วานนี้ (23ต.ค.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผลการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียน ครั้งที่ 11 และผลการประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน กับรมว.กลาโหม ประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 4 ระหว่าง 22 -24 ต.ค. 60 ณ เมืองปัมปังกา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ว่าการประชุมครั้งนี้ มี พล.ต.เดลฟิน ลอเรนซานา รมว.กลาโหม ฟิลิปปินส์ เป็นประธาน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น และมีมิตรไมตรี โดย รมว.กลาโหมทั้ง 10 ประเทศสมาชิก และเลขาธิการอาเซียน ได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ด้านความมั่นคง และติดตามความคืบหน้า ของความร่วมมือทางทหารในภูมิภาคอาเซียน ที่ผ่านมา
ในที่ประชุมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวแสดงความซาบซึ้งใจจากทุกชาติสมาชิกอาเซียน ที่ได้จัดผู้แทนระดับสูงของรัฐบาล เข้าร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ต.ค.นี้ พร้อมทั้งได้นำเสนอให้ที่ประชุมรับทราบถึง พัฒนาการ และแผนงานในห้วงต่อไป ของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน ที่จัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงกลาโหมไทย
หลังการประชุม ที่ประชุมได้มีพิธีส่งมอบระบบการสื่อสารสายตรง ของประเทศสมาชิก ต่อจากนั้นได้ให้การรับรองเอกสาร แนวความคิดของความร่วมมือ ในกรอบการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียน และได้ลงนามในปฏิญญาร่วม ด้านความร่วมมือ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและการมีส่วนร่วมกับโลก มีสาระสำคัญโดยสรุป
เป็นการประกาศรับรองแผนปฏิบัติงาน 3 ปี ( 2560-2562 ) โดยเน้นการคงไว้ซึ่งความสงบสุข เสถียรภาพ ความปลอดภัย และอิสรภาพ ยึดมั่นในเสรีภาพในการเดินทาง ทั้งทางทะเล และทางอากาศ ในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ความจำเป็นต้องยับยั้งชั่งใจ ในกิจกรรมที่เป็นปัญหา การเคารพกฎหมาย และกระบวนการทางการทูต รวมทั้งการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัน
โดยสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและขีดความสามารถทางทหาร ตอบสนองต่อภัยพิบัติต่างๆด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน มีการส่งกำลังบำรุงร่วมกัน การปฏิบัติงานร่วมกันของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน รวมทั้งคงความต่อเนื่องของความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
ในที่ประชุมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวแสดงความซาบซึ้งใจจากทุกชาติสมาชิกอาเซียน ที่ได้จัดผู้แทนระดับสูงของรัฐบาล เข้าร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ต.ค.นี้ พร้อมทั้งได้นำเสนอให้ที่ประชุมรับทราบถึง พัฒนาการ และแผนงานในห้วงต่อไป ของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน ที่จัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงกลาโหมไทย
หลังการประชุม ที่ประชุมได้มีพิธีส่งมอบระบบการสื่อสารสายตรง ของประเทศสมาชิก ต่อจากนั้นได้ให้การรับรองเอกสาร แนวความคิดของความร่วมมือ ในกรอบการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียน และได้ลงนามในปฏิญญาร่วม ด้านความร่วมมือ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและการมีส่วนร่วมกับโลก มีสาระสำคัญโดยสรุป
เป็นการประกาศรับรองแผนปฏิบัติงาน 3 ปี ( 2560-2562 ) โดยเน้นการคงไว้ซึ่งความสงบสุข เสถียรภาพ ความปลอดภัย และอิสรภาพ ยึดมั่นในเสรีภาพในการเดินทาง ทั้งทางทะเล และทางอากาศ ในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ความจำเป็นต้องยับยั้งชั่งใจ ในกิจกรรมที่เป็นปัญหา การเคารพกฎหมาย และกระบวนการทางการทูต รวมทั้งการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัน
โดยสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและขีดความสามารถทางทหาร ตอบสนองต่อภัยพิบัติต่างๆด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน มีการส่งกำลังบำรุงร่วมกัน การปฏิบัติงานร่วมกันของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน รวมทั้งคงความต่อเนื่องของความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