xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**เงื่อนงำ"นตท.เมย" อวัยวะภายในหาย สะท้อนแนวคิด "ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน" ชีวิตคนหรือจะสำคัญเท่าศักดิ์ศรี "ลุงตู่-ลุงป้อม"ยังตอบแบบนี้ แล้วสังคมไทยจะไปคาดหวังความยุติธรรม อะไร

ต้องชื่นชมในหัวจิตหัวใจของ“ครอบครัวน้องเมย”ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังกลับเข้าโรงเรียนได้เพียง 1 วัน .. ตลอดระยะเวลาเดือนกว่าที่ผ่านมา“ครอบครัวน้องเมย”ได้ร้องเรียนในหลายช่องทาง เพื่อให้ทางโรงเรียนฯ ชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ “นตท.เมย”หลังได้รับเพียง “ใบมรณบัตร”ที่ระบุสาเหตุการตายว่า เกิดจากภาวะ“หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน” .. ทว่าเมื่อนำร่างของ“นตท.เมย”ไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พบว่า“อวัยวะภายใน”ทั้ง “ตับ ไต ไส้ พุง ม้าม กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะ” หายเรียบ ส่วน“สมอง”มีแค่สำลียัดไว้แทนในกระโหลก .. และยังพบร่องรอยสำคัญว่า กระดูกซี่โครง-ไหปลาร้า หักหลายซี่ เป็นจุดที่ห่างจากการปั๊ม หรือ CPRหัวใจอีกด้วย .. ถือเป็นสภาพศพที่“ผิดธรรมชาติ”ราวกับพล๊อตนิยายสยองขวัญ ขัดแย้งกับที่โรงเรียนระบุเพียงว่า“หัวใจหยุดเต้น”..ที่สำคัญเรื่องอวัยวะหายไปนั้น ทางโรงเรียนไม่เคยแจ้งมาก่อน แต่เพิ่งมายอมรับ อ้างว่าเก็บ”อวัยวะภายใน”ไว้เพื่อตรวจ“ระดับลึก”หลังจากทางครอบครัวนำร่างไปชันสูตรจนรู้เรื่องเอง ..
ที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็ “รุ่นพี่ ตท.12”อย่าง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยอมรับว่า ทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนต.ค.แล้ว ทางผู้ตายป่วยบ่อย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลในโรงเรียนฯ เป็นระยะ ระบุด้วยว่า สาเหตุมาจากอาการ“หัวใจล้มเหลว”..เหมือนมองเป็น “เรื่องธรรมดา”ไม่เอะใจอะไร .. คำของ“นายกฯตู่”ช่างสอดคล้องกับคำของรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีอาการ “เหวอ”เมื่อถูกนักข่าวถามเรื่องนี้ในตอนเช้า พอตกบ่าย ก็มาพูดในคีย์เดียวกับ “นายกฯตู่”ว่า นตท.คนนี้ป่วยจนเข้าโรงพยาบาล แล้วกลับมาเรียน ร่างกายทนไม่ไหวเอง และพูดชัดเจนว่า ตายเพราะ “โรคหัวใจ”..