ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กป้อม "บอกไม่รู้ "จักรทิพย์" นั่งรัฐมนตรีหรือไม่ ให้รอดูไปก่อน ยันไม่รู้เรื่องปรับครม. แม้กระทั่งอนาคตตัวเอง หลุดสบถ"ไอ้ห่า" หลังถูกจี้ถามสุขภาพยังไหวไหม จะลาออกเองหรือไม่ ลั่น 6 คำถามนายกฯ ขอฟังเสียงประชาชน ไม่ใช่นักการเมือง ขอสื่ออย่ามองปูทางสู่การเมือง "ออมสิน" งงสื่อตีข่าวเก็บของ ยันไม่มีสัญญาณจากนายกฯ ว่าจะถูกปรับออก ขณะที่ "บิ๊กเข้" เผย"บิ๊กตู่" ไม่เคยเปรยเรื่องปรับครม.ด้วย ส่วน"บิ๊กอู๋" บอกเป็นคนมีวินัย แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาสั่ง "มท.1" สรุปยอดผู้ตอบคำถามวันแรก 19,580 คน โต้"มาร์ค" ไม่มีนโยบายเกณฑ์คน ลั่นหากใครทำมีความผิด
วานนี้ (14 พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม. ที่มีการระบุว่าจะโยก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไปเป็นรัฐมนตรี และให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ขึ้นเป็น ผบ.ตร. แทนว่า คุณอยากย้ายก็ย้ายเลย คุณจะได้เอา พล.ต.อ.ศรีวราห์ขึ้น คุณจะย้ายไหม เรื่องนี้ไม่ต้องให้ตนยืนยัน ก็ดูกันไป
เมื่อถามว่า ให้ดูไปหมายความว่า มีโอกาสใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี
เมื่อถามว่า ทำไมพล.ต.อ.จักรทิพย์ โดนเลื่อยขาเก้าอี้ตลอด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า บอกไม่ได้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนเลื่อย เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า มีการเลื่อยขาเก้าอี้จริงใช่ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถามอะไรไม่รู้ ไม่ได้เรื่อง ถามเลอะเทอะ
เมื่อถามว่า ท่านรองนายกฯ พูดกำกวมก็ต้องถามให้ชัดเจน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าอะไรกำกวม ไม่มีอะไรอ้ำอึ้ง กำกวม การที่บอกให้รอดูแล้วมันเป็นอย่างไร บอกให้รอดู ก็รอดูไป เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าคุณสมบัติของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ นั้นสามารถที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ดู เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตน เป็นหน้าที่ของนายกฯในการพิจารณา ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่านายกฯตัดสินใจอย่างไร
"ตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่หรือเปล่า แล้วนายกฯจะมาปรึกษาอย่างไร ผมจะอยู่หรือไป ยังไม่รู้เลย" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ส่วนที่มีกระแสข่าวที่มีรัฐมนตรีบางคน เตรียมเก็บของแล้วนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อเขียนกันไปเอง เก็บข้าวเก็บของ เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวท่านเอง ยังไหวหรือไม่ กับตำแหน่งรองนายกฯ ดูแลฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่รู้ ผมยังไม่รู้ตัวเลย" เมื่อถามย้ำว่า หมายถึง สุขภาพร่างกายยังสู้ไหวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ไม่รู้ยังไง ดูไม่ออกเหรอ สื่อดูออกไหม เมื่อถามว่าจะลาออกเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ชี้นิ้วพร้อมกับกล่าวว่า "ถามอย่างนี้ ไอ้ห่า สุขภาพผมยังไม่เป็นอะไร"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประวิตร นั่งในรถประจำตำแหน่ง เตรียมออกจากทำเนียบรัฐบาลได้ลดกระจกรถลง พร้อมกล่าวกับสื่อว่า ถามอะไร ไร้สาระ
