xs
xsm
sm
md
lg

'บิ๊กตู่'แย้มผล4คำถาม-ประชาชนยืนข้างคสช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360- "บิ๊กตู่" ชี้อนาคตการเมือง ขึ้นอยู่กับประชาชน ไม่มีใครกำหนดได้ ขอไม่พูดปรับครม. บอกใครจะเป็นก็ได้ แต่ต้องทำตามกรอบยุทธศาสตร์ พร้อมแจง 6 คำถามใช้ต่อยอดคำถามล็อตแรก เผยไม่อยากอวดผล 4 คำถาม เกรงถูกมองคำตอบเข้าข้าง“นายกฯ” "บิ๊กป้อม" ลั่นไม่เคยรับผลประโยชน์ หากใครรู้ว่า คนใกล้ตัวรับผลประโยชน์ ขอให้บอกมา จะเล่นงานให้หนัก "บิ๊กฉัตร" เมินข่าวปรับครม. ขอลุยงานเต็มที่ เร่งแก้ปัญหาประมงไทย เชื่อว่าจะมีข่าวดี มี.ค.ปีหน้า

วานนี้ (21พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึง อนาคตทางการเมืองของตนเองว่า ใครก็กำหนดตนไม่ได้ ประชาชนเป็นคนกำหนด ขอให้จำไว้ กับเรื่องของกฎหมาย ตนก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงไหนเหมือนกัน อยู่ที่ประชาชนทั้งหมด

ส่วนเรื่องการปรับย้าย รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นั้น ยังไม่มีความชัดเจนอะไรทั้งสิ้น ตนไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ ใครจะเป็นก็ได้ เพราะทุกคนต้องทำตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งแนวทางที่รัฐบาลทำทุกวันนี้ คือ ต้องดูแลคนทั้งประเทศ 70 ล้านคน ทุกกลุ่มกิจกรรม ทุกระดับผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะใหญ่ กลาง เล็ก การที่รัฐบาลออกกฎหมายมาให้กับธุรกิจใหญ่ๆ ไม่ใช่การเอื้อผลประโยชน์ แต่เป็นการอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจได้มากขึ้น สามารถจ้างคนได้มากขึ้น มีการแบ่งสัดส่วนผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม ซึ่งทุกรัฐบาลควรคิดเช่นนี้ แต่ถ้าทุกคนไปเปรียบเทียบกับการมีรัฐมนตรีที่มาจากการเมือง ก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง แต่อย่าลืมว่า วันนี้เราไม่ได้มาจากการเมือง แม้บางคนอาจจะเกี่ยวข้องบ้าง แต่เราก็ต้องแก้ปัญหาทุกอย่างให้ได้

"ไม่ใช่ว่ากระทรวงนี้ เป็นของพรรคใคร แล้วเขาจะทำอะไรก็ได้ เสนอขึ้นมาเข้าสู่การพิจารณาของครม. จากนั้น ครม.ก็จะให้กับคนนั้น คนนี้ แต่สำหรับผมแล้วไม่มีเรื่องการเมือง ฉะนั้นไม่ว่าใครจะเสนออะไรเข้ามา ก็เป็นเรื่องของผม ที่จะเอาเข้าที่ประชุม ครม.หรือไม่ ถ้าดูแล้วรับได้ หรือไม่ได้ ทางเลขาฯครม.เขาก็จะช่วยตรวจทาน ซึ่งมีคณะกรรมการอีกหลายคน ทุกเรื่องที่เข้า ครม. ไม่ใช่อยู่ดีๆ ใครทำขึ้นมาแล้วผมจะเซ็นอนุมัติ มันไม่ใช่ และไม่ได้ง่ายขนาดนั้น จะต้องสอดคล้องกับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ การเดินหน้าปฏิรูปประเทศตามขั้นตอน และระยะเวลา สิ่งที่ต้องทำวันนี้คือ ต้องตีกรอบ และทำกฎหมายให้ได้ ผมคาดหวังกับรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น ครม. ชุดใด ประยุทธ์ 1-4 ตนเน้นการเปลี่ยนแปลง

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี 4 คำถาม และ 6 คำถาม ที่ได้ถามประชาชนไปว่า การรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำมาใช้ในการบริหาราชการแผ่นดิน และไม่อยากให้มีผลกระทบกับคนอื่น เพราะมีหลายประเด็น เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ามาสนับสนุนของตนอย่างเดียว จริงๆแล้วข้าราชการไม่ใช่คนที่เราจะไปบังคับได้ ซึ่งการตอบคำถาม ประชาชนนำบัตรประชาชนมาเอง หลายคนอาจมองว่า การให้ใช้บัตรประชาชน ประชาชนจะไม่กล้าพูดความจริง ถามว่า ถ้าไม่กล้าแล้วเขาจะมาตอบหรือไม่ เป็นเรื่องของความสมัครใจ ขอให้ความเป็นธรรมกับตนหน่อย

