xs
xsm
sm
md
lg

30ชาติร่วมพิธี-ทอท.จัด2หมื่นเที่ยวบินรองรับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรประดับยอดพระเมรุมาศ วันนี้ (18 ต.ค.) กรมศิลปากรยึดต้นแบบการจัดสร้างฉัตรรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 8 ตามโบราณราชประเพณีงดงามสมพระเกียรติ "ดอน" เผย 30 ประเทศตอบรับร่วมพระราชพิธีฯ ทอท. เตรียมกว่า 2 หมื่นเที่ยวบินรองรับคนเดินทางร่วมพระราชพิธีฯ จำนวนกว่า 4.16 ล้านที่นั่ง ด้าน มท.1 ย้ำ พระเมรุมาศจำลอง-สถานที่วางดอกไม้จันทน์เรียบร้อย 100% "กษัตริย์จิกมี" โปรดเกล้าฯ จัดพิธีสวดมนต์ที่ภูฏาน ขณะที่ "บิ๊กตู่"ฝากประชาชนช่วยรัฐบาลดูแลความสงบเรียบร้อย

สำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 เวลา 17.00 น.ดังนี้

เวลา 17.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ถึงยังพระที่นั่งทรงธรรม พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง เมื่อรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หน้าพระที่นั่งทรงธรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร , พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ และพระยานมาศงานพระราชพิธีฯ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะกรรมการ เฝ้าฯรับเสด็จ

การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชอาสน์ที่หน้ามุขพระที่นั่งทรงธรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการฯ กราบบังคมทูลรายงาน และเบิกกรรมการสร้างพระเมรุมาศ จากนั้นเสด็จฯไปยังที่ประดิษฐานนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตร

ต่อมานายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ถวายสายสูตรยกนพปฎลมหาเศวตฉัตร (โหรหลวงลั่นฆ้องชัย ชาวพนักงานประโคม สังข์ แตร และดุริยางค์) เมื่อนพปฎลมหาเศวตฉัตรขึ้นสู่ยอดพระเมรุมาศแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสายสูตรคืนอธิบดีกรมศิลปากร รับไปผูกไว้ที่เสาบัว ก่อนเสด็จฯไปทอดพระเนตรพระที่นั่งทรงธรรมและพระเมรุมาศ ตามพระราชอัธยาศัย และเสด็จฯ กลับ

ด้านกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กอร. พระราชพิธีฯ) แถลงข่าวเรื่อง“พิธียกนพปฎลมหาเศวตฉัตรประดับพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ”ณ ศูนย์สื่อมวลชน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นางสาวศุภร รัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่าการจัดสร้างนพปฎลมหาเศวตฉัตร ประดับยอดพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะนี้เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว 100% โดยการออกแบบพระนพปฎลมหาเศรฉัตรได้นำต้นแบบจากพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 6 และพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 8 โดยดำเนินการจัดสร้างตามแบบโบราณราชประเพณีที่ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์ ตามความหมายคือ นพ แปลว่า เก้า เศวต แปลว่า ขาว ส่วนฉัตร คือ ร่มขาวที่กางทั้งหมด 9 ชั้น โดยการจัดสร้างนพปฎล มหาเศวตฉัตรครั้งนี้มีความพิเศษ คือมีขนาดใหญ่ มีความสูงตั้งแต่ส่วนปลียอดจนถึง ยอดสุด

ลักษณะของการทำฉัตร จัดทำด้วยผ้าเบาทิ้งตัวสีขาวมีขลิบทองรวมสามชั้น โดยนำผ้าสามผืนมาล้อมโครงในการขลิบทองเส้นขลิบของฉัตรชั้นล่าง มีความหนาที่สุด และแขวนประดับด้วยจำปา14 ช่อห้อยลงมาให้เกิดความสวยงาม? ที่สำคัญที่บริเวณส่วนยอดของฉัตรได้ดำเนินการตามแบบโบราณราชประเพณีคือนพปฎลมหาเศวตฉัตร ต้องมีลักษณะเป็นทรงองค์ระฆังจากนั้นเป็นบัวกลุ่ม คั่นด้วยลูกแก้ว บัวกลุ่มต่อด้วยปลีปลาย เป็นโลหะทองแดง กลึงรับ เพื่อต่อสายล่อฟ้าด้วย อย่างไรก็ตามการจัดสร้างครั้งนี้มีการใช้ตาข่ายพลาสติก ใส่ไว้ในโครงสร้างเพื่อเวลาที่ฉัตรเจอลมแล้วจะไม่ยุบช่วยทำให้การเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติและ ยังสามารถกลับมาอยู่ที่เดิมและไม่เป็นสนิม

