xs
xsm
sm
md
lg

คำเชิญจากทำเนียบขาว ผลประโยชน์เหนือหลักการ

เผยแพร่:   โดย: นพ นรนารถ


นายกรัฐมนตรีไทยคนล่าสุดที่ได้รับเชิญให้ไปเยือนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการ คือ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ บุช

อีกหนึ่งปีให้หลัง ทักษิณก็ถูก คมช.ยึดอำนาจระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นิวยอร์ก

ในยุครัฐบาล คสช.สหรัฐฯ ตอบโต้รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร โดยลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย ตัดงบช่วยเหลือด้านการทหาร ปรับลดการซ้อมรบ คอบร้า โกลด์ ให้เป็นเพียงการฝึกซ้อมด้านการบรรเทาภัยพิบัติ งดการเจรจาทางการค้า เศรษฐกิจกับไทย งดการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างผู้นำระดับสูงของสองประเทศ

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี จะเคยเดินทางไปสหรัฐฯ สองครั้งแล้ว แต่เป็นการไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ และไปร่วมประชุมผู้นำอาเซียน- สหรัฐฯ ในยุคของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ใช่การเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

เพราะเขาไม่เชิญ และไม่ให้ไป เนื่องจากหลักการที่สหรัฐฯ ยึดถือกันมาช้านานคือ ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย ไม่คบหาสมาคมกับรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ

การเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการของพล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม ตามคำเชิญของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จึงมีความหมายในแง่ที่ว่า อเมริกายอมรับรัฐบาล คสช.ที่ไม่ได้มาจากวิถีทางประชาธิปไตย

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกในรอบ 12 ปี และเป็นผู้นำในระบอบเผด็จการคนแรกที่ได้ไปเหยียบทำเนียบขาว ในฐานะแขกของผู้นำประเทศต้นแบบประชาธิปไตย

ท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ ไม่ใช่ว่าจะมาเปลี่ยนใจนึกรักใคร่เอ็นดู คสช.อย่างใด แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ ของตัวเอง ดั่งคำกล่าวของ เติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของจีนที่ว่า แมวสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ก็แล้วกัน

คำเชิญของทรัมป์มาพร้อมกับการขอแรงสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ให้ร่วมมือกันคว่ำบาตรเกาหลีเหนือในการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 30 เมษายนปีนี้

ก่อนหน้านั้นสองสัปดาห์ คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กองทัพเรือซื้อเรือดำน้ำ จากประเทศจีน

จีนขยายอิทธิพลเข้ามาในอาเซียน รวมทั้งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่อเมริกาสมัยโอบามา และอียูหมางเมินไทยหลังการยึดอำนาจเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยก็ยิ่งแนบแน่นขึ้น

จีนเป็นประเทศแรกที่เชิญนายกรัฐมนตรีไทยไปเยือนอย่างเป็นทางการหลังการยึดอำนาจเพียง 6 เดือน ซึ่งในครั้งนั้นมีการเซ็นเอ็มโอยูโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน

หลังจากนั้นไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกธนาคารเพื่อการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย หรือเอไอไอบี ซึ่งจีนก่อตั้งขึ้นเพื่อถ่วงดุลกับธนาคารโลกของชาติตะวันตก

โครงการ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง หรือ One Belt One Road ที่ครอบคลุมมาถึง กลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งทางบกและทางทะเล ยิ่งทำให้สหรัฐฯ ไม่สามารถทำตัวเหินห่างจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีประเทศไทยอยู่ในจุดศูนย์กลางของภูมิภาคต่อไปได้ ต้องยอมฉีกหลักการลืมค่านิยมประจำใจที่ยกย่อง เทิดทูนระบอบประชาธิปไตยไว้ก่อนเปิดประตูทำเนียบขาวชวนผู้นำไทยไปเจรจาตกลงกันเรื่องผลประโยชน์

นอกเหนือจากประเด็นความมั่นคง ผลประโยชน์ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์แล้ว สหรัฐฯ กับไทยยังมีเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ต้องเจรจาต่อรองกัน ไทยเป็นประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ มากเป็นอันดับที่ 11 โดยในปีที่แล้ว ไทยเกินดุลสหรัฐฯ 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

เรื่องที่ทรัมป์จะคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จึงน่าจะมีเรื่องการเปิดตลาดให้สินค้าจากอเมริกามากขึ้น รวมทั้งการแก้ไขปัญหาละเมิดสิทธิบัตรของภาคเอกชนอเมริกา

ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเน้นย้ำความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นประเทศหุ้นส่วนที่สำคัญ และพันธมิตรหลักในทวีปเอเชียมาอย่างยาวนาน ประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีจะหารือกันถึงแนวทางการเสริมสร้างและขยายความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ตลอดจนยกระดับความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ การเยือนทำเนียบขาวคราวนี้ คือ ชัยชนะทางการเมืองที่มีนัยสำคัญ เป็นการประกาศความชอบธรรมของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ที่ประเทศหัวแถวประชาธิปไตยแสดงท่าทีเสมือนการยอมรับ

สำหรับฝ่ายที่ต่อต้านการรัฐประหาร คงต้องลุ้นกันว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะพูดถึง เรื่องโรดแมปการเลือกตั้งหรือไม่ และพูดอย่างไร เพื่อจะได้มีประเด็นเอามาดิสเครดิต คสช.

แต่อย่าให้เหมือนคราวที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ ที่สำนักข่าวอย่างบีบีซีไทยลงทุนสร้างข่าวว่า ฝ่ายไทยจัดฉากให้โอบามามาจับมือถ่ายรูปกับ พล.อ.ประยุทธ์ก็แล้วกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น