นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึงการประชุมกกต. เมื่อวันที่13พ.ย. ที่ผ่านมาว่า มีมติมอบให้รักษาการเลขาธิการกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ตอบหนังสือสอบถามของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย เป็นเอกสารทางการกลับไปยัง 2 พรรค และจะประกาศผ่านเว็บไซต์ ของสำนักงานกกต. ซึ่งอยากให้ พรรคการมืองต่างๆได้เข้าไปอ่านศึกษาคำตอบเหล่านั้น เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาที่ยื่นหนังสือถามมา ก็จะมอบเลขาธิการ กกต. ตอบภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
"คำตอบที่กกต.ให้เลขาฯกกต. ตอบ จะเป็นคำตอบสุดท้าย ซึ่งดีแล้วที่พรรคการเมืองสงสัยอะไรก็ถามมา เพราะกกต. มีหน้าที่ตอบ และไม่เคยรำคาญที่จะตอบ รวมทั้งไม่คิดจะเป็นฏษณผูฏมัดกกต. หากมีการร้องการปฏิบัติของพรรคในอนาคต แต่การตอบปากเปล่าอาจพลาดได้ จึงให้มีเอกสารเป็น คำตอบและเผยแพร่ในเว็บไซต์ ถ้าทำตามคำตอบ กกต.แล้วเป็นผลเสีย พรรคการเมืองมีสิทธิมาต่อว่ากกต.ได้ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบ"
ส่วนการออกระเบียบ และประกาศกกต. ที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ประชุมกกต.ยังไม่ได้หารือ แต่เชื่อว่าทันกรอบเวลา 60 วัน เพราะยังเหลืออีก 2 สัปดาห์
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ระบุถึงเหตุผลที่ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง ว่า เพราะยังไม่มีเลขาธิการ กกต. ที่จะเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงทำให้การดำเนินการล่าช้า ว่า ยืนยันว่าแม้ปัจจุบันจะเป็นรักษาการเลขาธิการกกต. บุคคลดังกล่าวก็เป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองตัวจริง จึงไม่ต้องกังวล โดยที่ประชุมกกต. ก็ให้สำนักงานไปเร่งรัดในเรื่องการประกาศเปิดรับสมัครให้ได้ภายในวันที่ 1ธ.ค.นี้ และให้มีการสมัครตลอดทั้งเดือน โดยกระบวนการคัดเลือกก็ดำเนินไป แต่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเลือกใครจะเป็นเลขาฯกกต.นั้น กกต.ชุดนี้ไม่ประสงค์จะเป็นผู้เลือก จะรอชุดใหม่ลงมติเลือกเอง
"ตามมารยาท ถ้ากกต.ชุดนี้เลือกอาจไม่เหมาะสม แต่ถ้ารอ กกต.ใหม่มาดำเนินการรับสมัครตั้งแต่ขั้นต้นเลยอาจล่าช้า"
นอกจากนี้ที่ประชุมก็ได้พูดคุยถึงการที่รัฐบาลจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า เห็นควรที่สำนักงานจะส่งคำร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และแม้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. จะระบุว่า กกต.มีอำนาจจัดเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังควรที่ กกต.จะยื่นตีความเพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งขณะนี้คำร้องที่ปรึกษากฎหมายของกกต.ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว และน่าจะเข้าที่ประชุมกกต.ในครั้งหน้า ก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์นี้
"คำตอบที่กกต.ให้เลขาฯกกต. ตอบ จะเป็นคำตอบสุดท้าย ซึ่งดีแล้วที่พรรคการเมืองสงสัยอะไรก็ถามมา เพราะกกต. มีหน้าที่ตอบ และไม่เคยรำคาญที่จะตอบ รวมทั้งไม่คิดจะเป็นฏษณผูฏมัดกกต. หากมีการร้องการปฏิบัติของพรรคในอนาคต แต่การตอบปากเปล่าอาจพลาดได้ จึงให้มีเอกสารเป็น คำตอบและเผยแพร่ในเว็บไซต์ ถ้าทำตามคำตอบ กกต.แล้วเป็นผลเสีย พรรคการเมืองมีสิทธิมาต่อว่ากกต.ได้ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบ"
ส่วนการออกระเบียบ และประกาศกกต. ที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ประชุมกกต.ยังไม่ได้หารือ แต่เชื่อว่าทันกรอบเวลา 60 วัน เพราะยังเหลืออีก 2 สัปดาห์
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ระบุถึงเหตุผลที่ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง ว่า เพราะยังไม่มีเลขาธิการ กกต. ที่จะเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงทำให้การดำเนินการล่าช้า ว่า ยืนยันว่าแม้ปัจจุบันจะเป็นรักษาการเลขาธิการกกต. บุคคลดังกล่าวก็เป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองตัวจริง จึงไม่ต้องกังวล โดยที่ประชุมกกต. ก็ให้สำนักงานไปเร่งรัดในเรื่องการประกาศเปิดรับสมัครให้ได้ภายในวันที่ 1ธ.ค.นี้ และให้มีการสมัครตลอดทั้งเดือน โดยกระบวนการคัดเลือกก็ดำเนินไป แต่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเลือกใครจะเป็นเลขาฯกกต.นั้น กกต.ชุดนี้ไม่ประสงค์จะเป็นผู้เลือก จะรอชุดใหม่ลงมติเลือกเอง
"ตามมารยาท ถ้ากกต.ชุดนี้เลือกอาจไม่เหมาะสม แต่ถ้ารอ กกต.ใหม่มาดำเนินการรับสมัครตั้งแต่ขั้นต้นเลยอาจล่าช้า"
นอกจากนี้ที่ประชุมก็ได้พูดคุยถึงการที่รัฐบาลจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า เห็นควรที่สำนักงานจะส่งคำร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และแม้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. จะระบุว่า กกต.มีอำนาจจัดเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังควรที่ กกต.จะยื่นตีความเพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งขณะนี้คำร้องที่ปรึกษากฎหมายของกกต.ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว และน่าจะเข้าที่ประชุมกกต.ในครั้งหน้า ก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์นี้