** "ออมสิน"ยันไม่ได้เก็บของ
ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กระแสข่าวที่ว่าตนได้เก็บของที่ห้องทำงานแล้ว หลังจากนายกฯ จะมีการปรับครม.ว่า ไม่มีอะไร เห็นข่าวที่ออกมาก็ งงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ความจริงเรื่องเก็บของนั้น ตนเก็บตามนโยบาย 5 ส. ไม่ได้เป็นการเก็บของเพื่อเตรียมตัวออกจากครม. แค่เอาเอกสารที่หาไม่เจอในห้องเก็บของ ไปเรียงไว้ในลัง และไม่ได้เพิ่งมาทำ แต่ทำมา 2-3 อาทิตย์แล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องผิดปกติเลย ยืนยันว่า ไม่มีสัญญาณใดๆทั้งสิ้น ตนก็ยังแปลกใจ ว่ามาเป็นข่าว เป็นเรื่องเป็นราวได้ยังไง
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้นายกฯ ยังไม่ได้มีการหารือกับตนเรื่องการปรับครม. และไม่เคยพูดว่าจะเป็นการปรับครม.ใหญ่ หรือเล็ก
**"ไก่อู" โต้ข่าวลือเปลี่ยนรมว.เกษตรฯ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กระแสข่าวการปรับครม. ซึ่งมีการแรงกดดันไปที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลมีงบประมาณในการแก้ไขปัญหาอยู่จำนวนหนึ่ง แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้ให้ใช้งบส่วนนี้ในการแก้ไขปัญหาใดๆ เลย โดยใช้เงินเกือบทั้งหมดให้กับเกษตรกรผู้ที่รายได้น้อย ด้วยกลวิธีต่างๆ ไม่สนใจกลไกตลาด ขอเพียงให้เกษตรกรได้มีเงินใช้
แต่รัฐบาลนี้ไม่ทำเช่นนั้นเราพยายามแบ่งงบประมาณเพื่อพัฒนาประเทศ และอีกส่วนเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งแนวทางนี้อาจไม่โดยใจ เหมือนโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่ผ่านมา นี่จึงเป็นปัญหาของรัฐบาล ที่ต้องการทำโครงการเพื่อความยั่งยืน
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงความร่วมมือของประชาชน ในการตอบคำตอบ 6 ข้อ ว่าไม่ได้สนใจว่าประชาชนจะมาตอบมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ยืนยันไม่ได้มีการเกณฑ์คนมาตอบคำถาม ตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ ส่วนที่ 6 คำถามถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะคำถามข้อ 2 ที่ระบุว่า คสช.มีสิทธิ์ที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ตนไม่ได้คิดแบบนั้น แต่นายกฯคงอยากทราบว่า ประชาชนคิดอย่างไร และที่นักการเมืองออกมาวิจารณ์ เรื่อง 6 คำถามจำนวนมากนั้น เราจะไปห้ามได้อย่างไร
เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาวิจารณ์อย่างรุนแรง ว่าเป็นคำถามที่ไม่ให้เกียรตินักการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงมองกันคนละแง่ แต่เราไม่ได้ถามนักการเมือง เมื่อถามว่าการที่ นายอนุทิน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ จะเป็นการผลักมิตรให้เป็นศัตรู หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คสช.ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร เป็นมิตรกับทุกคน ทุกพรรค และตอนนี้เรายังไม่ได้สนับสนุนพรรคใด ยังไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า 6 คำถาม เป็นการหยั่งเสียงประชาชน หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ สื่อต้องไปถามนายกฯ แต่นายกฯไม่ได้ตั้งพรรคการเมือง เมื่อถามว่าการตั้งคำถาม 4 ข้อ และ 6 ข้อ เป็นการปูทางสู่การเมืองของคสช. หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อก็มองไป แต่ทำไมไม่มองกันแบบบริสุทธิ์ใจบ้างว่า นายกฯ ต้องการรู้จากประชาชน ต้องการฟังเสียงประชาชน ว่าคิดเห็นอย่างไรเท่านั้น
** วันแรกมีคนตอบคำถามเกือบ2หมื่น
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า วันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่เปิดรับคำตอบจากประชาชน ปรากฏว่า มีคนมาแสดงความเห็น 19,580 คน ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังไม่มีการสรุปเนื้อหา ว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ใครที่จะไปตอบคำถามของนายกฯ ให้เดินทางไปได้ ตามจุดที่กระทรวงมหาดไทย กำหนดไว้
