xs
xsm
sm
md
lg

ว่าด้วยเรื่อง “มนุษย์” กับ “ธรรมชาติ”

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


ช่วงระหว่างนี้...ถ้ายังมั่วๆ อยู่ภายในเล้าไก่ อาจเป็นอะไรที่อึดอัด ขัดข้องใจอยู่พอสมควร ด้วยเหตุเพราะ “หัวหน้าเล้า” หรือผู้บริหาร ผู้ปกครองประเทศ อย่างท่านนายกฯ “บิ๊กตู่” ท่านดูจะหงุดหงิด รำคาญ ไม่อยากให้ใครต่อใคร “กระพือปีก” ไม่อยากให้วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการปรับคอรอมง คอรอมอของท่าน มากมายเกินไปนัก ดังนั้น...คงได้เวลาเปิดเข่ง เปิดเล้า ออกร่อนไป-ร่อนมานอกบ้าน นอกประเทศกันอีกครั้ง...

แต่ครั้นจะร่อนไปแถบๆ คาบสมุทรเกาหลี ตะวันออกกลาง หรือถึงแถวๆ ยุโรปโน่นเลย ก็ออกจะเป็นอะไรที่วนไป-วนมาอยู่ตามสมควร เนื่องจากต่างฝ่ายต่างยังคงยึกๆ ยักๆ ยักตื้นติดกึก-ยักลึกติดกักไปตามสภาพ ด้วยเหตุนี้...เลยคงต้องขออนุญาตไปว่ากันถึงเรื่องที่อาจไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับมนุษย์อุจจาระเหม็นเอาเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเรื่องของ “ธรรมชาติ” ล้วนๆ นั่นคือเรื่องแนวโน้มเหตุการณ์ “แผ่นดินไหว” ที่อาจส่งผลกับโลกทั้งโลกได้หนักหนาสาหัสซะยิ่งกว่าผู้นำชาติ ผู้นำประเทศรายหนึ่ง รายใด ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า...

อันเนื่องมาจากข่าวล่า-มาเรือที่หนังสือพิมพ์ “The Guardian” เขาได้ไปสัมภาษณ์ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่ได้โคจรมาเจอกันระหว่างงานประชุมประจำปีของสมาคมธรณีวิทยาอเมริกัน (Geological Society of America) ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายใต้การประชุมครั้งนี้ได้มีการนำเสนอรายงานการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญ 2 ราย คือ “โรเจอร์ บิลแฮม” (Roger Bilham) แห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโด และ “รีเบคกา เบนดิก” (Rebecca Bendick) แห่งมหาวิทยาลัยมอนทานา ที่ให้ความสำคัญกับการค้นคว้าในเรื่องความเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกชั้นนอกและชั้นในไปจนถึงระดับแกนโลก (Solid inner core) และได้มีความเห็นสอดคล้องต้องกันว่า ภายในปีหน้าหรือในช่วงปี ค.ศ. 2018 นี่แหละ บรรดามวลมนุษย์ทั้งหลายโดยเฉพาะผู้ที่ปักหลักอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ประเทศแถบเส้นศูนย์สูตร ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 1 พันล้านคน มีสิทธิต้องเจอกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่หนักหน่วง รุนแรง กว่าเท่าที่เคยเป็นมา อย่างแทบมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

ถ้าว่ากันตามคำพูดของ “นายโรเจอร์ บิลแฮม” แกถึงกับ “ฟันธง” ลงไปแบบเต็มผืนเต็มด้ามว่า... “ในปีหน้าเราจะได้เห็นการเกิดแผ่นดินไหวครั้งสำคัญๆ และร้ายแรงเพิ่มขึ้น ปีนี้...มีแผ่นดินไหวหนักๆ แค่ประมาณ 6 ครั้ง แต่ปีหน้า หรือปี 2018 เหตุการณ์แผ่นดินไหวในระดับที่ว่า (7.0 แมกนิจูดขึ้นไป) อาจมีมากถึง 20 ครั้ง” จริง-ไม่จริง...เลี่ยงไม่พ้นต้อง “ตามไปดู” นั่นแหละทั่น แต่ยังไงๆ คงต้องยอมรับว่า การศึกษา ค้นคว้า ในเรื่องแผ่นดินไหวของบรรดานักวิทยาศาสตร์ นักธรณีวิทยาช่วงหลังๆ ค่อนข้างก้าวหน้า ก้าวไกลมิใช่น้อย แม้ยังอาจไม่ถึงขั้นสามารถระบุวันว. เวลาน. ของเหตุการณ์แต่ละครั้งได้แบบชัดๆ จะจะ แต่การมองแนวโน้มความเป็นไปของเหตุการณ์แผ่นดินไหว ย้อนกลับไปตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดูจะมีหลักมีฐานยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