**** ปิดการจราจรรอบสนามหลวง18ต.ค.นี้

นายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กอร.พระราชพิธีฯ แจ้งปิดการจราจร เพื่อจัดพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 โดยจะเริ่มปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนกระทั่งเสร็จพิธี ใน 16 เส้นทาง

ประกอบด้วย ถนนราชดำเนินใน ถนนหับเผย ถนนสนามไชย ถนนหลักเมือง ถนนกัลยาณไมตรี ถนนเจริญกรุง ถนนพระพิพิธ ถนนท้ายวัง ถนนมหาราช (ข้างพระบรมหาราชวัง/ข้างวัดพระมหาธาตุ) ถนนพระจันทร์ ถนนเศรษฐการ ถนนเชตุพน ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนราชินี และซอยสราญรมย์

*** 30 ประเทศตอบรับเข้าร่วมพระราชพิธีฯ

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึง การเชิญแขกสำคัญในต่างประเทศ ร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ต.ค. ว่า ขณะนี้ตัวเลขของแขกผู้เข้าร่วมงานยังไม่นิ่ง แต่มีการแจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานแล้วกว่า 30 ประเทศ คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก ขณะนี้ทางคณะอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร (กอร.พระราชพิธี) กำลังเตรียมการต้อนรับว่าจะต้อนรับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรัฐบาลที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวนี้ และยังไม่มีมอบหมายให้ใครดูแลเป็นหลัก

ส่วนประเด็นการส่งบัตรเชิญร่วมพระราชพิธีฯ จะเชิญไปยังทุกประเทศหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศไม่ได้ส่งหนังสือเชิญไป หากใครพร้อมก็สามารถมาได้ เพราะเขาคงทราบดีว่าในช่วงของพระราชพิธีฯ รัฐบาลและสำนักพระราชวังนั้นให้ความสำคัญกับประชาชนที่เข้ามาร่วมงานมากที่สุด ส่วนแขกต่างประเทศที่เข้ามาร่วมงานนั้นเราก็พร้อมที่จะให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

สำหรับความพร้อมในการจัดเตรียมสถานที่วางออกไม้จันทน์ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งในต่างประเทศนั้น ขณะนี้มีความพร้อมและอยู่ในขั้นตอนการประชุมของกระทรวงต่างประเทศ สำหรับเวลาการวางดอกไม้จันทน์จะจัดในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกับประเทศไทยหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเพราะถ้ายึดตามเวลาของประเทศไทย บางประเทศจะเป็นช่วงเวลากลางคืนแล้ว โดยเรื่องดังกล่าวนี้จะมีการแถลงข่าวเพื่อความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

*** พระเมรุมาศจำลอง เสร็จแล้ว 100%

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดงานถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ทั่วประเทศว่า การจัดการสร้างพระจิตกาธานของทุกจังหวัดรวมทั้งสิ้น 878 อำเภอ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในส่วนเขตอำเภอเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งพระเมรุมาศจำลอง เสร็จสิ้นแล้ว 100% ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 วัน สำหรับขั้นตอนต่อไปที่ต้องปฏิบัติก็คือการซักซ้อมการปฏิบัติงานและการเผาดอกไม้จันทน์ ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่ท้องสนามหลวง รวมถึงซุ้มต่างๆ อีกกว่า 100 ซุ้ม และพระเมรุมาศจำลอง 8 แห่ง มีความเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ทาง กทม.กำลังเตรียมการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางมายังซุ้มและพระเมรุมาศจำลอง

ส่วนการประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงเพื่อดูแลความปลอดภัยในช่วงพระราชพิธี พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ได้มีการทำงานร่วมกันโดยดำเนินการทุกอย่างไปตามมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุใดที่บ่งชี้ว่าจะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

***กษัตริย์จิกมี โปรดเกล้าฯ จัดสวดมนต์ที่ภูฏาน

สำนักราชเลขาธิการในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน ออกแถลงการณ์ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิธีสวดมนต์ที่บริเวณองค์พระใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา "คุนเซลโพดรัง" ในกรุงทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน ในวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2560 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก จะเสด็จเยือนไทยในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เพื่อทรงร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระสังฆราชแห่งภูฏานจะทรงเป็นประธานในพิธีสวดมนต์ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้คนไทยที่อาศัยและทำงานอยู่ในภูฏานและนักท่องเที่ยวชาวไทย เข้าร่วมในพิธีสวดมนต์--จบ--

