xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาเกาหลีเหนือมี “ระเบียบโลก” เป็นเดิมพัน!!!

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือ
สงสัยวันนี้...คงต้องเปิดฝาเข่ง ไปดูต่างประเทศกันอีกรอบ ด้วยเหตุเพราะดันเกิดเรื่องใหญ่ เรื่องโต ชนิดเล่นเอาแผ่นดินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปเป็นแถบๆ คือแผ่นดินอันเป็นที่อยู่ ที่อาศัยของ “คิมน้อย” เค้านั่นแหละ จู่ๆ ก็เกิดอาการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวสั่นระรัวๆ สามารถตรวจวัดจากเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหวคำนวณเป็นระดับความแรงได้ถึง 6.3 แมกนิจูด เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ประมาณซักเที่ยงกว่า ตามเวลาในประเทศเกาหลีเหนือ...

แรกๆ ใครต่อใครอาจคิดๆ ไปว่า...เทพเจ้าโพไซดอนท่านอาจหมั่นไส้ทรงผม “คิมน้อย” อะไรประมาณนั้น คืออาจมองเป็นเรื่องของภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่หลังจากศูนย์ตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหวแต่ละจุด ไม่ว่าในเมืองจีน เช่นที่ศูนย์มุนดันเจียง (Mudanjiang) จังหวัดเฮยหลงเจียง (MDJ) หรือศูนย์สำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ลองเอาเส้นกราฟมาพลิกไปพลิกมา ต่างพบว่า...ช่วงความกว้าง หรือแอมพลิจูดของคลื่น “P-Wave” นั้น มันออกจะผิดปกติไปจากแผ่นดินไหวโดยธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่ทันได้เสียเวลาเถียงกันไปเถียงกันมาว่า “แผ่นดินไหวเทียม” ที่ว่า มันมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่!!! อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ของทางการเกาหลีเหนือ ได้ออกมาตอบข้อข้องใจให้สิ้นสงสัยกันไปซะที ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวคราวนี้ ก็คือการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือ ซึ่งประสบความสำเร็จลงไปอย่างงดงามและขนลุกขนพอง...

แต่แม้ว่าสิ้นสงสัย...ยังไงๆ มันคงไม่สิ้นเรื่อง สิ้นราว เอาง่ายๆ ตรงกันข้าม...กลับทำให้อะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวอยู่แล้ว ยิ่งต้องกลายเป็นเรื่องเป็นราวหนักขึ้นไปใหญ่ เรียกว่า...ไม่ว่าเตือนก็แล้ว ขู่ก็แล้ว คำรามก็แล้ว แต่มิอาจลดความเปรี้ยวของ “คิมน้อย” เขาได้เลย ขนาดเพิ่งยกตีนลูบหน้า “ทรัมป์บ้า” ไปหมาดๆ ยิงขีปนาวุธข้ามหัวญี่ปุ่นไปตกแถวๆ ฝั่งแปซิฟิก แถมพร้อมจะยืดให้ยาวไกลไปถึงฐานทัพสหรัฐฯ ในเกาะกวมอีกต่างหากแต่ไม่ว่า “Fire and Fury” ก็แล้ว “Locked and Loaded” ก็แล้ว...บรรดาคำพูด คำจา ของ “ประมุขโลก” อย่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับแทบไม่ต่างอะไรไปจากการ “ระบายลมผ่าน” ไม่สามารถก่อให้เกิดความสะดุ้งสะเทือนต่อ “คิมน้อย” เอาเลยแม้แต่น้อย...

อันนี้นี่แหละ...ที่มันคงต้องเป็นเรื่องเป็นราว หรือคงต้องมีเรื่องมีราวต่อไป อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ แต่ครั้นจะเปลี่ยนจากคำพูด หันมาไล่ถีบ ไล่กระทืบ กันแทนที่ ก็อย่างที่ว่าเอาไว้วันวานนั่นแหละว่า สำหรับ “ทรัมป์บ้า” แล้ว...แค่ต้องรบกับผู้คนในประเทศตัวเอง ก็...ตายแล้ว!!! หรือไม่ได้อยู่ในวิสัยที่จะหันไปใช้ “ทางเลือกทางทหาร” แม้เป็นทางเลือกที่วางเอาไว้บนโต๊ะมาโดยตลอด หรือแม้จะออกมาทวีตครั้งล่าสุดว่า “การพูดจากับเปียงยาง...ไม่ใช่คำตอบ” ก็ตาม แต่โอกาสที่จะชวนให้ใครต่อใครเห็นดี เห็นงามกับการรุมยำมือ ยำตีน “คิมน้อย” กันอย่างเป็นระบบและเป็นกิจการ ก็ออกจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ กันซักเท่าไหร่นัก...

