ทุกวันสุดท้ายของเดือนตุลาคม คือ 31 ตุลาจะมีการเฉลิมฉลองรื่นเริงกับการจบสิ้นของฤดูเก็บเกี่ยวด้านเกษตรกรรม และก่อนถึงวันที่ 1 พฤศจิกา ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองนักบุญทุกๆ องค์ (All Saint’s Day) ในคริสต์ศาสนา โดยได้ถือปฏิบัติกันในหลายประเทศในยุโรปมาเป็นเวลานานมาก และต่อมาได้แพร่หลายในชุมชนยุโรปที่อพยพมาตั้งรกรากในทวีปอเมริกา
บางแห่งเชื่อว่า เป็นวันที่เปลี่ยนฤดูกาล และฟ้าจะเปราะบางจนทำให้พวกภูตผีปิศาจสามารถฝ่าเข้ามาในโลกมนุษย์ได้ จึงมีธรรมเนียมแต่งกายเป็นผีประเภทต่างๆ เพื่อหลอกผีตัวจริงไม่ให้เข้ามาทำร้ายจะเรียกว่าเป็นวันปล่อยผีก็ไม่ผิดนัก
เมืองต่างๆ ในยุโรป และในสหรัฐฯ ได้เริ่มจัดงานรื่นเริงสนุกสนาน ถือเป็นการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ผู้คนมาดื่ม, มากิน, มาเที่ยว และประกวดแต่งชุด (Costumes) แบบผีๆ หรือสวมใส่เสื้อผ้าสีฟักทองที่สุกเหลืองอร่ามเพิ่งเก็บมาจากท้องทุ่ง แล้วเอามาแกะสลักตกแต่งให้เป็นหน้าผีตาโบ๋ มีการจุดเทียนไว้ข้างใน ให้ดูหน้าตาเป็นผีๆ เอาไว้หลอกผี (หรือหลอกสาวๆ) ให้น่ากลัวเล่นๆ
ที่เมืองแอนนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ มีการจัดขบวนแห่ยิ่งใหญ่ฉลองวันฮาโลวีนเป็นปีที่ 93 แล้ว และตามเมืองใหญ่ๆ แทบทุกเมืองถือโอกาสจัดงานมีขบวนแห่ทั้งนั้น เพื่อฉลองหลังเก็บเกี่ยว ไม่ว่าจะเป็นชิคาโก, แอตแลนตา, นิวออร์ลีนส์ หรือคีเวสต์ (ของฟลอริด้า) ด้วย
หลังๆ มานี่ ทางเมืองนิวยอร์กก็จัดขบวนแห่ใหญ่โต ปีนี้จะเป็นปีที่ 44 แล้วสำหรับงานยักษ์ที่จัดขึ้นทางตอนใต้ของเกาะแมนฮัตตัน ที่หมู่บ้านกรีนนิช (Greenwich Village)
เด็กๆ ที่สหรัฐฯ จะรอคอยวันฮาโลวีนที่พวกเขาจะได้แต่งชุดฮาโลวีนล้อเลียนภูตผี หรือแต่งเป็นฟักทองและตัวละครสำคัญๆ ในละครทีวีที่เขาชอบ พวกเด็กๆ จะไปเล่นสนุก แลกขนมหวาน บางทีมีหน้ากากดาราที่ชอบมาแทนหน้ากากผี และหน้ากากผู้นำอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ (หรือโอบามา หรือฮิลลารี) ก็จะขายดีทีเดียว บางทีมีการสำรวจว่า หน้ากากคนดังๆ ของใครขายดีที่สุดด้วย และสำหรับปธน.ทรัมป์นั้น ผมสีฟักทองของเขาจะเข้าได้ดีเยี่ยมกับวันฮาโลวีน
แต่สำหรับวันฮาโลวีนปีนี้ (ค.ศ. 2017) กลับต้องมีข่าวร้ายสุดๆ สำหรับเมืองนิวยอร์ก เพราะนิวยอร์กกลับถูกผู้ก่อการร้ายโจมตีชนิดงงกันไปเลยว่า ทำไมนิวยอร์กที่เคยถูกโจมตีครั้งใหญ่สุดคือ 9-1-1 เมื่อ 16 ปีที่แล้ว และได้หาทางป้องกันอย่างสุดฤทธิ์ ก็จะคงมีช่องโหว่ให้ถูกโจมตีจนได้ ด้วยวิธีการโจมตีที่ป้องกันได้ยากที่สุด นั่นคือ การใช้รถยนต์ขับวิ่งเข้าชนผู้คน (ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย) ตามท้องถนนและต้องตายลง ทั้งๆ ที่ไม่ได้แม้แต่จะรู้จักหรือโกรธแค้นอะไรกับผู้ก่อการร้าย โดยถือเป็นการแก้แค้นที่ประเทศของตนถูกตะวันตกโจมตี
