การเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในปี 2561 หรือไม่ ตามคำพูดของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่บอกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องนี้ยังยืนยันไม่ได้เพราะเป็นเรื่องอนาคต ที่อาจจะเป็นจริงหรือลวงก็ได้
ปัจจัยสำคัญชี้ขาดการคืนอำนาจเลือกตั้ง ต้องดูที่โรดแมปการเมืองสู่การเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร!?
ตอนนี้ การเลือกตั้งเริ่มพอเห็นทิศทางขึ้นมาระดับหนึ่งหลังมีการประกาศใช้กฎหมายกรรมการการเลือกตั้งไป แล้ว แต่ต้องตามดูต่อไปว่า โรดแมปจะช้าหรือเร็ว จะขึ้นอยู่กับเกมการเมืองของคสช. ที่จะพลิ้วและพลิกไปทางไหน
เพราะมีปฏิทินของกกต.ระบุ จะมีการเลือกตั้งทั่วไปได้ ไม่เกินสิงหาคม 61 แต่อาจขยับให้เร็วขึ้นหรือช้าออกไปได้อีก และที่น่ากลัวก็คือมีสุ้มเสียงออกมาในแนว จะขอต่อวีซ่าอำนาจให้คสช.ออกไปอีก
ฝ่ายรัฐบาล ตลอดจน คสช.และพวกลิ่วล้อแม่น้ำห้าสายในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็ส่งเสียงขานรับกันไปในทางเดียวกัน โดยบอกว่า ปฏิทินดังกล่าวของกกต.ไม่ได้นับรวมบางช่วงเวลา ที่ไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า
เช่นระยะเวลาในการนำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปสู่การจัดการเลือกตั้ง ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ซึ่งกรอบตามรัฐธรรมนูญก็คือ จะอยู่ในช่วงที่รอการโปรดเกล้าฯหลังนำร่างพ.ร.บ.ขึ้นทูลเกล้าฯถวายในช่วงไม่เกิน 90 วัน ซึ่งจุดนี้เป็นพระราชอำนาจ ที่ไม่อาจก้าวล่วงได้
อีกทั้งในแวดวงการเมือง ก็ยังมองว่าโรดแมปอาจมีสถานการณ์แทรกซ้อน เป็นไปตามแผนต่ออำนาจให้กับคสช. ภายใต้สูตรต่างๆ เช่น มีการคว่ำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญอีก2ฉบับในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
คือร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ที่กรธ.ขีดเส้นไว้ว่า จะรีบพิจารณาจัดทำและส่งให้สนช.ในช่วงไม่เกินกลางเดือนธันวาคมปีนี้
หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นมาคือสนช.ลงมติไม่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับ ในวาระ 3 จนทำให้ร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับตกไป ก็จะเป็นปัญหาขึ้นมาแน่นอน เพราะอาจทำให้โรดแมปมีปัญหา
เพราะต้องไปนับหนึ่งร่างฯกันใหม่ จนอาจไม่สามารถทำให้เสร็จตามกรอบรธน.ที่บัญญัติว่า ต้องร่างพ.ร.บ.ประกอบรธน. ที่มีด้วยกัน 10ฉบับ ให้เสร็จภายในระยะเวลา 240 วัน หรือ 8 เดือน นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญถูกประกาศใช้ เมื่อ6เมษายนที่ผ่านมา
การหวั่นเกรงโรดแมปจะขยับ เลื่อนออกไปด้วยแผนเตะถ่วงดึงเกมดูจะง่ายไปหน่อย ซึ่งในความเป็นจริง บอกได้ว่ายากที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากการให้สนช.มาลงมติคว่ำร่างฯ เพื่อทำให้โรดแมปมีปัญหา ต่อท่ออำนาจให้คสช. ก็เป็นเรื่องที่ สนช.ก็สุ่มเสี่ยงจะโดนด่า เพราะหากทำจริง ใครก็อ่านเกมออกว่า สนช.รับงานคสช.มา เพื่อทำให้โรดแมปป่วน