พูดง่ายๆ ว่า...แม้กระทั่งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ที่ต้องมีส่วนได้-ส่วนเสียโดยตรงกับการเล่นงาน “คิมน้อย” ยังอดแหยงๆ ขึ้นมามิได้เพราะโอกาสที่จะ “แพ้ไปด้วยกันทุกฝ่าย” ยิ่งเห็นถนัดชัดเจนยิ่งขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะเมื่อหลับตานึกภาพบรรดาขีปนาวุธแต่ละชนิด ไม่ว่าระดับ SRBM, MRBM, IRBM หรือ ICBM (ซึ่งจะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตามแต่) ของเกาหลีเหนือซึ่งอาจ “ติดหัวรบนิวเคลียร์” ได้ทุกเมื่อ แค่นี้...ก็หนาวว์ว์ว์แล้ว!!! ด้วยเหตุนี้...การพูดคุยเจรจา ก็ยังคงต้องถือเป็น “ทางเลือก” ที่ไม่มีใครอยากจะปฏิเสธ แม้กระทั่งบรรดาชาติยุโรปที่เคยเป็นพันธมิตรเคียงบ่า-เคียงไหล่กับอเมริกามาโดยตลอด ถึง “ทรัมป์บ้า” ทำท่าว่าอยากจะปฏิเสธซะเต็มทีก็ตาม...

อย่างที่ประธานาธิบดี “ปูติน” แห่งรัสเซีย...ได้ออกมาเตือนๆ เอาไว้เมื่อไม่กี่วันมานี้นั่นแหละว่า กรรมวิธีในการแก้ปัญหาเกาหลีเหนือของอเมริกานั้น กำลังนำไปสู่ “ทางตัน” (Dead-End Road) ด้วยเหตุผลแบบเรียบๆ-ง่ายๆ แต่ตรงไป-ตรงมาประมาณว่า “เพราะความพยายามสร้างแรงกดดันเพื่อให้เกิดการหยุดทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนั้น คือแนวทางที่ผิดและหาประโยชน์อะไรไม่ได้” อีกทั้งถ้ายังคิดจะดันกันไป-ดันกันมาต่อไปเรื่อยๆ แต่ละฝ่ายย่อมตกอยู่ในสภาพไม่ต่างไปจากผู้ที่พยายามทรงตัว เลี้ยงตัว อยู่บริเวณริมๆ “ปากเหวแห่งความขัดแย้งครั้งใหญ่” นั่นเอง...

ด้วยเหตุนี้...ขณะที่ “ประมุขโลก” อย่างอเมริกา กำลังเจอกับ “ทางตัน” หรือกำลังออกอาการขี้คาตูดอยู่ ณ ขณะนี้ โลกทั้งโลกก็เลยหนีไม่พ้นต้องหันไปจับตา ปฏิกิริยาท่าทีของผู้นำจีน-ผู้นำรัสเซีย ซึ่งได้จังหวะโคจรมาเจอกันในการประชุมประเทศ กลุ่ม BRICS ที่เมืองจีนช่วงนี้พอดิบ พอดี และโดยคำประกาศร่วมกันของผู้นำทั้งสอง ที่ยืนยัน นั่งยัน แบบหัวเด็ดตีนขาดเอาไว้ประมาณว่า “การสร้างเสริมพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีนั้น...เป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง” แต่ภายใต้จุดยืนที่ว่านี้ ยังพอได้จุดประกายความหวังถึง “ทางเลือก” อื่นๆ ที่ไม่ใช่ “ทางเลือกทางทหาร” ด้วยถ้อยคำในแถลงการณ์ของทั้งฝ่ายจีนและรัสเซียที่ระบุเอาไว้ว่า... “นอกจากผู้นำทั้งสองเห็นพ้องต้องกันที่จะยึดเป้าหมายในการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์ ยังพยายามอาศัยการติดต่อที่ใกล้ชิดและการสร้างความร่วมมือ สำหรับการคลี่คลายสถานการณ์ใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น”...

เอาเป็นว่า...ไม่ว่าความหมายของคำว่า “การติดต่อที่ใกล้ชิด” จะเป็นอะไรกันแน่ รวมทั้งการหันมาใช้ “ความร่วมมือ” แทนการใช้ “แรงกดดัน” จะทำให้ทั้ง “คิมน้อย”และ “ทรัมป์บ้า” เกิดอาการ “หายบ้า” ได้บ้างหรือไม่ แต่งานนี้...ถ้าหากเกิดผลสำเร็จขึ้นมาเมื่อไหร่ อาจต้องเรียกว่า...กระบวนการสรรค์สร้าง “ระเบียบโลกแบบใหม่” ที่ไม่ใช่ระเบียบโลกซึ่งประมุขโลกอย่างอเมริกาเป็นผู้ออกแบบ น่าจะปรากฏรูปร่างให้เห็นชัดๆ เจนๆ จริงๆ จังๆ ขึ้นมาซะที....
กำลังโหลดความคิดเห็น