เหตุการณ์สยดสยองครั้งนี้ เกิดขึ้นเวลาบ่าย 3 โมงเย็น ก่อนหน้าขบวนแห่ (Halloween Parade) จะเกิดขึ้นเพียงประมาณ 2 ชั่วโมง ได้มีกระทาชายเชื้อสายอุซเบก (Uzbek) ซึ่งอพยพมาจากประเทศอุซเบกิสถาน (อยู่ในเอเชียกลาง-เคยเป็นประเทศบริวารของอดีตสหภาพโซเวียต-และมีพวกมุสลิมที่นิยมความรุนแรงอาศัยอยู่มาก) อายุ 29 ปี ได้มาพำนักอยู่ในสหรัฐฯ ได้ 7 ปีแล้ว (เข้ามาเมื่ออายุ 22-เป็นวัยที่อยู่ในกลุ่มที่มักเป็นเป้าหมายของ ISIS ที่จะล่ามาเป็นสมาชิกคือ วัยรุ่น 13-20 ปีโดยประมาณ) เขามีบ้านเลขที่ถาวรที่รัฐฟลอริดา แต่ได้มีที่อยู่พำนักชั่วคราวที่รัฐนิวเจอร์ซีด้วย ชื่อของเขาคงไม่สำคัญที่จะบันทึกไว้
เขาได้ไปเช่ารถกระบะที่นิวเจอร์ซี แล้วขับตะลุยข้ามสะพานมายังเกาะแมนฮัตตัน แล้วบึ่งรถลงไปทางตอนใต้ของเกาะ ใกล้ๆ กับบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ 9-1-1 (และไม่ไกลจากหมู่บ้านกรีนนิช) ที่จะมีขบวนแห่โดยรถกระบะของเขาได้เข้าไปในถนนสำหรับรถจักรยานและคนเดิน ได้ชนจักรยานที่มีคนขับขี่ขวักไขว่ เพราะเป็นวันธรรมดาไม่ใช่วันหยุด และเด็กนักเรียนก็เพิ่งเลิกเรียนกำลังจะกลับบ้าน รถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วและชนคนขี่จักรยานล้มลง รถจักรยานก็บี้เละพร้อมผู้ขี่ ยอดเสียชีวิตขณะที่เขียนนี้อยู่ที่ 8 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 คนโดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 20 คน ยอดผู้เสียชีวิตอาจไม่หยุดนิ่งต้องติดตามต่อ
ทั้งผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก และนายกเทศมนตรีนิวยอร์กออกมาประณามการกระทำก่อการร้ายนี้ แต่ก็ได้พูดให้กำลังใจชาวนิวยอร์กว่าจะสามารถฝ่าข้ามไปได้เหมือนกับหลายๆ ครั้งที่เมืองนี้ถูกโจมตี โดยเฉพาะเหตุการณ์ 9-1-1 เมื่อ 16 ปี นั่นหมายถึงชาวนิวยอร์กจะต้องเข้มแข็งและพยายามสู้กับการก่อการร้าย โดยกลับมามีชีวิตที่ปกติให้ได้
สำหรับงานแห่ Halloween ที่หมู่บ้านกรีนนิช ก็จะเดินหน้าต่อไปตามแผน แม้ผู้คนร่วมงานอาจน้ำตารินกับเหยื่อที่ต้องตายไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเริ่มงานฉลอง และทั้งผู้ว่าการรัฐ และนายกเทศมนตรีออกเดินนำหน้าขบวนแห่อย่างเข้มแข็ง
ผู้ปฏิบัติการครั้งนี้ ปรากฏว่ารถกระบะของเขาไปเสยเข้ากับรถโรงเรียนจนทำให้รถทั้ง 2 เยินไปเลย เจ้าตัวคนขับรถกระบะก็เลยลงมาจากรถ มือถือปืนทั้ง 2 ข้าง (เป็นปืนปลอมไม่ใช่ปืนจริง) แล้วถูกตำรวจนิวยอร์กยิงเข้าที่ท้องลงไปนอนพื้น จับส่งรพ.เข้าใจว่าเขาอยากให้ตำรวจยิงให้เขาตาย โดยควงปืนปลอมนั่นเอง
เหตุการณ์นี้เข้าทางปธน.ทรัมป์ ที่เป็นสิงห์จอมทวิตรีบส่งข้อความ 3 ทวิตทันทีว่า สหรัฐฯ จะต้องไม่ยอมให้พวกไอซิสเข้ามาทำร้ายคนอเมริกันที่บ้านคือ นโยบายปิดกั้นคนมุสลิมจาก 6 ประเทศที่เขาประกาศห้ามเข้านั้นถูกต้องแล้ว
เพียงแต่ประเทศอุซเบกิสถานไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศที่ทรัมป์ประกาศห้ามเข้า (รายชื่อส่วนใหญ่เป็นประเทศในตะวันออกกลาง) และนายอุสเบกคนนี้ก็มาจากฟลอริดา (หรือนิวเจอร์ซี) คือมาจากภายในประเทศอเมริกานั่นเอง!!
ทรัมป์ได้เสียงระฆังใบใหญ่มาช่วยไว้ เพราะอัยการพิเศษมัลเลอร์กำลังเริ่มต้นออกหมายเรียกผู้ใกล้ชิดกับทรัมป์ที่พัวพันกับการแทรกแซงการเลือกตั้งปธน.มาสอบสวน เป็นข่าวใหญ่มากที่ส่งผลเสียต่อทรัมป์ ก็มีเรื่องก่อการร้ายนี้มากลบพอดี