ผู้จัดการรายวัน 360 - สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ จัดทำซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง ร.๙ หน้าพระบรมมหาราชวัง ให้ประชาชนกราบสักการะ เริ่มวันนี้ (11 ต.ค.) เผยสมเด็จพระเทพฯ จะเสด็จพระราชดำเนินร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ 21 ต.ค. ขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีและสมเด็จพระราชินีเจตซุน จะเสด็จฯ ร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ด้านนายกฯ มั่นใจพระเมรุมาศฯจำลอง-สถานที่วางดอกไม้จันทน์เสร็จทันเวลา ห่วงประชาชนนับแสนร่วมงาน แนะให้จัดเวรดูแล อย่าแก่งแย่งสิทธิกันและกัน ครม.มีมติขยายวันออกทุกข์ ขรก.-จนท.รัฐ ถึง 30 ต.ค. เก็บผ้าระบาย-ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย 29 ต.ค.
วานนี้ (10 ต.ค.) ที่ถนนหน้าพระลาน หน้าพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูมณีนพรัตน์ สำหรับให้ประชาชนได้ถวายสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยซุ้มประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นั้นเป็นซุ้มสีฟ้าสลับสีทอง โดยสีฟ้านั้นเป็นสีคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในรัชกาลที่ 9 ตรงกลางประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ ด้านบนประดับพระมหาพิชัยมงกุฏ และปรมาภิไธย ภปร และด้านข้างประดับด้วยพุ่มทองทั้ง 2 ฝั่ง และด้านล่างประดับด้วยดอกดาวเรือง
ทั้งนี้สำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนมาถวายพวงมาลัยดอกไม้ได้ตั้งแต่วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 08.00 น. ตลอด 24 ชั่วโมง แต่จะปิดให้ประชาชนเข้ามาถวายดอกไม้ในช่วงวันที่ 15 ,21 และ 22 ตุลาคม เนื่องจากทางกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธี) จะทำการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
โดยประชาชนสามารถเดินทางผ่านจุดคัดกรองทั้ง 2 จุดด้วยกันคือทางประตูท่าช้าง และทางถนนเลียบคลองหลอด หลังโรงแรมรัตนโกสินทร์แล้วข้ามสะพานหลังศาลหลักเมือง และเดินมาทางถนนระหว่างศาลหลักเมือง และกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าสูถนนหน้าพระลาน
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การซ้อมเสมือนจริง ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาร่วมซ้อมในริ้วขบวนด้วย
ส่วนการซ้อมในวันที่ 15 ตุลาคม ในส่วนของคณะรัฐมนตรี มีผู้ร่วมซ้อมทั้งหมด 6 คน นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร นายวิษณุ เครืองาม และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทำหน้าที่แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร ต้องอำนวยการดูแลเรื่องความปลอดภัยที่ศูนย์อำนวยการร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ รวมถึงนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และตน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะประชาสัมพันธ์และทำการปิดจราจรตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม เพื่อดูแลความเรียบร้อย
*** กษัตริย์จิกมี เสด็จฯร่วมงานพระราชพิธี
โฆษกประจำสำนักพระราชวังแห่งภูฏาน แจ้งว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน แห่งภูฏาน จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร และจะเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทย ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2560
*** นายกฯ ถกความพร้อมพระราชพิธีฯ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แถลงภายหลังการประชุมครม. ถึงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า เดือน ต.ค.เป็นเดือนที่พวกเราอยู่ช่วงเวลาโศกเศร้าอาลัย จึงขอให้ทุกอย่างอยู่ในสถานการณ์แห่งความสงบเรียบร้อย สำหรับความคืบหน้าการสร้างพระเมรุมาศฯจำลอง ในจังหวัดต่างๆ ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทย รายงานให้ทราบแล้วว่า เสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้วมากกว่าครึ่ง ที่เหลือคาดว่าจะเสร็จทันในเวลาที่กำหนด และหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะรายงานชี้แจงขึ้นมาเป็นระยะ และขณะนี้ได้มีการจัดสร้างสถานที่เผาดอกไม้จันทน์ของประชาชนในทุกพื้นที่ เนื่องจากจะไปเผาดอกไม้จันทน์ในเมรุของวัดต่างๆไม่ได้ ต้องจัดสร้างพิเศษขึ้นมา ซึ่งกำลังดำเนินการเพิ่มเติมอยู่ เพราะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนทุกคนได้มีโอกาสร่วมถวายพร้อมๆ กันในเวลาเดียวกับที่กรุงเทพฯ และในช่วงเวลากลางคืนด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในห้วงนี้จะมีหมายกำหนดการพระราชพิธีหลายอย่างทั้งในส่วนของพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ และเรื่องของกฐินพระราชทาน ซึ่งครม.