จนมีข้อสังเกตที่ “ย้อนแย้ง”และน่ายิงคำถามไปถึงทั้ง“ลุงป้อม - ลุงตู่”ที่น่าจะทราบหลักเกณฑ์ผู้เข้าศึกษาที่โรงเรียนฯนี้ดีว่า หากเป็น “โรคหัวใจ”มาก่อน คงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน เห็นว่าตรวจกันละเอียดยิบ แค่เป็น“โรคผิวหนัง”บางประเภท ยังไม่ได้ไปต่อด้วยซ้ำ .. ทำไม“บิ๊กทหาร”ถึงไม่เคลือบแคลงสงสัย “เงื่อนงำ”อย่างที่สังคมตั้งคำถามแม้แต่น้อย เอาแค่ไล่เรียงไทม์ไลน์จากฝั่ง“ครอบครัวน้องเมย”ก็ดู “ไม่ปกติ”แล้ว .. ทั้งการที่บอกว่า “นตท.เมย”มักถูกลงโทษเรียกไป “ซ่อมเดี่ยว”อยู่บ่อยๆ ครั้งหนึ่งเคยถูกลงโทษด้วยการให้ปักหัวลงที่พื้นห้องน้ำ เลือดตกที่หัวจนช็อก-ชีพจรหยุดเต้น ต้องปั้มหัวใจขึ้นมา .. ความไม่ปกติยิ่งกว่านั้น เมื่อ “พ่อน้องเมย”ระบุว่า ก่อนลูกชายเสียชีวิต ได้มีโอกาสคุยโทรศัพท์กับลูกชาย ซึ่งลูกย้ำว่า “อย่าไว้ใจผู้พัน”หลังจากนั้นเพียงแค่ชั่วโมงเศษ ก็พบว่าถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ..
ไม่เท่านั้นยังมี“หลักฐาน”บันทึกเรื่องราวที่ “นตท.เมย”เขียนไว้ระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน ระบุว่า ภูมิใจที่ได้พิสูจน์ตัวเอง และอยากเป็นทหารเพื่อปกป้องประเทศชาติ .. ในบันทึกฉบับเดียวกัน ยังเล่าถึงชีวิตในโรงเรียน ที่ถูกทำร้ายร่างกายโดย “รุ่นพี่”บ้าง “ผู้พันรายหนึ่ง”บ้าง จนเปรียบเหมือนตัวเองกำลัง“ตกนรก” .. เงื่อนงำที่เกิดขึ้นหลายประการ บ่งชี้ไปถึงสาเหตุการตายที่ “ผิดปกติ”บางกระแสยังตั้งคำถามไปถึง “วัฒนธรรมการซ่อม”หรือการลงโทษของทางทหาร โดยประเมินจากร่องรอยชันสูตรของแพทย์ .. สวนทางกับท่าทีของ “คนในกองทัพ”ก็ต่างปัดป้อง“วัฒนธรรมเก่าแก่”โดยบอกว่า การลงโทษตามขั้นตอนทางทหาร คือ“ห้ามแตะเนื้อต้องตัวกัน”เพราะ “ผิดกฎหมาย”แถมกรณีนี้ยังโบ้ยว่าเป็น “ปัญหาสุขภาพ”ของผู้เสียชีวิตเอง .. ถือเป็นความจงใจโป้ปด เพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง ด้วยว่า “การซ่อม”ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าความจริงเป็นเช่นไร .. น่าเสียดายที่ “กองทัพ” ไม่ถูกบรรจุอยู่ในวาระปฏิรูปประเทศของ“รัฐบาลทหาร”เพราะไม่ว่าจะเป็น “หลักสูตรทหาร”ที่เห็น “ลูกชาวบ้าน” นักเรียนนายร้อย นักเรียนเตรียมทหาร หรือกระทั่งทหารเกณฑ์ เป็นผักเป็นปลา .. หรือวัฒนธรรมประเภท “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน”บ่ายเบี่ยงประเด็น เพื่อปกปิดความผิด ปกป้องพี่น้องพวกพ้อง .. ต่างๆ เหล่านี้ควร “ปฏิรูป-สังคายนา”ใหม่ทั้งหมด มิใช่ปล่อยให้ “เขตทหาร”เป็น “เเดนสนธยา”ที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบอะไรได้แบบนี้ ทางเดียวที่”ลุงตู่”จะกู้เรตติ้งขึ้นมาได้คือ การสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ยกเลิกแนวคิดอนุรักษ์ไร้สาระนี้เสีย ชีวิตคนทั้งคน ประชาชน จะดีใจ ที่สีเขียวจะดูสดใส ไม่ใช่ “เขียวสนธยา”