ส่วน 4 คำถามแรกมีคนมาตอบประมาณล้านกว่าคน และวันนี้เราก็ให้เขามาตอบได้อีกร่วมกับ 6 คำถาม ซึ่งจะตอบกี่ครั้งก็ได้ แต่บันทึกให้ชัดเจนเป็นคนเก่าคนใหม่อย่างไร ตนได้สั่งทางกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว เพื่อให้แยกอาชีพให้ชัดเจน จะได้จัดหมวดหมู่ไปด้วย แตกต่างจากการทำโพล เพราะทำโพล บางทีเป็นการสุ่มตัวอย่าง บางทีไปถามคนที่ไม่เกี่ยวข้อง เขาก็ตอบไม่ได้ เป็นการตั้งคำถามใช่ ไม่ใช่ ชอบ ไม่ชอบ ถูก ไม่ถูก อาจมีปัญหาในเชิงข้อเท็จจริง หากคิดให้หลักการเชิงวิชาการทำโพล มันใช่ แต่ตนไม่ได้ว่าใครผิด ใครถูก

ทั้งนี้ 4 คำถามแรก มีประเด็นที่ตอบมาว่า อยากให้ปฏิรูปประเทศ ตรงนี้ตนจะพูดได้หรือไม่ จะปฏิรูปก่อน หรือหลังเลือกตั้ง แต่ตนก็ไม่อยากพูด เดี๋ยวจะหาว่ามาเข้าข้าง หรือไม่เข้าข้าง ซึ่งมีทั้งการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เลือกตั้งก่อนปฏิรูป และเลือกตั้งพร้อมปฏิรูป ขอให้รู้แค่นั้นแล้วกัน ส่วนคำถามอื่นๆ ประชาชนก็เห็นด้วยบ้าง ไม่เห็นด้วยบ้าง โดยเฉพาะที่ถามว่า จะมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลได้หรือไม่ สรุปแล้วคำตอบดูเหมือนไม่แน่ใจมากกว่าที่จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล แต่ตรงนั้นคือสิ่งที่ตนต้องนำมาขับเคลื่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำตามนั้น ตนต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นการเลือกตั้งครั้งต่อไป ที่จะต้องได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ดังนั้น 6 คำถาม เป็นคำถามที่ต่อเนื่องจาก 4 ข้อแรก ถ้าเขาไม่มั่นใจ ก็ต้องมาตอบตรงนี้ ว่าจะทำอย่างไร จะมีพรรคการเมืองอย่างไรนโยบายควรเป็นอย่างไร ตนคิดและร้อยเรียงมาอย่างนี้ เพื่อทำความเข้าใจประชาชนในคำถามชุดแรก เมื่อไม่เข้าใจตนก็อธิบายเพิ่ม หากอยากให้ทำอะไรใหม่ ตนก็จะใส่เข้าไปในการบริหารราชการแผ่นดิน นั่นคือหลักการ คำถามของตน ซึ่งไม่มีในตำรา

นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องผลของ 4 คำถาม ออกมานานแล้ว เจ้าหน้าที่รายงานมาตลอด ตนบอกแล้วว่า ถ้าพูดออกไป ก็จะเป็นกระแสกลับมาที่ตนอีก ทุกคนก็จะมารุมหาว่าคำตอบเข้าข้างตน ถ้าตนบอกว่า เขาเห็นด้วยทุกอย่าง ให้ตนอยู่ต่อเอาหรือไม่ หรือจะให้ตนเผยแพร่ผลของ 4 คำถามเหมือนคนที่ไปทำโพลด่าตน แล้วเอามาแพร่กระจาย

"อะไรดี ผมยังไม่เอามาพูด ไม่เอามาโม้เลย จะโม้ทำไม ชาวบ้านทั้งนั้น ประชาขนทั้งนั้น หลายคนบอกว่า แฟนคลับผมมีแต่อายุ 50 ขึ้น แต่คนเหล่านี้ก็เป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงประเทศกันทั้งนั้น ที่ผ่านมาเขาก็เป็นคนมาเลือกตั้ง ไม่ใช่หรือ วันนี้ต้องทำให้คนรุ่นเด็กเข้าใจ การที่น้องซีจี พูดว่าให้เป็นนายกฯไปนานๆ ผมมองว่าเขาคือเด็ก จะพูดอะไรก็พูดได้ ใครสอนมาก็ไม่รู้" นายกฯ กล่าว