ทุกคนมีหน้าที่สำคัญคือ เรื่องการเตรียมงานในช่วงวัน เวลา ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย ครม.ก็เป็นกังวลกับประชาชนที่จะมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จึงได้หารือในเรื่องการอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก น้ำดื่ม โดยคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาจำนวนหลายแสนคน ซึ่งในบริเวณชั้นใน มีขีดความสามารถจำกัด ส่วนที่เหลือประชาชนจะต้องอยู่บริเวณรอบนอก ที่ได้มีการจัดพระเมรุมาศจำลองไว้รองรับแล้ว ทั้งยังให้เตรียมรับสถานการณ์ฝนตก
ส่วนเรื่องอาหารการกินและน้ำดื่ม ประชาชนอาจต้องนำติดตัวมาเองบ้าง บางส่วนรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกให้ หลายคนก็เป็นห่วงกรณีที่ประชาชนจะมาจับจองที่นั่งกันตั้งวันที่ 25 ต.ค.ไม่กล้าลุกไปไหน ซึ่งเราคงต้องให้จัดเวรกันเองในการดูแล เช่น การผลัดกันไปเข้าห้องน้ำ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างกัน ขออย่าไปแก่งแย่งกัน ให้เคารพสิทธิของแต่ละคน
**ครม.มีมติขยายวันออกทุกข์ถึง 30 ต.ค.
พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติอนุมัติขยายเวลาการไว้ทุกข์ และการลดธงครึ่งเสา ในช่วงงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย
1. ขยายเวลาการไว้ทุกข์ของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากเดิมขยายวันที่ 13 ต.ค.60 ไปจนถึงวันที่ 29 ต.ค. 60 รวม 17 วัน
2.ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา และสถานที่ทำการของรัฐ ทั้งในและต่างประเทศ ลดธงครึ่งเสา จากเดิม ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.60 ไปจนถึง วันที่ 29 ต.ค.60 รวม 17 วัน
3. ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากเดิม ออกทุกข์ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.60 เป็นต้นไป เป็นออกทุกข์ ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.60 เป็นต้นไป และ 4. ให้เริ่มเก็บผ้าระบาย ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ตามสถานที่ต่างๆ จากเดิมตั้งแต่คืนวันที่ 27 ต.ค.60 เป็น ตั้งแต่คืนวันที่ 29 ต.ค.60
วานนี้ (10 ต.ค.) ที่ถนนหน้าพระลาน หน้าพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูมณีนพรัตน์ สำหรับให้ประชาชนได้ถวายสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยซุ้มประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นั้นเป็นซุ้มสีฟ้าสลับสีทอง โดยสีฟ้านั้นเป็นสีคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในรัชกาลที่ 9 ตรงกลางประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ ด้านบนประดับพระมหาพิชัยมงกุฏ และปรมาภิไธย ภปร และด้านข้างประดับด้วยพุ่มทองทั้ง 2 ฝั่ง และด้านล่างประดับด้วยดอกดาวเรือง
ทั้งนี้สำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนมาถวายพวงมาลัยดอกไม้ได้ตั้งแต่วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 08.00 น. ตลอด 24 ชั่วโมง แต่จะปิดให้ประชาชนเข้ามาถวายดอกไม้ในช่วงวันที่ 15 ,21 และ 22 ตุลาคม เนื่องจากทางกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธี) จะทำการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
โดยประชาชนสามารถเดินทางผ่านจุดคัดกรองทั้ง 2 จุดด้วยกันคือทางประตูท่าช้าง และทางถนนเลียบคลองหลอด หลังโรงแรมรัตนโกสินทร์แล้วข้ามสะพานหลังศาลหลักเมือง และเดินมาทางถนนระหว่างศาลหลักเมือง และกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าสูถนนหน้าพระลาน
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การซ้อมเสมือนจริง ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาร่วมซ้อมในริ้วขบวนด้วย