นอกจากปัจจัยเรื่อง ขั้นตอนการประกาศใช้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรธน. การลงมติของสนช. ที่จะมีผลต่อการ ขยับโรดแมปเลือกตั้งให้เร็วขึ้นหรือช้าออกไป ปัจจัยอื่นๆ ที่จะมีผล ก็มีอาทิเช่น การใช้สิทธิ์วีโต้ ร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งสว. จนนำมาสู่การตั้งกมธ.ร่วม3 ฝ่าย
ซึ่งหากกรธ.หรือกกต.ใช้สิทธิ์ดังกล่าว ก็จะทำให้ใช้เวลาในขั้นตอนนี้ ร่วมๆ 3สัปดาห์ แต่หากไม่มีการวีโต้ ขั้นตอนการทูลเกล้าฯก็จะเร็ว
นอกจากนี้ ก็ยังมีกรณีที่จะเลื่อนเวลาออกไปได้ คือหากมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหลังสนช.ลงมติเห็นชอบวาระสามและส่งให้นายกฯนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งถ้าเกิดกรณีดังกล่าว ก็จะทำให้ ต้องใช้เวลาในขั้นตอนนี้อีกอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ หากศาลรธน.รับคำร้อง
และยิ่งหาก ศาลรธน.วินิจฉัยว่า เนื้อหาในร่างกฎหมายเลือกตั้งส.ส.และที่มาสว. ขัดรธน.เพราะร่างออกมาไม่ดี ไม่รัดกุมพอ คราวนี้ก็จะเป็นเรื่องยาว ต้องกลับไปทำกันใหม่
เจอแบบนี้ โรดแมป ขยับชัวร์แน่ และลากยาวด้วย แต่การจงใจทำเช่นนี้จะเกิดเป็นชนวนเหตุให้เกิดเรื่องยุ่งทางการเมืองขึ้นมาทันที สรุปได้ว่า โรดแมป การเลือกตั้ง ปฏิทินที่วางกันไว้ มีโอกาสจะขยับให้เร็วขึ้นและช้ากว่าที่ประเมินไว้ได้ด้วยกันทั้งสองทาง
ไม่มีอะไรตายตัว ขึ้นอยู่กับว่า ขั้นตอนแต่ละช่วง เป็นอย่างไร และคนมีอำนาจจะต้องการไปต่อ ลากยาวต่อไป หรือพอแล้ว โรดแมปก็จะตามนั้น
ปัจจัยสำคัญชี้ขาดการคืนอำนาจเลือกตั้ง ต้องดูที่โรดแมปการเมืองสู่การเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร!?
ตอนนี้ การเลือกตั้งเริ่มพอเห็นทิศทางขึ้นมาระดับหนึ่งหลังมีการประกาศใช้กฎหมายกรรมการการเลือกตั้งไป แล้ว แต่ต้องตามดูต่อไปว่า โรดแมปจะช้าหรือเร็ว จะขึ้นอยู่กับเกมการเมืองของคสช. ที่จะพลิ้วและพลิกไปทางไหน
เพราะมีปฏิทินของกกต.ระบุ จะมีการเลือกตั้งทั่วไปได้ ไม่เกินสิงหาคม 61 แต่อาจขยับให้เร็วขึ้นหรือช้าออกไปได้อีก และที่น่ากลัวก็คือมีสุ้มเสียงออกมาในแนว จะขอต่อวีซ่าอำนาจให้คสช.ออกไปอีก
ฝ่ายรัฐบาล ตลอดจน คสช.และพวกลิ่วล้อแม่น้ำห้าสายในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็ส่งเสียงขานรับกันไปในทางเดียวกัน โดยบอกว่า ปฏิทินดังกล่าวของกกต.ไม่ได้นับรวมบางช่วงเวลา ที่ไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า
เช่นระยะเวลาในการนำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปสู่การจัดการเลือกตั้ง ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ซึ่งกรอบตามรัฐธรรมนูญก็คือ จะอยู่ในช่วงที่รอการโปรดเกล้าฯหลังนำร่างพ.ร.บ.ขึ้นทูลเกล้าฯถวายในช่วงไม่เกิน 90 วัน ซึ่งจุดนี้เป็นพระราชอำนาจ ที่ไม่อาจก้าวล่วงได้
