xs
xsm
sm
md
lg

มอง ‘ทรัมป์มองไทย’ คิดอย่างไร...

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ตั้งแต่คุณท่านผู้นำไปเยือนสหรัฐฯ ได้พบปะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในทำเนียบขาว จับมือกระชับเจรจาความเมือง เน้นย้ำความสัมพันธ์ แลกยาหอม ภาษาดอกไม้ เล่นบทนายแสนดีวจีไพเราะกันแล้ว หลายฝ่ายรู้สึกปลาบปลื้ม ปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก ผู้นำฝ่ายโลกตะวันตก ยอมรับผู้นำไทยแล้ว แม้จะเป็นผู้นำรัฐประหาร หัวหน้ารัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง พร้อมอยู่ยาวต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสภาวะการเมือง กฎหมายประกอบเลือกตั้ง

มีแต่ความยินดีปรีดาว่าสหรัฐฯ ไม่ถือสา เข้าใจสภาพการเมืองของไทย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ตั้งท่าจะเอาเป็นเอาตาย หาเรื่องกับประเทศไทยสารพัด งัดกฎนั่นนี่โน่นมาเล่นงาน ทำให้ไทยยอมปลง ท่านมหาอำนาจจะเอาอย่างไรก็เอา เราจะอยู่อย่างนี้

เมื่อสหรัฐฯ เห็นว่าไทยไม่เสียสภาพไปมากกว่านั้น และผู้นำรัฐบาลสหรัฐฯ เลือกไม่คบไทย เว้นช่องว่างไว้ให้ผู้นำทหารคุยกันได้ตามภาษาทหาร เข้าอกเข้าใจกันดี เพราะการจะเป็นเผด็จการ ทรราช จำเป็นต้องมีกองกำลังทหารหนุน ก็คุยไม่ยาก

ที่คุยง่าย เพราะกองทัพสหรัฐฯ ยังต้องพึ่งพาประเทศไทยหลายด้าน เช่นด้านพึ่งพาสนามบิน ท่าเรือ การขนส่งยุทธปัจจัย การร่วมซ้อมรบ ขาดไทยไม่ได้ เพราะฟิลิปปินส์ เด็กในคาถาดั้งเดิมไม่ยอมเป็นเด็กดีของคุณพ่ออเมริกาเหมือนแต่ก่อน

ถ้าตั้งแง่ว่ารัฐไทยปกครองโดยคณะรัฐประหาร แล้วไม่คบด้วย คงต้องรออีกนาน เพราะสัญญาณชัดจากผู้ใหญ่ผู้โตอำนาจคับบ้องมีให้เห็นหลายครั้งแล้วว่ามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าจริงจัง ว่าจะอยู่ยาว ไม่อยากลงจากหลังเสือช่วงนี้

ทำตัวเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ยืนยันตามโรดแหม็บๆ แต่ไม่รับประกันโรคเลื่อน!

ล่าสุด ถึงเผยไต๋ว่าจะประกาศเลือกตั้งในปีหน้า ไม่ใช่จะมีเลือกตั้ง ทำให้สื่อออสซี่ทำตัวเป็นฆ้องปากแตก ฟ้องชาวโลกว่าผู้ใหญ่ผู้โตรับวัฒนธรรมชนเผ่าโลกเบี้ยว แม้จะได้รับปากกับท่านทรัมป์ว่าจะมีเลือกตั้งตามโรดแหม็บๆ เขาก็รู้ทัน

เอาเหอะ! จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ ไม่ต้องกังวล ทุกวันนี้ยังไม่รู้ว่าทรัมป์จะไปก่อนหรือคณะผู้ใหญ่ผู้โตของบ้านเราจะไปก่อน แม้ทรัมป์จะเหลืออีก 3 ปีกว่า และพวกทั่นอยากอยู่ยาวทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อยู่ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น

เรื่องพรรค์นี้มันบ่แน่ดอกนาย คนชื่อบุญหลายตายไปเมื่อวานนี้นั่นแหละ!

แต่ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา มีการส่งภาพยูทิวบ์เปรียบเทียบให้เห็นการต้อนรับขับสู้โดยทรัมป์กับผู้นำชาติอื่น มีคำถามเรื่องความเหมาะสม ศักดิ์ศรี นั่นนี่โน่น รวมทั้งข้อสงสัยว่าทรัมป์ปฏิบัติกี่มาตรฐานกันแน่ ทั้งๆ ที่ไทยแลนด์ของหมู่เฮาเป็นมิตรยาวนาน

ยุคจอร์จ ดับบลิว บุช บอกว่าไทยเป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดนอกนาโต!