ส่วนการซ้อมในวันที่ 15 ตุลาคม ในส่วนของคณะรัฐมนตรี มีผู้ร่วมซ้อมทั้งหมด 6 คน นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร นายวิษณุ เครืองาม และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทำหน้าที่แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร ต้องอำนวยการดูแลเรื่องความปลอดภัยที่ศูนย์อำนวยการร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ รวมถึงนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และตน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะประชาสัมพันธ์และทำการปิดจราจรตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม เพื่อดูแลความเรียบร้อย
*** กษัตริย์จิกมี เสด็จฯร่วมงานพระราชพิธี
โฆษกประจำสำนักพระราชวังแห่งภูฏาน แจ้งว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน แห่งภูฏาน จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร และจะเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทย ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2560
*** นายกฯ ถกความพร้อมพระราชพิธีฯ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แถลงภายหลังการประชุมครม. ถึงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า เดือน ต.ค.เป็นเดือนที่พวกเราอยู่ช่วงเวลาโศกเศร้าอาลัย จึงขอให้ทุกอย่างอยู่ในสถานการณ์แห่งความสงบเรียบร้อย สำหรับความคืบหน้าการสร้างพระเมรุมาศฯจำลอง ในจังหวัดต่างๆ ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทย รายงานให้ทราบแล้วว่า เสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้วมากกว่าครึ่ง ที่เหลือคาดว่าจะเสร็จทันในเวลาที่กำหนด และหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะรายงานชี้แจงขึ้นมาเป็นระยะ และขณะนี้ได้มีการจัดสร้างสถานที่เผาดอกไม้จันทน์ของประชาชนในทุกพื้นที่ เนื่องจากจะไปเผาดอกไม้จันทน์ในเมรุของวัดต่างๆไม่ได้ ต้องจัดสร้างพิเศษขึ้นมา ซึ่งกำลังดำเนินการเพิ่มเติมอยู่ เพราะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนทุกคนได้มีโอกาสร่วมถวายพร้อมๆ กันในเวลาเดียวกับที่กรุงเทพฯ และในช่วงเวลากลางคืนด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในห้วงนี้จะมีหมายกำหนดการพระราชพิธีหลายอย่างทั้งในส่วนของพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ และเรื่องของกฐินพระราชทาน ซึ่งครม.ทุกคนมีหน้าที่สำคัญคือ เรื่องการเตรียมงานในช่วงวัน เวลา ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย ครม.ก็เป็นกังวลกับประชาชนที่จะมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จึงได้หารือในเรื่องการอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก น้ำดื่ม โดยคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาจำนวนหลายแสนคน ซึ่งในบริเวณชั้นใน มีขีดความสามารถจำกัด ส่วนที่เหลือประชาชนจะต้องอยู่บริเวณรอบนอก ที่ได้มีการจัดพระเมรุมาศจำลองไว้รองรับแล้ว ทั้งยังให้เตรียมรับสถานการณ์ฝนตก
ส่วนเรื่องอาหารการกินและน้ำดื่ม ประชาชนอาจต้องนำติดตัวมาเองบ้าง บางส่วนรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกให้ หลายคนก็เป็นห่วงกรณีที่ประชาชนจะมาจับจองที่นั่งกันตั้งวันที่ 25 ต.ค.ไม่กล้าลุกไปไหน ซึ่งเราคงต้องให้จัดเวรกันเองในการดูแล เช่น การผลัดกันไปเข้าห้องน้ำ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างกัน ขออย่าไปแก่งแย่งกัน ให้เคารพสิทธิของแต่ละคน
**ครม.มีมติขยายวันออกทุกข์ถึง 30 ต.ค.
พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติอนุมัติขยายเวลาการไว้ทุกข์ และการลดธงครึ่งเสา ในช่วงงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย
1. ขยายเวลาการไว้ทุกข์ของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากเดิมขยายวันที่ 13 ต.ค.60 ไปจนถึงวันที่ 29 ต.ค. 60 รวม 17 วัน
2.ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา และสถานที่ทำการของรัฐ ทั้งในและต่างประเทศ ลดธงครึ่งเสา จากเดิม ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.60 ไปจนถึง วันที่ 29 ต.ค.60 รวม 17 วัน
3. ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากเดิม ออกทุกข์ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.60 เป็นต้นไป เป็นออกทุกข์ ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.60 เป็นต้นไป และ 4. ให้เริ่มเก็บผ้าระบาย ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ตามสถานที่ต่างๆ จากเดิมตั้งแต่คืนวันที่ 27 ต.ค.60 เป็น ตั้งแต่คืนวันที่ 29 ต.ค.60