ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สัญญาณจากนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ยังหลบหนีคดีอยู่ต่างแดน ส่งข้อความรำลึก 11 ปีรัฐประหาร ตอกย้ำความทรงจำ พร้อมออกลูกอ้อนยังเป็นห่วงชีวิตความเป็นอยู่คนไทยเสมอ สื่อความหมายว่า หมากเกมนี้ ทักษิณยังไม่ยอมยกธงขาวง่ายๆ
นัยหนึ่งก็เป็นการส่งสัญญาณถึงลูกหาบเครือข่ายสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตลอดจนคนเสื้อแดงว่า ยังไม่หนีหายไปไหน ยังคงอยู่เป็นหลักชัยไม่ต้องเป็นห่วง ขับเคลื่อนขบวนกันต่อไปได้
ต้องยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาเกิดความระส่ำระสายพอสมควร เมื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นน้องสาว ต้องหลบหนีซ้ำรอยนายใหญ่ จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ลูกหาบเครือข่ายอยู่ในช่วงเคว้งคว้าง ยังไม่รู้จะหันหางเสือ กางใบเรือไปทางไหน ก่อนหน้านี้ทักษิณก็ทวิตเตอร์ส่งสัญญาณมาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้ส่งมาก็เพื่อตอกย้ำ ไม่ให้เสียขวัญกระจัดกระจาย แยกย้ายกันไปไหน
งานนี้ทักษิณอยู่เฉยไม่ได้ เพราะขืนนิ่งเงียบเหมือนเดิมต่อไป ความระส่ำระสายกันยิ่งบานปลายกันไปใหญ่ บรรดาแกนนำ อดีต ส.ส.ที่กำลังชั่งใจครุ่นคิดถึงอนาคตการเมือง อาจชิ่งหนีตีจากตำบลกระสุนตก
ชั่วโมงนี้ปี่กลองการเมืองเริ่มดังขึ้นมาแผ่วๆ แล้ว นักการเมืองจมูกไวรู้ดีกว่าใคร ประเมินว่าเลือกตั้งไม่ปลายปี 2561 ก็ไม่น่าจะเกินปี 2562 เพราะเชื่อว่า คสช. คงยื้อไว้ไม่ไหวอีกแล้ว เนื่องเพราะหลายปัจจัยมันบีบรัด โดยเฉพาะการเป็นรัฐบาลรัฐประหาร นานาชาติไม่ยอมรับ ทำมาค้าขายลำบาก ลากยาวไกลเกินกว่านี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อคสช.เอง เศรษฐกิจปากท้องทุกวันนี้ก็เห็นกันชัดๆ ยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งตายซาก ยิ่งคนในคสช. หมายมั่นปั้นมือจะสืบอำนาจ ลงสนามการเมืองต่อ คงไม่อยากเสียแต้มช่วงท้ายรัฐบาล
เห็นกันจะๆ ครม.สัญจรถี่ยิบ อีสานไม่ทันไรก็มาภาคกลาง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ติดอกติดใจกับรายการลงพื้นที่พบชาวบ้าน สนุกสนานสำราญใจ หนำซ้ำยังทำเหมือนรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ที่อัดงบแจกโปรเจกต์เมื่อลงพื้นที่ หวังซื้อใจกันยาวๆไปถึงเลือกตั้งคราวหน้า ลีลาชักเหมือนนักการเมืองเข้าไปทุกที
นอกจากนี้ยังเห็นปฏิบัติการปลาไหลเลื้อยเข้ามาคลอเคลีย ทอดสะพานกันเต็มที่ แบะท่าพร้อมร่วมรัฐบาลกับคสช. พรรคการเมืองนี้ช่ำชองในการเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่สมัย “หลงจู๊”บรรหาร ศิลปอาชา เชี่ยวชาญในการเล่นการเมืองซีกรัฐบาลอย่างมาก และได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลแทบทุกครั้ง เพราะเป็นฝ่ายค้าน “มันอดอยากปากแห้ง”ดังนั้นจึงรู้ทิศทางลม วางตำแหน่งตัวเองให้สามารถถูกเรียกไปร่วมรัฐบาลได้แทบทุกคราครั้งไป
ชั่วโมงนี้ถือเป็นชั่วโมงทำแต้มของ“บิ๊กตู่”และคณะ เพราะอยู่ในช่วงคลื่นลมสงบ เดินเครื่องแม่น้ำ 5 สายกันได้อย่างเต็มที่ กำหนดเกม คอนโทรลทุกอย่างได้ แม้กระทั่งวันเลือกตั้ง
ตอนนี้ไม่มีตัวช่วงชิงเรตติ้งคะแนนนิยม ไม่มีสิ่งหน่วงรั้งสำคัญอย่าง “ยิ่งลักษณ์”ที่จำต้องหนีไปต่างแดนแล้ว จึงออกงิ้ว ออกแขก กันได้เต็มที่ บรรดาลิ่วล้อ ลูกหาบ เครือข่ายพรรคเพื่อไทย ก็ดูเงียบๆ เหงาๆ ไป ไม่กล้าออกมาเล่นเกมแรง กระแทกคสช. กันแบบโต้งๆ เพราะเห็นตัวอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-บุญทรง เตริยาภิรมย์-ภูมิ สาระผล แล้วก็หนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน
