xs
xsm
sm
md
lg

สมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน เวทีปราบดาภิเษกสี จิ้นผิง

เผยแพร่:   โดย: นพ นรนารถ


มะรืนนี้ (วันที่ 18 ตุลาคม) ที่ศาลามหาประชาคมของกรุงปักกิ่ง จะมีการประชุมที่มีความสำคัญที่สุดของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ การประชุมสมัชชาแห่งชาติ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 19

การประชุมนี้จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี มีตัวแทนสมาชิกพรรคจำนวน 2 พันกว่าคนเข้าร่วมการประชุม ซึ่งกินเวลานานประมาณหนึ่งสัปดาห์

หลายสัปดาห์ก่อนการประชุมโรงงานเหล็ก และโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ ใน และรอบๆ ปักกิ่งถูกสั่งให้หยุดหรือลดการผลิต เพื่อให้ท้องฟ้าเหนือนครหลวงแห่งนี้ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจากปล่องโรงงาน เป็นฟ้าสว่างสดใสระหว่างการประชุม

บรรดาผู้ที่ถูกขึ้นบัญชีจากทางการว่า มีความคิดห็นตรงข้ามกับพรรค ถูกสั่งให้ออกไปอยู่นอกเมืองชั่วคราว และให้ปิดปากงดให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ

ตำรวจหลายพันคนถูกระดมมาจากทั่วประเทศ เพื่อรักษาความปลอดภัย มาตรการเซ็นเซอร์ตรวจสอบปิดกั้น การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง จากเดิมที่เข้มงวดอยู่แล้ว ยิ่งเข้มข้นขึ้น

ที่ประชุมสมัชชาพรรค มีความสำคัญ คือ เป็นเวทีประกาศ และให้ความเห็นชอบแผนระยะยาวด้านต่างๆ ของจีนในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การนำของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดี และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อไปอีกวาระหนึ่งเป็นเวลา 5 ปี

ที่ประชุมสมัชชาพรรคยังเป็นผู้เลือกผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ของพรรค คือ เลขาธิการพรรค คณะกรรมการกลางพรรค คณะกรรมการกรมการเมืองหรือ “โปลิตบูโร” กรรมการประจำกรมการเมือง คณะกรรมาธิการด้านการทหาร

ปีนี้มีโปลิตบูโร 11 คนจากทั้งหมด 25 คนที่เกษียณอายุ มีกรรมการประจำกรมการเมือง 5 คนจาก 7 คนพ้นวาระการดำรงตำแหน่ง

ทั้งสององค์กรนี้ถือว่าเป็นองค์กรนำสูงสุดของพรรค ที่จะกำหนดตัวผู้นำคือ เลขาธิการพรรค ซึ่งจะเป็นประธานาธิบดีของจีนด้วยการที่มีโปลิตบูโรเกือบครึ่ง และโปลิตบูโรเกินครึ่งพ้นตำแหน่ง เป็นโอกาสที่ สี จิ้นผิง จะกระชับอำนาจในระดับบนของพรรค ด้วยการวางคนของตัวเองเข้าไปแทน

ในช่วง 5 ปีแรกของการเป็นผู้นำพรรค สี จิ้นผิง กำจัดคนที่อาจเป็นปรปักษ์ของเขาเพราะเป็นผู้ทรงอำนาจ อย่างเช่น โจว หย่ง คัง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และกรรมการประจำโปลิตบูโร หรือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ปั๋ว ซีไหล เลขาธิการพรรค ประจำนครฉงชิ่ง และโปลิตบูโรในข้อหาคอร์รัปชัน

ล่าสุดคือ ซุน เจิ้งไฉ เลขาธิการพรรคประจำนครฉงชิ่ง ซึ่งมาแทน ปั๋ว ซีไหล และเป็นกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรด้วย ถูกขับออกจากพรรคพร้อมกับผู้นำระดับสูงอีกหลายคน ด้วยข้อหามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ก่อนนี้ ซุน เจิ้งไฉ ได้รับการคาดหมายว่า มีโอกาสจะได้รับการวางตัวเป็นทายาทผู้นำต่อจากสี จิ้นผิง คู่กับตัวเก็งอีกคนหนึ่งคือ หู ชุนหัว เลขาธิการพรรค มณฑลกวางตุ้ง

สี จิ้นผิง ยังคงเป็นเลขาธิการพรรค และเป็นประธานาธิบดีต่อไปอีกวาระหนึ่ง ตามธรรมเนียมปฏิบัติ จะมีการกำหนดตัวทายาทที่จะสืบทอดตำแหน่งล่วงหน้า 5 ปี คือ ในการประชุมสมัชชาพรรคครั้งนี้ เพื่อให้มีเวลาในการเตรียมตัวที่จะเป็นผู้นำคนต่อไป

สี จิ้นผิงเองได้รับการแต่งตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ให้เป็นผู้นำคนต่อไปในการประชุมสมัชชาพรรคครั้งที่ 17 ปี ค.ศ. 2007 ก่อนจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ต่อจาก หู จิ่นเทา ในการประชุมสมัชชาพรรคครั้งที่ 18 เมื่อปี 2012

แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของผู้สืบทอดตำแหน่งคนใหม่ต่อจากสี จิ้นผิง ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า เขาต้องการเป็นผู้นำต่อไปอีกเป็นวาระที่ 3 หรือที่ 4

ปัจจุบัน สี จิ้นผิง อายุ 64 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำหนดว่า ผู้ที่อายุครบ 68 ปี ต้องเกษีนณอายุ หากสี จิ้นผิงต้องการฉีกกฎทั้งในเรื่องการดำรงตำแหน่งเกินกว่าสองวาระ และไม่ลุกจากเก้าอี้เมื่ออายุครบ 68 ปี ก็ต้องแก้ไขธรรมนูญพรรค

การแก้ไขธรรมนูญพรรค เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในวาระการประชุมสมัชชาพรรคครั้งที่ 19 นี้ นอกจากเพื่อต่ออายุให้สี จิ้นผิงแล้ว ยังจะมีการบรรจุเนื้อหาว่าด้วย อุดมการณ์หรือความคิดสี จิ้นผิง ในฐานะแนวทางที่ชี้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพิ่มเติมจากความคิด เหมา เจ๋อตุง และทฤษฎีของเติ้ง เสี่ยวผิง ซึ่งมีที่ทางอยู่ในธรรมนูญพรรคแล้ว

การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 จึงเป็นเวทีปราบดาภิเษก สี จิ้นผิงให้เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่าประธานเหมา
กำลังโหลดความคิดเห็น