และการมองแนวโน้มเหตุการณ์แผ่นดินไหวในอนาคตข้างหน้าว่าจะหนักขึ้น ถี่ขึ้น อันที่จริงก็ไม่ใช่มีแค่ผู้เชี่ยวชาญอย่าง “นายโรเจอร์ บิลแฮม” และ “รีเบคกา เบนดิก” เพียง 2 รายเท่านั้น แต่คงต้องเรียกว่า...โดยข้อมูล สถิติ หลักฐานข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญโดยส่วนใหญ่ ต่างเห็นพ้องไปในแนวเดียวกับ “นายโรเจอร์” และ “นางรีเบคกา” มานานแล้ว อย่างที่มีการรวบรวมตัวเลข สถิติ โดยสองนักธรณีวิทยาแห่งองค์กร “US. Geological Survey-USGS” คือ “นายทอม พาร์สัน” (Tom Parson) และ “นายอีริค เกส” (Eric Geist) แล้วนำมาเผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์ “Journal Geophysical Research Letter” ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 2014 ก็แสดงให้เห็นแนวโน้มที่ว่าอย่างเห็นได้โดยชัดเจน เช่นการเทียบเคียงสถิติย้อนหลังถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวในระดับ 7.0 แมกนิจูดนับตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1979 ที่เกิดขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่พอถึงปี ค.ศ. 1992 ตัวเลขมันเริ่มเพิ่มขึ้นเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จากนั้นก็กระโดดพรวดๆ พราดๆ ขึ้นเป็น 16.7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นับตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 2010 เป็นต้นมา จนกระทั่ง ค.ศ. 2014 ถ้าเอาตัวเลขสถิติมาเทียบเคียงกับตัวเลขปี ค.ศ. 1979 พอสรุปได้ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวระดับ 7.0 แมกนิจูดเพิ่มขึ้นถึง 65 เปอร์เซ็นต์เอาเลยถึงขั้นนั้น...

ส่วนอะไรที่เป็นสาเหตุให้เหตุการณ์แผ่นดินไหวมีแต่เพิ่มขึ้น หนักขึ้น อันนี้...คงขึ้นอยู่กับแนวคิด ทฤษฎีตามแบบฉบับของใครก็ของมันตามการศึกษา ค้นคว้าที่เน้นหนักไปในทางใด ทางหนึ่ง มีทั้งการนำเอาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ หรือสภาวะโลกร้อนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นำเอาแนวคิดเรื่องแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวในพื้นที่หนึ่ง ที่อาจเป็นตัว “ลั่นไก” ต่อเนื่องไปถึงอีกพื้นที่หนึ่งได้อย่างเป็นระลอก มีทั้งการนำเอาการกระทำของมนุษย์เข้าไปเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างชนิดแยกไม่ออก ไม่ว่าการขุดเจาะหาแหล่งแร่ น้ำมัน และก๊าซ ไปจนการสร้างเขื่อนทับรอยเลื่อนในแต่ละจุดแต่ละพื้นที่ หรือบางรายเตลิดเปิดเปิงไปถึงขั้นนำไปเกี่ยวโยงกับการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก การเพิ่มขึ้น-ลดลงของละอองพายุสุริยะไปโน่นเลย ฯลฯ แต่ไม่ว่าศึกษา ค้นคว้า ไปในแนวไหนผลสรุปมักออกไปในแนวทางเดียวกันซะเป็นส่วนใหญ่คือล้วนแล้วแต่เห็นความพินาศ ฉิบหาย รอคอยอยู่เบื้องหน้าอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล...

สำหรับผู้ที่ศึกษา ค้นคว้า ระดับลึกลงไปในแผ่นเปลือกโลก ลงไปถึงแกนโลก อย่าง “นายโรเจอร์” และ “นางรีเบคกา” นั้น อาจพิเศษขึ้นมาหน่อย ตรงที่กล้า “ฟันธง” ลงไปแบบเต็มผืน เต็มด้าม ว่าในปีหน้า หรือปี ค.ศ. 2018 นั้น น่าจะได้ฉิบหายวายวอดกันตามสมควร หรือฉิบหายกว่าปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3 เท่า 4 เท่าเป็นอย่างน้อย ด้วยเหตุนี้...สำหรับประเทศไทยแลนด์ แดนสยามของหมู่เฮา ที่อยู่ไม่ใกล้-ไม่ไกลจากเส้นศูนย์สูตรซักเท่าไหร่ก็ควรระมัดระวัง เตรียมตัว เตรียมใจเอาไว้มั่ง เพราะไม่ต้องถึงขั้นระดับแผ่นดินไหว แค่เจอกับน้ำท่วม น้ำรอระบายมากันแบบพลั่กๆๆ ก็แทบเอาไม่อยู่ ไปไม่เป็น หวิดจะ “ตกม้าตาย” แบบหวุดๆ หวิดๆ อะไรที่ออกไปทางคำใหญ่ คำโต ประเภท “จะขจัดคนจนให้หายไปจากประเทศไทยในปีหน้า” ก็น่าจะเพลาๆ ลงไปมั่ง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างโลกนี้ มันคงไม่ได้มีแต่เฉพาะเรื่องเงินๆ-ทองๆ แต่เพียงเท่านั้น ยังมีเรื่องดิน เรื่องฟ้า เรื่องของ “ธรรมชาติ” ที่อาจเป็นตัวตัดสินแต่ละสิ่งแต่ละอย่าง ได้มากซะยิ่งกว่า “ขีดความสามารถของมนุษย์” ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า...
กำลังโหลดความคิดเห็น