xs
xsm
sm
md
lg

ร้องปปช.เอาผิด"ตร.-อัยการ" ปล่อย"บอส กระทิงแดง"หนี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

"ศานิตย์"เผยตำรวจสากลออกหมายแดง สั่ง 190 ประเทศ ล่าตัว“บอส-กระทิงแดง”ขณะที่น้องชาย “ด.ต.วิเชียร”ตัดพ้อเจ้าหน้าที่ ไม่เร่งรัดจับกุม แถมปล่อยคดีชนแล้วหนี หมดอายุความวันนี้ พึ่งบารมีตำรวจไต้หวันจับกุม หลังพบความเคลื่อนไหวกบดานอยู่ ด้าน"ศรีสุวรรณ" ร้องป.ป.ช.เอาผิดตำรวจ-อัยการ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

วานนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทนักธุรกิจเครืองดื่มชูกำลัง ที่ก่อเหตุขับรถชนด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 ได้หมดอายุความลง อีก 1 ข้อหา ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร และไม่แจ้งเหตุแก่เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อหาดังกล่าว มีอายุความเพียง 5 ปี ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 3 ก.ย. ทำให้ นายวรยุทธ เหลืออยู่เพียงข้อหาเดียว คือ ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอายุความ 15 ปี

เรื่องนี้ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า การติดตามตัวนายวรยุทธ ขณะนี้ทางตำรวจสากลได้ออกหมายแดง เพื่อให้สมาชิก 190 ประเทศ ช่วยติดตามตัว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงข้อหา ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแล้วไม่หยุดช่วย หรือแจ้งพนักงานหรือชนแล้วหนี ซึ่งจะหมดอายุความว่า ยังคงมีข้อหาหนักที่ยังเหลืออยู่คือ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งยังเหลืออายุความอีก 10 ปี ส่วนที่มีการพูดถึงในลักษณะว่า เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหานั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำว่า หากใครมีเบาะแส ให้แจ้งมาได้ทันที

ด้าน นายพรอนันต์ กลั่นประเสริฐ พี่ชาย ด.ต.วิเชียร เปิดเผยว่า ทราบแล้วว่าข้อหาชนแล้วหนี จะหมดอายุความลง(3ก.ย.) ส่วนตัวรู้สึกเสียใจที่เจ้าหน้าที่ ไม่เร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิด ส่วนตัวจะไปเรียกร้องเจ้าหน้าที่ ให้เร่งดำเนินการก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่รู้ระเบียบและขั้นตอนกฎหมาย จึงอยากขอความเป็นธรรม ให้น้องชายที่เสียชีวิตไปเกือบ 5 ปีแล้ว แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าจนไม่สามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้

สำหรับตัวนายวรยุทธ ล่าสุดสำนักข่าวเอพีรายงานว่าหลบหนีอยู่ในประเทศไต้หวัน ซึ่งไต้หวัน ก็เป็นประเทศที่อยู่ในสมาชิกตำรวจสากล หากเจ้าหน้าที่ไต้หวันพบตัวก็สามารถจับกุมและเข้าสู่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ทันที

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คดีขับรถชนตำรวจตายกลางถนน เป็นคดีที่ไม่สลับซับซ้อนอะไร หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของสำนวน และอัยการจะเร่งรีบทำสำนวนส่งฟ้องคดีต่อศาล แต่กลับกลายเป็นการปล่อยให้ผู้ต้องหาหนีคดี จนเป็นกรณีอื้อฉาวระดับโลก และทำให้อย่างน้อย 4 ข้อหา หมดอายุความไปโดยผลของกฎหมาย

ดังนั้น ตนในฐานะเลขาธิการสมาคมฯ จะนำความไปยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้สอบสวน และดำเนินการเอาผิดกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล - ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้อง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ผู้ต้องหาในคดีอาญาหลบหนีออกนอกประเทศอันเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เป็นกรณีเยี่ยงอย่างที่ไม่ถูกต้อง จนกลายเป็นความเคยชินในสังคมไทย โดยตนจะไปยื่นคำร้อง ในวันนี้ (4 ก.ย.) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงาน ป.ป.ช.
กำลังโหลดความคิดเห็น