** บ่วงบรรจถรณ์!! ชำแหละสัมพันธ์ “พี่ป้อม - น้องตู่”ต่างคนต่างโดดเดี่ยว จนต้องเกี่ยวกันไปทั้งชาติ โจทย์ใหญ่ต้องต่อท่ออำนาจ คสช. ปิดทางโดนเช็กบิล ฉากจบจะแฮปปี้เอนดิ้งส่ง“เรือแป๊ะ”ถึงฝั่ง หรือเกิดโศกนาฏกรรมเหมือน“เรือไททานิก”ต้องคอยดู

ย้ำแล้วย้ำอีก ไม่มีอะไรในกอไผ่ สายสัมพันธ์ “พี่น้องเสือตะวันออก”แน่นปึ้กมาตลอด 40 ปี .. “น้องตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็หาญกล้า ประกาศลั่นว่า ลูกพี่ผมคนดีที่หนึ่ง ไร้เรื่องคดโกงให้มัวหมอง .. ส่วน “พี่ป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่แม้จะไม่มั่นใจในอนาคตตัวเองจนออกอาการ แต่ก็มั่นใจว่า จะไม่เจอ “น้องตู่”เทแน่นอน .. จนต้องย้อนไปเมื่อครั้ง“วันเกิดลุงป้อม”เมื่อไม่นานมานี้ ที่ “บิ๊กตู่”สยบข่าวลือทั้งหลาย ด้วยการลั่นวาจา “จะอยู่กันไปทั้งชาติ” .. จนน่าแปลกใจเหลือเกินว่า เหตุผลกลใด ถึงทู่ซี้ จะกระเตงกันไป ทั้งที่ตัว“ลุงตู่”เองก็เสื่อมมนต์ขลัง อยู่ในช่วงขาลง ขณะที่“บิ๊กป้อม”เองก็ชื่อเสียงขายไม่ออก มีแต่เรื่องไม่ชอบมาพากลพัวพัน จากที่เคยเป็น“บิ๊กบราเธอร์ส คสช.”กลับถูกแปะหน้าผากว่า “ตัวถ่วง คสช.”..ถามว่าเรื่อง“บุญคุณ-พวกพ้อง”ตามธรรมเนียมทหารใช่ไหม ประมาณว่า“มีวันนี้เพราะพี่ให้”ก็คงใช่ แต่มาวันนี้เกือบ 4 ปีที่ คสช.เรืองอำนาจ ก็น่าจะ “ตอบแทนบุญคุณ”กันจนอิ่มหมีพีมันไปแล้ว .. จะมองแบบ “โลกสวย”ว่าเป็นสายสัมพันธ์ “พี่น้อง”ที่ตัดกันไม่ขาด คงต้องหยุดมโนกันเถอะ แล้วต้องยอมรับความจริงว่า รุ่นนี้เขา“ผลประโยชน์”ล้วนๆ ..
ที่ดึงดัน อุ้มกันไปมา จนทำท่าจะพังกันทั้งยวง แต่ที่ต้องเสี่ยงก็ด้วย “ป๋าป้อม”ยังสำคัญต่อ“โรดแมป คสช.”หรือพูดให้ถูก “โรดแมป ลุงตู่”ใช่หรือไม่ .. ครั้น“ลุงตู่”จะยังหลงคราบ“ฮีโร่”ตะบึงไปแบบไม่มีแบ็กอัพ คอยระวังหลัง ก็คงรอดได้ไม่กี่น้ำ .. เหลี่ยมคูการเมืองของ“นายกฯตู่”ที่อาจจะพึ่งคอนเนกชั่น “วปอ.รุ่น 50 - ปรอ.รุ่น 20”ชักชวนมาช่วยงานหลายคน หรือจะพึง "วัดนวลฯคอนนเนกชั่น" ก็ไม่กว้างขวางพอที่จะค้ำเก้าอี้ “ท่านผู้นำ”ได้เท่าไรดอก .. ยิ่งที่ผ่านมา ชอบฉายเดี่ยว“วันแมนโชว์”เห็นคนอื่นเป็นบันได จนวันนี้แทบไม่มีใครเอาด้วยแล้ว .. ที่อยู่มาได้จนป่านนี้ก็ด้วยบารมี-คอนเนกชั่น “ลุงป้อม”ที่แผ่ไพศาลมากกว่า เช็กดูแค่ใน“เรือแป๊ะ” ทั้ง ครม.- สปช. - สปท.-สนช.-กรธ.-บอร์ดรัฐวิสาหกิจ ดูได้ “สายตรงตู่”มีเท่าไร “สายตรงป้อม”เบิ้ลไปอีกหลายเท่าตัว .. นี่ยังไม่ได้นับถึงการวางไลน์ในกองทัพ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าไปด้วยนะ... จึงเป็นคำตอบในตัวว่า รู้ทั้งรู้ว่า ลูกพี่เป็น “ตัวตัดแต้ม”แต่จำเป็นอุ้มกันไปให้ได้ ด้วยมองเกมยาว เตรียมเข้าโหมดเลือกตั้ง ปลายทางคือ“ต่อท่ออำนาจ คสช.”ให้ได้อย่างน้อย 1 สมัย สี่ซ้าห้าปี ถ้าไม่เอา “ลูกพี่ป้อม”ไปด้วย“ลุงตู่”ก็แทบไม่เหลือใคร .. จนกลายเป็นว่า มี “ตู่”ต้องมี “ป้อม”ผูกกระเตงกันไป ไม่ต่างกับ“บ่วงบรรจถรณ์”นวนิยายไทย ที่กำลังโลดแล่นอยู่บนจอแก้วเวลานี้ เรื่องนั้นตอนจบ“คู่พระนาง”แฮปปี้เอนดิ้ง กันดี .. กลัวก็แต่ฉากชีวิตจริง“พี่ป้อม - น้องตู่” จะโล้ “เรือแป๊ะ”จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม ล่มเหมือน“เรือไททานิก”มากกว่าน่ะสิ.

