xs
xsm
sm
md
lg

สำรวจเล้าไก่อีกรอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


คงเป็นเรื่องปกติธรรมดา...สำหรับ “เล้าไก่” บ้านเราในช่วงนี้ ที่บรรดาไก่แต่ละตัวเริ่มขยับปีก ขยับหาง ลับปาก ลับเดือยไปเป็นระยะ ด้วยเหตุเพราะกำหนดการเลือกตั้งค่อนข้างชัดเจนขึ้นมาตามลำดับ ถ้าว่ากันตามคำพูดของ “บิ๊กตู่” ก็ไม่น่าจะเกินเลยช่วงเดือนพฤศจิกายนปีหน้า ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ประมาณ 1 ปี จะว่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย โดยเฉพาะสำหรับนักการเมือง เลยคงต้องมีการวอร์มอัพ ต้องหันมาโก่งคอร้องกระต๊ากๆ กันเอาไว้มั่ง...

แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหากทะเล่อทะล่า สุ่มสี่สุ่มห้า ไม่เหลียวหน้า เหลียวหลัง ดูรอบๆ ข้างให้ชัดเจนซะก่อน โอกาสที่จะเกิดอาการหงอนบวม ปีกหัก เดือยหลุด อย่างเช่นกรณีคุณหญิง “เจ๊สุดาหน่อย” ก็ต้องถือเป็นอุทาหรณ์ เป็นอนุสติ ที่บรรดานักการเมือง ตลอดไปจนถึงชาวยุทธ์ทั้งหลาย พึงต้องเก็บรับมาเป็นตัวอย่าง เป็นบทเรียนเอาไว้ให้จงหนัก ไม่งั้นโอกาสที่จะเกิดฉากสถานการณ์ “แต่ช้าแต่...เค้าแห่ยายมา...พอถึงศาลา เขาก็วางยายลง” ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

ด้วยเหตุเพราะโลกยุคนี้ สังคมยุคนี้ อะไรต่อมิอะไรมันกลายเป็น “อินเทอร์เน็ต” ไปซะหมด เผลอไป “โชว์โง่” ขึ้นมาเมื่อไหร่ แม้แต่แค่นิดเดียวเท่านั้นเอง โอกาสที่จะตายซ้ำ ตายซาก ตายหยังเขียด แทบไม่เหลือโอกาสได้ผุด ได้เกิด ย่อมเป็นไปได้ทุกเมื่อ และนอกเหนือไปจากความไว ความแรง ความแผ่ซ่าน กว้างขวาง ภายใต้โลกยุคอินเทอร์เน็ตแล้ว ฉากสถานการณ์การเมืองโดยเฉพาะสังคมไทยนับจากนี้เป็นต้นไป ยังเต็มไปด้วยความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เคลือบคลุม เคลือบแคลง ชนิดจะเอาแค่มาตรฐานเก่าๆ สัญชาตญาณเก่าๆ หรือเคล็ดวิชาเก่าๆ มาใช้สร้างชื่อ สร้างสถานะในวงการบู๊ลิ้ม แทบไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว เรียกว่า...ไม่ใช่แค่โดดขึ้นไปประลองยุทธ์บนเวทีลุยไถอีกต่อไป เผลอๆ อาจต้อง “รบกันบนเมฆ” เอาเลยโน่นแหละ...

พูดง่ายๆ ว่า...จะเอาแค่เรื่อง “ประชาธิปไตย” กับ “เผด็จการ” มาสู้กันแบบแต่ก่อน อาจต้องถูกตั้งคำถามตั้งแต่แรก...ว่าจอดเครื่อง “ไทม์แมชชีน” เอาไว้ที่ไหน หรือทะลุ “ทวิภพ” ออกมาช่วงไหน เมื่อไหร่ เพราะเส้นแบ่งความแตกต่างระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการทุกวันนี้ มันแทบจางหายไปจากโลกทั้งโลกเอาเลยก็ว่าได้ ภายใต้ความเสื่อมโทรมของประชาธิปไตยฉบับทุนนิยมเสรี และการไม่คิดจะตกเป็น “เป้านิ่ง” ของบรรดาเผด็จการทั้งหลาย มันได้ผลิตแนวคิดใหม่ๆ เคล็ดวิชาใหม่ๆ หรือกระทั่ง “ธงผืนใหม่” โผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นด้ามๆ จนบรรดานักประชาธิปไตย หรือนักเลือกตั้งทั้งหลาย กลายเป็นพวกที่ “เชยซ์ซ์ซ์ไม่เสร็จ” จนตราบเท่าทุกวันนี้...

