xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** อ้างเสียบรรยากาศ!! “น้องตู่”ให้ท้าย “พี่ป๊อก”ไม่ต้องโต้ปม“เครื่องจับซิ่งฝังเพชร”เจ้าตัวมีหน้าบอก รอจัดซื้อเสร็จค่อยว่ากัน ทั้งที่มีวีรกรรม“เรือเหี่ยว-ไม้ล้างป่าช้า” ซื้อมาทิ้ง ประจานทนโท่

ถูกกว่าเดิม .. ไม่แพงเกินจริง คือคำการันตีของ “เสือป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต่อข้อวิจารณ์โครงการจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา 849 เครื่อง วงเงิน 573 ล้านบาทเศษ ตกเครื่องละ 6.75 แสนบาท ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่มีคำถามระงมถึง“ความจำเป็น-ราคาแพงเกินจริง” ..แถมเจ้าของวีรกรรม “เรือเหี่ยวบุโรทั่ง”และ “ไม้ล้างป่าช้า จีที 200”ที่เป็นตราบาป ก็การผลาญงบประมาณแผ่นดินป่นปี้ ทำท่าตีอกชกลม ท้าทาย ใครซื้อได้ถูกกกว่า มาเลย อย่าไปพูดข้างนอก .. อ้าว !! ก็เครื่องสเปกที่ ปภ.ตั้งเรื่องมาน่ะ “เต็มที่หลักหมื่น”อย่างที่ “ตำรวจรัฐเวอร์จิเนีย”เพิ่งซื้อได้ 8.5 หมื่นบาทไทย ต่อเครื่อง .. “เสือป๊อก”ยังมีหน้า“แตะเบรก”ว่า อย่าเพิ่งด่ากัน ตอนนี้ยังไม่ได้จัดซื้อ“เครื่องจับซิ่งฝังเพชร”ที่ว่า ขั้นตอนยังมีอีกแยะ แถมยังมีหน้าบอกว่า รอซื้อมาแล้วก็ค่อยไปวิพากษ์ตอนนั้น ประมาณว่าแค่“พรีออเดอร์”เอง ยังไม่มีสิทธิ์พรีวิวสินค้า ..
นั่นแน่!! ไม่หลงกลง่ายๆ หร๊อก คนไทยเจ็บมาเยอะแล้วกับคำว่า รับก่อนแก้ทีหลัง หรือ ซื้อมาก่อนค่อยว่ากัน ..“ท่านป๊อก”ก็พูดปัดส่งเดช ไม่เช็กเครดิตตัวเองเลย ดูเจ้า“เรือเหี่ยวบุโรทั่ง”นั่นสิ โดนปลดประจำการ ทั้งที่ไม่ได้ใช้งาน ผลาญงบไปเป็นพันล้าน ที่สุด“ป๋าป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. พูดไม่สะทกสะท้านว่า “ตอนแรกก็คิดว่าดี”.. เจอคำตอบ“กำปั้นทุบดิน”แบบนี้เข้าไปก็เข็ดสิครับเจ้านาย .. ถามว่าไม่ดักคอตอนนี้ จะให้สรรเสริญเยินยอหรือไงไม่ทราบ พี่เล่นตั้ง “ราคากลาง”ตีโป่งไว้เกือบ 10 เท่า แบบนี้ไม่ได้“เผื่อขาด”แต่คงเป็นราคากลางประเภท“เผื่อเหลือ”เอาไว้ปั้น “งบลับ”ที่รู้กันระดับบิ๊กว่า “งบรับกลับบ้าน”รึป่าว ..
เห็นว่า“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปให้ท้าย“บราเธอร์ส ป๊อก”ในที่ประชุม ครม.ประมาณว่า ไม่ต้องตอบโต้อะไร อ้างมาได้“ไม่อยากเสียบรรยากาศ”ก็คงหมายถึงช่วงเวลาสำคัญตอนนี้ .. “ท่านผู้นำ”คงสำคัญผิดไปหน่อย ก็สิ่งที่สังคมติติงไปนั้น ควรนำมาซึ่ง“คำชี้แจง”หาใช่“คำตอบโต้”..ที่คนด่ากันขรมเมือง เทียบสเปก-หาราคากลางให้เสร็จสรรพ สิ่งที่“ผู้นำรัฐบาล”ควรทำคือ ทำเรื่องผิดให้เป็นถูก สั่งให้ทบทวน โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ได้เร่งด่วนคอขาดบาดตายอะไรเลย มิใช่ “ให้ท้าย”ด้วยการอ้างเรื่องไม่สมควรอย่างนี้ .. แล้วเรื่องผลาญงบตะบี้ตะบัน กับอะไรที่ใช้งานไม่ได้ว่าแย่แล้ว ที่ไม่น่าให้อภัยมากกว่าก็ผลพวงที่ตามมาจากสินค้าเฮงซวย อย่าง“ ไม้ล้างป่าช้า จีที 200”ที่ระดมลงไปใช้ในพื้นที่ละเอียดอ่อน ชายแดนภาคใต้ ว่ากันว่าเป็น“หัวเชื้อ”ที่สุมให้ไฟใต้ดับไม่ลงมาถึงตอนนี้ ด้วยเครื่องที่ไร้มาตรฐาน ตรวจจับอะไรไม่ได้ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด คิดว่าเจ้าหน้าที่รัฐไปกลั่นแกล้ง จาก“คนนอกขบวนการ”เลยแปรเปลี่ยนเป็น“ผู้ก่อความไม่สงบ”เพียบเลย จริงไหมนะ “ท่านมท.ป๊อก” ..