เมื่อเอาภาพรถที่ทรัมป์ส่งไปรับนายกฯ ญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ให้เห็นเป็นรถลีมูซีนคันยาว เอาไปเทียบประตูทางเข้าตึกทำเนียบขาว ย่อมดูโก้ สง่า สมราคา ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ เอาระเบิดปรมาณูไปถล่มญี่ปุ่น 2 ลูกในปี 1945 ร่างรัฐธรรมนูญให้อีกด้วย

เมื่อคนไทยเห็นรถที่ทรัมป์เอาไปรับคุณท่านและคุณนาย แทบไม่เชื่อสายตา!

เฮ้ย! นี่มันรถเอสยูวี หรือรถปิกอัพนี่หว่า ไม่ใช่รถเก๋งด้วยซ้ำ มันยังไงกันนี่ หรือเห็นว่าคุณท่านของเราเป็นขาลุยต้องใช้รถประเภทออฟโรดไปรับ จะได้เข้าท่าดูแมนๆ แต่พวกที่ปากค่อนแคะ บอกว่ามันเหมือนรถพ่อครัวทำเนียบขาวเอาไปจ่ายตลาดฟ่ะ

ดูกระจอกเกินไปหรือเปล่า สำหรับผู้นำรัฐบาลไทยหรือคุณนาย? พวกมองโลกในแง่สับสนด้านร้ายคิดเตลิดเปิดเปิง “รู้งี้เอารถทูตไทยประจำวอชิงตันไปดีกว่า” ว่าเข้าไปนั่น! ดังนั้นมีคนคันปากอยากถามว่าทำเนียบขาวไม่มีรถดีกว่านี้แล้วเรอะ?!

มีความสงสัยต่อเนื่อง! เอ่อ! ประตูที่ทรัมป์และคุณนายออกมารับอาคันตุกะจากประเทศไทยทำไมเล็กนิดเดียว ไม่ใช่ด้านหน้า หรือด้านหลังทำเนียบขาวนี่หว่า นี่เป็นประตูที่ประธานาธิบดีเคนเนดี้ให้ลูกน้องพา “มาริลิน มอนโร” เข้าไปหรือไม่

มีพรมแดงเล็กๆ ปูให้เดินนะ! คุณท่านยังได้ยื่นมือให้ทรัมป์จับก่อนอีกด้วย!

เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมมีคำอธิบายรูปแบบ ลำดับชั้นของการต้อนรับแขกเมืองของสหรัฐฯ ให้ชาวบ้านได้รู้ว่าโดยทั่วไปนั้น มี 4 ระดับด้วยกัน

ระดับสูงสุด คือระดับประมุขแห่งรัฐ ซึ่งไม่ใช่คุณท่านแน่ ผ่านไปเลย!

รองลงมา คือระดับการเยือนเป็นทางการ คือระดับผู้นำรัฐบาล โดยมีคำเชิญอย่างเป็นทางการ มีพิธีต้อนรับ ตรวจพลสวนสนาม เลี้ยงดินเนอร์ มีกำหนดพัก 4 วัน ระยะเวลาพักมีขั้นต่ำ หรือขั้นมาตรฐานเหมือนระดับประมุขแห่งรัฐ เช่นกัน

จะมีการเจรจาความเมืองกันกี่รอบ ขึ้นอยู่กับวาระ ความสำคัญ ต้องไปพูดในสภาคองเกรส หรืองานอื่นๆ ก็สุดแล้วแต่เจ้าภาพและแขกผู้มาเยือนว่าซี้ปึ้กแค่ไหน

ระดับรองลงมา คือการเยือนเป็นทางการเพื่อทำงาน หรือ Official Working Visit ภาษาทางราชการเรียกอย่างไรก็ตามนั้น อันนี้มีความสำคัญเช่นกัน คือระยะเวลาพัก 3 วันเพื่อเจรจาหาข้อตกลงต่างๆ มีพิธีกรรมบ้าง ตามที่จัดได้สะดวก

ระดับสุดท้ายคือ เยือนเพื่อทำงาน แปลตามตัวนะ แล้วแต่ภาษาราชการงานทูตที่ใช้ หรือ Working Visit กระพ้มว่าตามภาษาอังกฤษ แบบนี้มีระยะเวลา 3 วัน สุดท้ายของสุดท้ายคือการเยือนไม่เป็นทางการ เป็นส่วนตัว ก็สุดแล้วแต่จะทำอะไร

ของคุณท่านผู้นำไทยเข้าตามรูปแบบไหน เพราะไปเยือนวันที่ 2-4 พบปะกันเป็นทางการ สมเกียรติตามประเพณีปฏิบัติจริงหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่จะมอง ใครได้ใครเสีย ก็ว่ากันไปบ้างแล้ว ที่จะตามมาก็ประเมินกันอีกรอบก็แล้วกัน เนอะ!
กำลังโหลดความคิดเห็น