** "บิ๊กป้อม"ยันคนใกล้ชิดไม่มีผลประโยชน์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการปรับครม. ว่า ไม่ขอพูดถึงเรื่องดังกล่าว รอให้มีประกาศการปรับครม.ออกมา ทุกอย่างก็จบ เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาชื่นชมว่า เป็นคนดี หากไม่ดีจริง คงไม่คบกันมาถึง 40 ปี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ที่นายกฯ มาพูดกับสื่อ สื่อก็ต้องไปถามนายกฯ ตนไม่ได้ปลื้มใจอะไร ถ้าจะปลื้ม ก็ปลื้มสื่อ ส่วนจะได้อยู่ต่อหรือไม่ นั้น ไม่สำคัญ แต่สำคัญที่สุขภาพตนว่าจะรับได้หรือไม่ เพราะเรื่องงาน ตนไม่เกี่ยง ยืนยันตนไม่มีเรื่องผลประโยชน์อะไร ตามที่สื่อพูด ใครก็ตามที่อยู่ใกล้ชิดตนแล้วมีเรื่องทุจริต หากสื่อรู้ ขอให้บอกมา ตนจะลงโทษอย่างหนัก ใครที่ตนดูแล แล้วทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ขอให้บอกมาว่าเป็นใคร ทำอะไร ที่ไหน ไม่ถูกอย่างไร ไม่ใช่ไปเขียนเองว่า คนใกล้ชิดไปทำอะไร ตนดูหมด ในเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ไม่มีคนใกล้ชิดตนไปเรียกรับผลประโยชน์ บาทเดียวก็ไม่มี

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ผู้แทนสหภาพยุโรป เดินทางมาตรวจการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ตัวแทนไอยูยู ระดับเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยเน้นการตรวจสอบย้อนกลับเป็นหลัก ซึ่งเรายังไม่เคยทำร่วมกันเลย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งผลการตรวจสอบโดยภาพรวม ทางไอยูยู เห็นว่าจากเดิมที่เราไม่มีระบบเลย แต่ขณะนี้เราได้วางแอพพลิเคชั่น ในการตรวจสอบย้อนกลับตั้งแต่ต้น เริ่มจาก จับปลาที่ไหน จับได้น้ำหนักเท่าไร ขึ้นมาที่ท่าเรือแล้วมีขั้นตอนอะไร ก่อนที่จะส่งไปถึงตลาด โรงงานแปรรูป และ ส่งออกไปยังต่างประเทศ

"ตอนนี้เรามีระบบการตรวจสอบย้อนกลับที่ชัดเจนแล้ว แต่เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ จึงต้องมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น การจับปลาของชาวประมง ต้องลงเอกสาร (Log book)ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบย้อนหลังรู้ข้อมูลได้ทันที ทำให้เรารู้รายละเอียดมากขึ้น แต่ชาวประมงบางคนยังเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่เราต้องสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

ส่วนการนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศ ที่ก่อนหน้านี้ใช้การประมาณน้ำหนัก แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้น้ำหนักจริง ซึ่งเริ่มทำใน 3 ประเทศแล้ว เช่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ ซึ่งเขาก็เห็นด้วย นอกจากนี้ไอยูยูให้ความสำคัญเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย โดยอยากเห็นการดำเนินการที่รวดเร็ว ซึ่งวันนี้เราเดินหน้าไปเยอะแล้ว แต่กระบวนการของเรามันยาว เราก็เร่งรัดลำบาก แต่จำนวนคดีที่อยู่ในศาล จากเดิมที่มีอยู่ 47 คดี ก็เหลือพียง 27 คดี ซึ่งไอยูยู ก็พอใจว่าเราดำเนินการได้รวดเร็วและถูกต้อง

ทั้งนี้หลังจากนี้ เราต้องเขียนสรุปรายงานการดำเนินการในต้นเดือนธ.ค. และวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ เราต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงเอกสารดังกล่าว จากนั้น คณะกรรมการไอยูยู จะพิจารณา พร้อมสรุปผลก่อนที่จะมาดูรายละเอียดอีกครั้งในช่วงเดือน มี.ค.61 ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกระแสข่าวการปรับครม.นั้น ถือเป็นคนละเรื่องกับการทำงาน เราต้องทำงานไป ส่วนจะย้ายหรือไม่ตนไม่ทราบ มีแต่ข่าวที่ออกมา วันนี้ตนไม่ได้รับสัญญาณอะไร ขอให้สื่ออย่าไปสนใจเลย วันนี้เมื่อไอยูยู มาถึงเรา เราก็ต้องทำงานแก้ไขปัญหาตามหน้าที่รับผิดชอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น