**ปฏิบัติการล้มโต๊ะ!!“นายกฯอ๊อด - ผบ.แป๊ะ”ผนึกกำลังปราบ“ขบวนการล็อกสกอร์”เป้าต่อไปสยบ “มาเฟียบอลไทย”พวกหินโสโครก วงการลูกหนังไทย ขอแค่อย่าลูบหน้าปะจมูก ต้องขจัด“วงจรอุบาทว์”ให้สิ้นซาก

ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ไม่เห็นมานาน กับการร่วมโต๊ะแถลงข่าวใหญ่ของ“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ที่วันนี้มาผงาดเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ .. ข่าวใหญ่ที่ว่าคือ การปราบ“ขบวนการล็อกสกอร์”ในไทยลีก ลีกสูงสุดของประเทศ มีผู้เกี่ยวข้องถูกออกหมาย-จับกุมได้แล้วรวม 12 ราย .. “พี่อ๊อด - น้องแป๊ะ”ประสานเสียง ติดตามมานาน หลักฐานมัดแน่น ทั้ง “นักเตะดัง - ผู้ตัดสินฟีฟ่า - ผู้บริหารสโมสร" เป็นขบวนการจ่ายงาน-รับงาน ล็อกสกอร์ ลิ้งค์กับ “นายทุนใหญ่”บรรดาเว็บไซต์พนันออนไลน์ .. ขบวนการนี้หากินกันง่าย ไม่ใช่“ล้มบอล”เหมือนยุคโบราณ แต่พัฒนาขึ้นเป็น“ล็อกสกอร์สูง-ต่ำ”เคสที่โดนกวาดมานี่ ก็ว่าจ้างผู้เล่นให้ปล่อยเสียประตูในช่วงท้ายเกม ประมาณว่า มีสกอร์ลูกเดียว เงินเดิมพันเปลี่ยนมือทันที .. ผิดหวังอยู่นิดก็ตรงจับพิรุธในฤดูกาลล่าสุดได้แค่ 4 นัด เข้าข่ายล้มบอล จากทั้งหมด 300 กว่าแมตซ์ อีกทั้งยังมาเปิดโปงหลังปิดฤดูกาลไปแล้ว ปล่อยผีพนันร่ำรวยไปไม่รู้เท่าไร .. แต่อย่างน้อยก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการปัดกวาด“วงการลูกหนังไทย” ให้ใสสะอาด ไม่ปล่อยให้มี“วงจรอุบาทว์”มาทำให้ฟุตบอลอาชีพที่กำลังไปได้ด้วยดีต้องสะดุดลง ..
ที่ต้องติดตามต่อก็ความ “ระหว่างบรรทัด”จากคำแถลงของ“นายกฯอ๊อด - ผบ.แป๊ะ” ..ทั้งที่ระบุว่า 12 คน คิดคดทรยศอาชีพตัวเองนี้ไม่ใช่ทั้งหมดของขบวนการ ยังมีอีกหลายรายที่รอหลักฐานมัดแน่น แล้วค่อยเล่นงาน .. หรือที่เอ่ยถึง“มาเฟียฟุตบอล”พาดพิงไปถึง“กลุ่มอำนาจเก่า”ที่มักใช้อิทธิพล“กดดัน”หรือ “ร้องขอ”ทั้งกรรมการ-ผู้เล่น ให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ โดยเฉพาะ“บิ๊กแป๊ะ”ที่สวมหมวกประธานสโมสรโปลิส-เทโรฯ ทีมในไทยลีก ก็โอดโอยว่า“ทีมผมก็โดนมาเยอะ”พร้อมชี้เป้าว่า “มาเฟียบอลไทย”มีจริง ส่วนใหญ่เป็น“ทีมใหญ่”ทั้งนั้น .. ก็หวังว่างานนนี้จะต่อยอด กวาดล้างให้สิ้น
ซาก ทั้งพวกทรยศอาชีพ หรือพวกมาเฟียใช้อิทธิพลเพื่อประโยชน์ตัวเอง .. อย่าลูบหน้าปะจมูก-เลือกที่รักมักที่ชัง ให้คนนินทาหมาดูถูกละกัน.

ช.ชฎา

รูป--
นตท. ภคพงศ์ ตัญกาญจน์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
กำลังโหลดความคิดเห็น