*** "บิ๊กตู่" ฝากปชช.ดูแลความสงบช่วงพระราชพิธีฯ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวฝากถึงประชาชน ในช่วงเตรียมงานพระราชพิธีสำคัญ โดยเฉพาะนักการเมือง ที่ถูกมองว่าฉวยโอกาสในเวลาที่ไม่เหมาะสมว่า การเตรียมการในพระราชพิธีสำคัญ ได้ฝากถึงประชาชนนานแล้ว ใครที่ใช้ช่วงเวลาเหล่านี้ที่ไม่เหมาะสม สังคมก็ช่วยกันกดดัน ช่วยกันคุ้มครองด้วย อย่าให้ต้องใช้กฎหมายมากนักเลย สื่อก็ทราบกันอยู่แล้ว ก็ขออย่าให้เกิดปัญหาความไม่เรียบร้อยในประเทศขึ้นมากอีกในช่วงนี้ หรือในช่วงต่อไป และก็เป็นบทเรียน เพราะมีคนอาศัยช่องว่างต่างๆ ซึ่งต้องถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน ซึ่งสังคมต้องเรียนรู้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และไม่ควรจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ส่วนกรณีที่มีนักการเมือง ฉวยโอกาสนำงานพระราชพิธีทำกิจกรรมเชิงการเมืองนั้น เรื่องการเคลื่อนไหวที่มีการเชื่อมโยงภาคประชาชน นักการเมือง คงทราบดีกันอยู่แล้วว่า สิ่งที่เขาทำมันถูก หรือผิด สังคมรู้อยู่แล้ว คงไม่ต้องถามตน

"ขอบคุณทุกส่วน ขอบคุณประชาชน ในการร่วมแสดงความไว้อาลัย และการชมการฝึกซ้อมของเจ้าหน้าที่กองอำนวยการร่วม ซึ่งทุกคนทำได้อย่างเต็มที่ ฉะนั้น กรณีการรักษาความปลอดภัยทุกคนต้องช่วยกัน อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร แต่เพียงอย่างเดียว ทุกคนต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ดังนั้นใครที่คิดจะทำอะไรเหล่านี้ ถ้าเราไปให้ความสำคัญมากๆ เข้า เดี๋ยวเกิดทำอะไรขึ้นมา ซึ่งคนเหล่านี้ต้องถูกประณาม ถ้าใครทำให้สถานการณ์เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นมา ไม่ว่าจะใครทั้งสิ้น ผมขอประณามไว้ก่อนเลย ที่ทำให้สถานการณ์มีความวุ่นวายในช่วงนี้ หรือช่วงต่อไปก็แล้วแต่ สังคมต้องช่วยกันดูแล ประชาชนท่านบอกว่าเป็นเจ้าของประเทศ ท่านเป็นเจ้าของทุกเรื่องทุกอำนาจ ท่านก็ต้องออกมาช่วยผมในการทำงาน เพราะผมใช้อำนาจแทนท่านอยู่ในตอนนี้ ท่านต้องออกมาช่วยกัน แต่ต้องออกมาแบบไม่ให้เกิดความสับสนอลม่าน ไม่ออกมาเดินขบวนอะไรต่างๆ ต้องช่วยกันดู สังคมมันก็เรียบร้อยปลอดภัยเอง ถ้าไปซ้ายที ขวาที ก็เดินหน้าไม่ได้ รัฐบาลก็แย่ไปด้วย แล้วใครจะทำอะไรให้ท่าน ก็คงไม่มีใครทำ ถ้าคาดหวังวันข้างหน้าจะมาทำ เขาทำมาหลายสิบปีแล้ว ก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก โอเคนะ ผมไม่ได้ว่าใคร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

**สั่งเพิ่มกล้องวงจรปิดดูแลความปลอดภัย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่าตำรวจมีความพร้อมในการดูแล รักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.เป็นต้นไป ที่จะมีการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ บนพื้นที่จริง ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดการคัดกรองบุคคลที่เข้าพื้นที่ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรโดยรอบ ซึ่งจากการหารือร่วมกันกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการในที่ประชุมกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ให้ดูแลประชาชน ที่จะมาร่วมพระราชพิธี บริเวณพระเมรุมาศ ท้องสนามสนามหลวง รวมถึงพระเมรุมาศจำลอง และจุดวางดอกไม้จันทน์ต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมสั่งเพิ่มกล้องวงจรปิดให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด มั่นใจว่า จะดูแลความสงบเรียบร้อยในพระราชพิธีนี้อย่างเต็มที่ และยืนยัน จากการข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ขอให้ประชาชน ศึกษาการปฏิบัติตัวและเชื่อฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ปลอดภัย

*** จัด 2 หมื่นเที่ยวบินรับคนร่วมพระราชพิธีฯ

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่ง ทอท.ได้คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ระหว่างวันที่ 23-31 ตุลาคม 2560 มีเที่ยวบินแจ้งขอทำการบินประมาณ 20,400 เที่ยวบิน และมีความจุที่นั่งสามารถรองรับผู้โดยสารเดินทางได้ประมาณ 4.16 ล้านที่นั่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น