อีกทั้งในแวดวงการเมือง ก็ยังมองว่าโรดแมปอาจมีสถานการณ์แทรกซ้อน เป็นไปตามแผนต่ออำนาจให้กับคสช. ภายใต้สูตรต่างๆ เช่น มีการคว่ำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญอีก2ฉบับในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
คือร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ที่กรธ.ขีดเส้นไว้ว่า จะรีบพิจารณาจัดทำและส่งให้สนช.ในช่วงไม่เกินกลางเดือนธันวาคมปีนี้
หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นมาคือสนช.ลงมติไม่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับ ในวาระ 3 จนทำให้ร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับตกไป ก็จะเป็นปัญหาขึ้นมาแน่นอน เพราะอาจทำให้โรดแมปมีปัญหา
เพราะต้องไปนับหนึ่งร่างฯกันใหม่ จนอาจไม่สามารถทำให้เสร็จตามกรอบรธน.ที่บัญญัติว่า ต้องร่างพ.ร.บ.ประกอบรธน. ที่มีด้วยกัน 10ฉบับ ให้เสร็จภายในระยะเวลา 240 วัน หรือ 8 เดือน นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญถูกประกาศใช้ เมื่อ6เมษายนที่ผ่านมา
การหวั่นเกรงโรดแมปจะขยับ เลื่อนออกไปด้วยแผนเตะถ่วงดึงเกมดูจะง่ายไปหน่อย ซึ่งในความเป็นจริง บอกได้ว่ายากที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากการให้สนช.มาลงมติคว่ำร่างฯ เพื่อทำให้โรดแมปมีปัญหา ต่อท่ออำนาจให้คสช. ก็เป็นเรื่องที่ สนช.ก็สุ่มเสี่ยงจะโดนด่า เพราะหากทำจริง ใครก็อ่านเกมออกว่า สนช.รับงานคสช.มา เพื่อทำให้โรดแมปป่วน
นอกจากปัจจัยเรื่อง ขั้นตอนการประกาศใช้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรธน. การลงมติของสนช. ที่จะมีผลต่อการ ขยับโรดแมปเลือกตั้งให้เร็วขึ้นหรือช้าออกไป ปัจจัยอื่นๆ ที่จะมีผล ก็มีอาทิเช่น การใช้สิทธิ์วีโต้ ร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งสว. จนนำมาสู่การตั้งกมธ.ร่วม3 ฝ่าย
ซึ่งหากกรธ.หรือกกต.ใช้สิทธิ์ดังกล่าว ก็จะทำให้ใช้เวลาในขั้นตอนนี้ ร่วมๆ 3สัปดาห์ แต่หากไม่มีการวีโต้ ขั้นตอนการทูลเกล้าฯก็จะเร็ว
นอกจากนี้ ก็ยังมีกรณีที่จะเลื่อนเวลาออกไปได้ คือหากมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหลังสนช.ลงมติเห็นชอบวาระสามและส่งให้นายกฯนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งถ้าเกิดกรณีดังกล่าว ก็จะทำให้ ต้องใช้เวลาในขั้นตอนนี้อีกอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ หากศาลรธน.รับคำร้อง
และยิ่งหาก ศาลรธน.วินิจฉัยว่า เนื้อหาในร่างกฎหมายเลือกตั้งส.ส.และที่มาสว. ขัดรธน.เพราะร่างออกมาไม่ดี ไม่รัดกุมพอ คราวนี้ก็จะเป็นเรื่องยาว ต้องกลับไปทำกันใหม่
เจอแบบนี้ โรดแมป ขยับชัวร์แน่ และลากยาวด้วย แต่การจงใจทำเช่นนี้จะเกิดเป็นชนวนเหตุให้เกิดเรื่องยุ่งทางการเมืองขึ้นมาทันที สรุปได้ว่า โรดแมป การเลือกตั้ง ปฏิทินที่วางกันไว้ มีโอกาสจะขยับให้เร็วขึ้นและช้ากว่าที่ประเมินไว้ได้ด้วยกันทั้งสองทาง
ไม่มีอะไรตายตัว ขึ้นอยู่กับว่า ขั้นตอนแต่ละช่วง เป็นอย่างไร และคนมีอำนาจจะต้องการไปต่อ ลากยาวต่อไป หรือพอแล้ว โรดแมปก็จะตามนั้น