักเรียนเตรียมทหารคนดังกล่าว ร้องเรียนว่า อาจเสียชีวิตเนื่องจากถูกทำโทษอย่างรุนแรง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี และไม่ใช่เรื่องของการทำโทษแน่ๆ เพราะผบ.ทสส. ได้ยืนยันกับตนแล้วว่า ไม่ใช่เพราะสาเหตุดังกล่าว

ด้านนางสาวสุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาว “น้องเมย” เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อ้างว่า นักเรียนเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวและร่างกายอ่อนแอจนต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยนั้น ไม่เป็นความจริง ยืนยันแค่สาเหตุเจ็บป่วยเล็กน้อย พร้อมนำเอกสารการเจ็บป่วยจากกองการแพทย์โรงเรียนเตรียมทหาร ยืนยัน

สำหรับกรณีที่ ระบุว่าอวัยวะในสมองที่หายไป เป็นเพราะแพทย์นำไปชันสูจน์นั้น แสดงว่าทางโรงเรียนเตรียมทหารยอมรับว่ามีการนำอวัยวะออกไปจริงโดยไม่แจ้งกับครอบครัว และขณะนี้ทางครอบครัว อยู่ในระหว่างการตามเอกสาร เพื่อยืนยันว่า มีการสูญหายและมีการจัดทำเอกสาร ขอคืนอวัยวะจากสถาบันที่ถูกนำร่างไปผ่าในครั้งแรกเพื่อยืนยันว่ามีการสูญหายจริง

“เรื่องที่ทางครอบครัวติดใจ รวมทั้งการผ่าพิสูจน์ศพ ที่ได้นำอวัยวะ หลายส่วนออกไปนั้นก็ไม่ได้มีการชี้แจงให้กระจ่างและคลายข้อสงสัยของครอบครัวแต่อย่างใด”

สำหรับกรณีที่ทาง รร.บอกว่าทางครอบครัวเพิ่งแจ้งขอคืนอวัยวะในช่วงบ่ายวันนี้ก็ไม่เป็นความจริง เพราะเราติดต่อขอคืนมาตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.และในวันนี้เราพร้อมจะนำคลิปเสียงเรื่องการให้ทาง. รร.ช่วยประสานงาน ที่ได้พูดคุยกับ ผบ.รร.,รอง ผบ., และ ผอ.กองการแพทย์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.มาเผยแพร่ เพื่อยืนยันว่า. เราพยายามที่จะขอคืนอวัยวะมานานแล้ว นอกจากนั้นในวันนี้เรายังได้แชตไลน์ จากเพื่อนน้องเมย ที่ส่งมาให้ เพื่อบอกให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องก่อนเสียชีวิตด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น