** กลืนน้ำลายอีกแล้ว!! “ลุงตู่”ผวา “น้องน้ำ”ผละมือ“กรมทรัพยากรน้ำ”กลางวิกฤต ทั้งที่เจอแค่หางๆ มรสุมไม่ได้ครึ่ง“มหาอุทกภัย”เมื่อปี 2554 ยังเอาไม่อยู่ แถมน่าเป็นห่วงเหลือบจ้องเขมือบ“งบภัยพิบัติ - งบเยียวยา”ทุบเรตติ้งที่ต่ำตม อีกต่างหาก

ไม่ชิลล์อย่างที่คิดกันแฮะ.. ประเทศไทยเข้าสู่ “เหมันตฤดู”หน้าหนาวอย่างเป็นทางการ ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาแล้ว แต่หลายพื้นยังประสบปัญหาน้ำท่วมไม่คลี่คลาย ..บางแห่งสภาพไม่ต่าง“มหาอุทกภัย”ปี54 หลังสารพัดมรสุม“สะบัดหาง”มาส่งผลกระทบกับพื้นที่ประเทศไทย ช่วงปลายฝน ต้นหนาว .. ที่วิกฤตหนักคงเป็น“พื้นที่ใต้เขื่อนเจ้าพระยา”ที่มีการระบายน้ำกันอย่างหนัก เห็นว่ามีอย่างน้อย 12 ทุ่ง ในพื้นที่ภาคกลาง ที่ต้องทำใจรับสภาพเป็น“แก้มลิง”อยู่ในขณะนี้ หรือหลายพื้นที่ในภาคอีสาน ก็หนักหน่วงไม่แพ้กัน .. เรื่องเฉพาะหน้า หน้าที่หลักของรัฐบาลคงต้องเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ระบายน้ำโดยไว จนทำให้กำลังทหารหลายหน่วย ทุกวันนี้ไม่ใช่รบเป็นอาชีพ แต่เป็นมืออาชีพเรื่องช่วยน้ำท่วมไปแล้วด้วยซ้ำ ..
ทว่า “น้องน้ำ”มาแค่เบาะๆ “รัฐบาล คสช.”ก็ขนลุกชูชัน ทำท่าจะ“เอาไม่อยู่”เหมือนกัน ล่าสุดเห็นว่า“กลืนน้ำลาย”ล้มเลิก คำสั่ง คสช. ที่เคยดึง กรมทรัพยากรน้ำ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักนายกฯ เสียแล้ว .. และย้อนกลับไปปัดฝุ่นไอเดียเก่า ในการตั้ง สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการทั้งระบบที่เคยพูดกันมาหลายปีแทน .. นัยว่า สถานการณ์ไม่สู้ดี ก็เลยขอกระจายเสียงด่า ไม่ให้มุ่งมาโจมตี“กล่องดวงใจ”อย่างสำนักนายกฯ อันหมายถึง“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่เพียงผู้เดียว รอพ้นวิกฤตไปก่อน แล้วว่ากันใหม่ ..
หลังผ่านวิกฤตไปนี่สิ น่าสนใจ “หนังชีวิต”ในท้องเรื่อง “หากินบนคราบน้ำตา”กำลังจะจ่อเข้าโรง .. ตรงนี้คือ ภาระหนักของหน่วยงานภาครัฐ “เสนาบดีรัฐบาลท๊อปบูต”หลายกระทรวงที่วางตาไม่ได้ก็ประเภทใช้“สถานการณ์บังหน้า”หาเรื่องละเลงงบฯ ยักเข้ากระเป๋า มีให้เห็นมาทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะฝน จะหนาว จะแล้ง .. ท่ามกลางความทุกข์ของชาวบ้านก็เป็น“โอกาสอันโอชะ”ของ “บิ๊กๆ”ในการเตรียมชง “งบภัยพิบัติ - งบเยียวยา”เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน .. ในส่วนของ “งบภัยพิบัติ”จะถูกฝังไว้ที่หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย ที่มี“บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นเจ้ากระทรวง ที่จะดูไปถึง“งบเยียวยา”บ้านเรือนที่อยู่อาศัยบางส่วน .. ขณะที่ “พื้นที่การเกษตร”ส่วนใหญ่ก็จะเบิกจาก“งบกลาง”ประเภทฉุกเฉิน-จำเป็น ซึ่งเป็นอำนาจของ“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง .. ซึ่ง“งบเยียวยา”ส่วนใหญ่ก็จะมี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มี “บิ๊กฉัตร”พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นเจ้ากระทรวง ในส่วนของพื้นที่ทางการเกษตร .. ขึ้นชื่อว่า“งบภัยพิบัติ - งบเยียวยา” นี่แหละ ที่มีเสียงก่นด่าไล่หลังแทบทุกยุค มี“เงินหล่น-เงินทอน”เรี่ยราดรายทาง ไม่ถึงมือชาวบ้านจริงๆ หรือกว่าจะถึงมือก็เหลือแค่“ไม้ไอติม” ..หากปล่อยให้ซ้ำรอยอดีต “ละเลงงบ - ยักเข้ากระเป๋า" เป็นว่าเล่น คงไม่พ้นเรื่องฉาวโฉ่ เสียชื่อ “ลุงป๊อก - ลุงฉัตร”สองคีย์แมนข้างกาย“นายกฯตู่” ที่ต่างก็มีแผลกันอยู่แล้ว รัฐบาล
ทหารเรตติ้งไม่ผงกหัวมานาน ก็คงจะยิ่งทรุด ใกล้มีจุดจบ เวอร์ชั่น“บริวารเป็นพิษ - คนใกล้ชิดทำพัง”.

ช.ชฎา

รูป

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
กำลังโหลดความคิดเห็น