ไม่งั้น “ทุนนิยมเผด็จการ” อย่างคุณพี่จีน หรือประชาธิปไตยฉบับมาเฟียของคุณน้ารัสเซีย คงไม่กลายเป็น “พระเอก” สร้างเสียงกรี๊ดๆ กร๊าดๆ ซี้ดๆ ซ้าดๆ ไปทั่วทั้งโลกอยู่ ณ ขณะนี้ ขณะที่ประชาธิปไตยของแท้และดั้งเดิม อย่างคุณพ่ออเมริกา หรือคุณลุงอังกฤษ นับวันต้องรับบทเป็น “ดาวร้าย” หนักขึ้นเรื่อยๆ ความพยายามบังคับให้โลกทั้งโลกต้อง “เป็นประชาธิปไตย” โดยอาศัยอำนาจแห่งโลก ที่จะเรียกว่า “โลกาภิวัตน์” หรือ “โลกาธิปไตย” ก็แล้วแต่ สุดท้ายแล้ว...ภาวะที่ถือเอา “โลกเป็นใหญ่” ดูๆ มันกำลังจะค่อยๆ กลายเป็นอดีตยิ่งขึ้นไปทุกที ไปสู่ช่วงภาวะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ทรงคาดคะเนเอาไว้ก่อนล่วงหน้าเมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้วนั่นแหละว่า มันจะต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่ภาวะที่ถือเอา “ธรรมเป็นใหญ่” หรือไปสู่ยุค “ธรรมาธิปไตย” อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้เลย...

โดยเฉพาะเมื่อเสียงเพรียกหาธรรมะ ความยุติธรรม ความเป็นธรรม ดังสนั่นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าระดับประเทศกระทั่งประเทศที่ประชาธิปไตยแบบสุดเดช สุดด้าม หรือในระดับโลกที่ความเป็นประชาธิปไตย-ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความเป็นธรรม ความยุติธรรม และธรรมะเอาเลยแม้แต่น้อย แน่ล่ะว่า...กระแสความเป็นไปเหล่านี้ ไม่ได้มีอยู่แต่นอกโลก นอกประเทศ หรือนอกเล้าไก่แต่อย่างใด ภายในสังคมไทยของเราเองนี่แหละ นับวันกระแสที่ว่านี้ กำลังมีส่วนทำให้ฉากสถานการณ์การเมืองนับจากนี้เป็นต้นไป แทบไม่มีอะไร “เหมือนเดิม” ต่อไปอีกแล้ว!!!

คือมันเลยไปจากเรื่องความเป็นรัฐบาล ความเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่านับจากนี้จะชื่อ “ป.” ชื่อ “ส.” ชื่อ “อ.” หรือชื่อไหนๆ ก็แล้วแต่ การหา “จุดลงตัว” หรือ “จุดสมดุล” ของการเมืองไทย มีแต่ต้องอาศัย “ธรรมะ” นั่นแหละเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าเผด็จการประชาธิปไตย ไม่ว่านายกฯ ป. นายกฯ ส. นายกฯ อ. หรือนายกฯ ไหนๆ ก็เถอะ ถ้าหากเบี่ยงเบนไปจากสิ่งที่เรียกว่า “ธรรม” แล้วไซร้ มีสิทธิที่จะหายใจทางปาก ทางเหงือกไปโดยตลอด หรือสามารถ “หลับกลางอากาศ” ยิ่งกว่าคุณหญิง “เจ๊สุดาหน่อย” ได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับ “สากกะเบือกระชากวิญญาณ” ที่บรรดาผู้คนในสังคมอินเทอร์เน็ตพกติดตัวไว้คนละด้ามสองด้ามชนิดกลายเป็นอวัยวะประจำตัวไปแล้วก็ว่าได้...

ฉากสถานการณ์การเมืองนับจากนี้...จึงเป็นอะไรที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศเอามากๆ ไม่ว่าทหาร นักธุรกิจ นักการเมือง ตลอดไปจนบรรดาชาวยุทธ์ทั้งหลาย ถ้าหากทะเล่อทะล่า ไม่ดูตาม้าตาเรือ โอกาสที่จะเจ็บตาปลาเพราะถูกเหยียบระดับเต็มเท้า เต็มตีน ย่อมมีความเป็นไปได้เสมอๆ ด้วยเหตุเพราะความก้าวหน้า ก้าวไกล ของ “Disruptive Technology” มันเข้าใคร-ออกใครซะที่ไหน!!! เผลอเมื่อไหร่ หลุดเมื่อไหร่ โอกาสถูกกวาดล้างให้ย่อยแยกแตกกระจาย ต่อไม่ติด หาที่หยัด ที่ยืน แทบไม่เจอ สามารถอุบัติขึ้นมาได้ทุกเมื่อ นอกเสียจากต้องยืนบนฐานแห่ง “ธรรมะ” ให้แน่นๆ เข้าไว้เท่านั้นเอง...
กำลังโหลดความคิดเห็น