ส่วนกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งข้อสังเกตว่า มีการเกณฑ์คนมาตอบคำถามนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ พูดหลายประเด็น หากเป็นเรื่องที่จะเสนอแนะท่านนายกฯ ก็ให้ไปคุยกับท่านนายกฯเอง แต่ตนขอชี้แจงเรื่องที่ นายอภิสิทธิ์ บอกว่ามีการเกณฑ์คนนั้น ขอยืนยันว่า ประชาชนมาด้วยความสมัครใจ และต้องแสดงตนด้วยตัวเอง
"ไม่มีการสั่งการ หรืออำนวยการอะไร ใครทำถือว่ามีความผิด ไม่มีนโยบายให้เกณฑ์คน ไม่ต้องการรู้มาก หรือรู้น้อย ประชาชนมาแค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ต้องการแห่แหนเกณฑ์คนคาดหวังต้องมามาก มาน้อย ไม่มี ทำใจให้สบายๆ สื่อก็ไม่ต้องมาถามว่าคนมาบางตาหรือหนาตา" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
** 6 คำถามทำคสช.เป็นคู่ขัดแย้งใหม่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกมายืนยันว่า ไม่มีการระดมคนไปตอบคำถาม 6 ข้อ ของนายกฯ ว่า ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชน และแวดวงราชการ ว่า มีการสื่อสารทางไลน์ ให้จัดคนไป หากไม่ใช่นโยบายของกระทรวงมหาดไทย ก็ขอให้พูดให้ชัดว่า อย่าทำอย่างนี้ เพราะลำพังการตั้งคำถาม และใช้กลไกแบบนี้ ก็ไม่เป็นวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว เนื่องจากคนที่รู้ว่า คำตอบจะไม่เป็นที่ถูกใจ ก็คงไม่นำบัตรประชาชนไปแสดงตัวเพื่อตอบคำถาม
"ที่ท้วงติงเรื่อง 6 คำถามของนายกฯ นั้นไม่ได้ลงรายละเอียดในตัวคำถาม แต่ไม่อยากให้ คสช.นำตัวเองเป็นคู่ขัดแย้งใหม่ สร้างการเผชิญหน้ากับนักการเมือง และพรรคการเมืองโดยรวม เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์อะไร กับใคร ถ้าอยากสร้างการเมืองใหม่ให้หลุดพ้นจากของเดิม คงไม่ได้สร้างด้วยการทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่ม หรือมีคู่ขัดแย้งใหม่เกิดขึ้น หรือสร้างเงื่อนไขการเผชิญหน้าใหม่เกิดขึ้น " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
วานนี้ (14 พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม. ที่มีการระบุว่าจะโยก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไปเป็นรัฐมนตรี และให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ขึ้นเป็น ผบ.ตร. แทนว่า คุณอยากย้ายก็ย้ายเลย คุณจะได้เอา พล.ต.อ.ศรีวราห์ขึ้น คุณจะย้ายไหม เรื่องนี้ไม่ต้องให้ตนยืนยัน ก็ดูกันไป
เมื่อถามว่า ให้ดูไปหมายความว่า มีโอกาสใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี
เมื่อถามว่า ทำไมพล.ต.อ.จักรทิพย์ โดนเลื่อยขาเก้าอี้ตลอด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า บอกไม่ได้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนเลื่อย เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า มีการเลื่อยขาเก้าอี้จริงใช่ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถามอะไรไม่รู้ ไม่ได้เรื่อง ถามเลอะเทอะ
เมื่อถามว่า ท่านรองนายกฯ พูดกำกวมก็ต้องถามให้ชัดเจน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าอะไรกำกวม ไม่มีอะไรอ้ำอึ้ง กำกวม การที่บอกให้รอดูแล้วมันเป็นอย่างไร บอกให้รอดู ก็รอดูไป เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าคุณสมบัติของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ นั้นสามารถที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ดู เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตน เป็นหน้าที่ของนายกฯในการพิจารณา ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่านายกฯตัดสินใจอย่างไร
"ตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่หรือเปล่า แล้วนายกฯจะมาปรึกษาอย่างไร ผมจะอยู่หรือไป ยังไม่รู้เลย" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ส่วนที่มีกระแสข่าวที่มีรัฐมนตรีบางคน เตรียมเก็บของแล้วนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อเขียนกันไปเอง เก็บข้าวเก็บของ เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวท่านเอง ยังไหวหรือไม่ กับตำแหน่งรองนายกฯ ดูแลฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่รู้ ผมยังไม่รู้ตัวเลย" เมื่อถามย้ำว่า หมายถึง สุขภาพร่างกายยังสู้ไหวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ไม่รู้ยังไง ดูไม่ออกเหรอ สื่อดูออกไหม เมื่อถามว่าจะลาออกเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ชี้นิ้วพร้อมกับกล่าวว่า "ถามอย่างนี้ ไอ้ห่า สุขภาพผมยังไม่เป็นอะไร"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประวิตร นั่งในรถประจำตำแหน่ง เตรียมออกจากทำเนียบรัฐบาลได้ลดกระจกรถลง พร้อมกล่าวกับสื่อว่า ถามอะไร ไร้สาระ
** "ออมสิน"ยันไม่ได้เก็บของ
ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กระแสข่าวที่ว่าตนได้เก็บของที่ห้องทำงานแล้ว หลังจากนายกฯ จะมีการปรับครม.ว่า ไม่มีอะไร เห็นข่าวที่ออกมาก็ งงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ความจริงเรื่องเก็บของนั้น ตนเก็บตามนโยบาย 5 ส. ไม่ได้เป็นการเก็บของเพื่อเตรียมตัวออกจากครม. แค่เอาเอกสารที่หาไม่เจอในห้องเก็บของ ไปเรียงไว้ในลัง และไม่ได้เพิ่งมาทำ แต่ทำมา 2-3 อาทิตย์แล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องผิดปกติเลย ยืนยันว่า ไม่มีสัญญาณใดๆทั้งสิ้น ตนก็ยังแปลกใจ ว่ามาเป็นข่าว เป็นเรื่องเป็นราวได้ยังไง
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้นายกฯ ยังไม่ได้มีการหารือกับตนเรื่องการปรับครม. และไม่เคยพูดว่าจะเป็นการปรับครม.ใหญ่ หรือเล็ก
**"ไก่อู" โต้ข่าวลือเปลี่ยนรมว.เกษตรฯ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กระแสข่าวการปรับครม. ซึ่งมีการแรงกดดันไปที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลมีงบประมาณในการแก้ไขปัญหาอยู่จำนวนหนึ่ง แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้ให้ใช้งบส่วนนี้ในการแก้ไขปัญหาใดๆ เลย โดยใช้เงินเกือบทั้งหมดให้กับเกษตรกรผู้ที่รายได้น้อย ด้วยกลวิธีต่างๆ ไม่สนใจกลไกตลาด ขอเพียงให้เกษตรกรได้มีเงินใช้
แต่รัฐบาลนี้ไม่ทำเช่นนั้นเราพยายามแบ่งงบประมาณเพื่อพัฒนาประเทศ และอีกส่วนเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งแนวทางนี้อาจไม่โดยใจ เหมือนโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่ผ่านมา นี่จึงเป็นปัญหาของรัฐบาล ที่ต้องการทำโครงการเพื่อความยั่งยืน
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงความร่วมมือของประชาชน ในการตอบคำตอบ 6 ข้อ ว่าไม่ได้สนใจว่าประชาชนจะมาตอบมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ยืนยันไม่ได้มีการเกณฑ์คนมาตอบคำถาม ตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ ส่วนที่ 6 คำถามถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะคำถามข้อ 2 ที่ระบุว่า คสช.มีสิทธิ์ที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ตนไม่ได้คิดแบบนั้น แต่นายกฯคงอยากทราบว่า ประชาชนคิดอย่างไร และที่นักการเมืองออกมาวิจารณ์ เรื่อง 6 คำถามจำนวนมากนั้น เราจะไปห้ามได้อย่างไร
เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาวิจารณ์อย่างรุนแรง ว่าเป็นคำถามที่ไม่ให้เกียรตินักการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงมองกันคนละแง่ แต่เราไม่ได้ถามนักการเมือง เมื่อถามว่าการที่ นายอนุทิน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ จะเป็นการผลักมิตรให้เป็นศัตรู หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คสช.ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร เป็นมิตรกับทุกคน ทุกพรรค และตอนนี้เรายังไม่ได้สนับสนุนพรรคใด ยังไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า 6 คำถาม เป็นการหยั่งเสียงประชาชน หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ สื่อต้องไปถามนายกฯ แต่นายกฯไม่ได้ตั้งพรรคการเมือง เมื่อถามว่าการตั้งคำถาม 4 ข้อ และ 6 ข้อ เป็นการปูทางสู่การเมืองของคสช. หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อก็มองไป แต่ทำไมไม่มองกันแบบบริสุทธิ์ใจบ้างว่า นายกฯ ต้องการรู้จากประชาชน ต้องการฟังเสียงประชาชน ว่าคิดเห็นอย่างไรเท่านั้น
** วันแรกมีคนตอบคำถามเกือบ2หมื่น
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า วันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่เปิดรับคำตอบจากประชาชน ปรากฏว่า มีคนมาแสดงความเห็น 19,580 คน ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังไม่มีการสรุปเนื้อหา ว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ใครที่จะไปตอบคำถามของนายกฯ ให้เดินทางไปได้ ตามจุดที่กระทรวงมหาดไทย กำหนดไว้
ส่วนกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งข้อสังเกตว่า มีการเกณฑ์คนมาตอบคำถามนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ พูดหลายประเด็น หากเป็นเรื่องที่จะเสนอแนะท่านนายกฯ ก็ให้ไปคุยกับท่านนายกฯเอง แต่ตนขอชี้แจงเรื่องที่ นายอภิสิทธิ์ บอกว่ามีการเกณฑ์คนนั้น ขอยืนยันว่า ประชาชนมาด้วยความสมัครใจ และต้องแสดงตนด้วยตัวเอง
"ไม่มีการสั่งการ หรืออำนวยการอะไร ใครทำถือว่ามีความผิด ไม่มีนโยบายให้เกณฑ์คน ไม่ต้องการรู้มาก หรือรู้น้อย ประชาชนมาแค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ต้องการแห่แหนเกณฑ์คนคาดหวังต้องมามาก มาน้อย ไม่มี ทำใจให้สบายๆ สื่อก็ไม่ต้องมาถามว่าคนมาบางตาหรือหนาตา" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
** 6 คำถามทำคสช.เป็นคู่ขัดแย้งใหม่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกมายืนยันว่า ไม่มีการระดมคนไปตอบคำถาม 6 ข้อ ของนายกฯ ว่า ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชน และแวดวงราชการ ว่า มีการสื่อสารทางไลน์ ให้จัดคนไป หากไม่ใช่นโยบายของกระทรวงมหาดไทย ก็ขอให้พูดให้ชัดว่า อย่าทำอย่างนี้ เพราะลำพังการตั้งคำถาม และใช้กลไกแบบนี้ ก็ไม่เป็นวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว เนื่องจากคนที่รู้ว่า คำตอบจะไม่เป็นที่ถูกใจ ก็คงไม่นำบัตรประชาชนไปแสดงตัวเพื่อตอบคำถาม
"ที่ท้วงติงเรื่อง 6 คำถามของนายกฯ นั้นไม่ได้ลงรายละเอียดในตัวคำถาม แต่ไม่อยากให้ คสช.นำตัวเองเป็นคู่ขัดแย้งใหม่ สร้างการเผชิญหน้ากับนักการเมือง และพรรคการเมืองโดยรวม เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์อะไร กับใคร ถ้าอยากสร้างการเมืองใหม่ให้หลุดพ้นจากของเดิม คงไม่ได้สร้างด้วยการทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่ม หรือมีคู่ขัดแย้งใหม่เกิดขึ้น หรือสร้างเงื่อนไขการเผชิญหน้าใหม่เกิดขึ้น " นายอภิสิทธิ์ กล่าว