อีกทั้งคสช.ยังปรับแต่ง กระชับกฎหมายให้เข้มข้นขึ้นไปอีกดีกรี บรรยากาศน่าหวาดผวาสุดๆ สำหรับเครือข่ายเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ขยับพลาดนิดเดียวมีสิทธิ์ติดคุกติดตารางกันเลย
เป็นนาทีทองของรัฐบาลคสช.อย่างแท้จริง ลุยโชว์ผลงาน หว่านโปรเจกต์ อนุมัติงบกันช่วงท้ายเทอมอย่างเต็มที่ ยิ่งเป็นรัฐบาลพิเศษอยู่แล้ว ทำอะไรก็สะดวก ทั้งยังมี มาตรา 44 อนุมัติฉับไวไม่ต้องเซ็นนั่น เซ็นนี่ ตรวจสอบกันให้มากพิธี
งานนี้นักการเมืองได้แต่นั่งมองตาปริบๆ กัดฟันกรอดๆ ปล่อยให้คู่แข่งทำคะแนนกันเพลินเพียงฝ่ายเดียว ตัวเองยังไม่สามารถเปิดหน้าเล่นได้ เพราะ คสช.ยังไม่ปลดล็อก และก็ยังมีกฎหมายเข้มๆ ปรามเอาไว้อย่างแน่นหนา จึงไม่มีใครกล้าเสี่ยง
วิเคราะห์อนาคตการเมืองของคสช.แล้ว ยังไม่แน่ชัดว่าจะออกมาในร่างทรงแบบไหนในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะมีพรรคใหม่ของตัวเอง หรือจะแฝงตัวไปหนุนพรรคการเมืองพรรคไหน แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ การต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยในสนามเลือกตั้ง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่แน่ ยังเป็นคำถาม จะสู้กันหรือร่วมมือกัน ?
ดูลีลาอาการของ“บิ๊กตู่”ยามนี้ชัดเจนว่าขอเป็นหนึ่งในตัวเลือกนายกรัฐมนตรีแน่!!!
แต่พรรคไหนจะเสนอชื่อ หรือไปหามเสลี่ยงมาในฐานะคนนอก ชอยส์ก็มีแค่นั้น ตอนนี้ต้นทุนหน้าตักมีแล้ว 250 เสียง จาก 250 ส.ว.ลากตั้ง ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ 2560 คสช.เลือกมาทั้งนั้น ก็ต้องไปตามหาเสียงในส่วนของส.ส. อีกจำนวนหนึ่ง พรรคขนาดกลางขนาดเล็ก ตอนนี้เห็นอาการกันไปแล้ว จากชาติไทยพัฒนา เมื่อกวาดสายตาไปดูพรรคอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกัน พรรคภูมิใจไทย ชาติพัฒนา พลังชล พร้อมร่วมรัฐบาลกับ คสช.อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา ยิ่งกติการัฐธรรมนูญ 2560 เอื้อให้พรรคขนาดกลางขนาดเล็กแล้ว ก็ยิ่งเข้าล็อก คสช. น่าจะเป็นหวยล็อกกันมาแล้ว
การควบรวมพรรคกลางพรรคเล็ก คือภารกิจหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะได้คะแนนเสียงเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งไม่ใช่งานยากของคสช. การบ้านที่จะต้องทำก็คือ การต่อสู้ ล้มล้างกระแสพรรคเพื่อไทย หรือถ้ามั่นใจก็ต้องรวมพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปด้วย ที่ต้องโค่นล้ม
ตอนนี้คสช.มี “เทพเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนั่งร้าน หาเก้าอี้มาเสริม แต่ดูแล้วลำพังเทพเทือก และกปปส. แยกมาตั้งพรรคใหม่ ลงสนามเลือกตั้งคงได้เสียงไม่เท่าไหร่ ต้องไปต่อสู้ห้ำหั่นกับพรรคประชาธิปัตย์เอง ดูแล้วยังเป็นรองหลายช่วงตัว หากคิดจะไปแชร์เก้าอี้ ส.ส.มา
สรุปสุดท้ายก็คงต้องใช้บริการพรรคประชาธิปัตย์เจ้าเก่า ที่มักจะมาเป็นรัฐบาลหลังการรัฐประหาร เพราะเป็นพรรคขนาดใหญ่ อะไหล่ชั้นดี ต่อยอดการคืนสู่อำนาจได้แน่
หมากเกมนี้ ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ชั่วโมงนี้ดูเชิงลองใจกันอยู่ แต่สุดท้ายคงหนีไม่พ้นได้ร่วมหอลงโรงกัน คสช. ถือแต้มต่อเลือกได้หลายสูตร รวมทุกพรรคเป็นรัฐบาล อ้างเป็นรัฐบาลปฏิรูป รัฐบาลแห่งชาติ เหลือพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวไม่ร่วม ก็ก่นด่าสาปแช่งได้อีก หรือถ้าเสียงเยอะแล้ว ก็สามารถเลือกเขี่ยทิ้งพรรคขนาดกลางขนาดเล็ก ที่ออกลูกงอแง ทิ้งไปได้ สำคัญคือ คุยกับประชาธิปัตย์ให้รู้เรื่อง ทุกอย่างก็จบ
ตอนนี้เดินหน้าหาเสียงทำแต้มให้ตัวเองไปก่อน จับพลัดจับผลู เรตติ้งถล่มทลายขึ้นมา อาจไม่ต้องง้อประชาธิปัตย์ก็ได้ ทำเป็นล้อเล่นไป !!!