xs
xsm
sm
md
lg

อย่าเพิ่งคิดว่าการเมืองไทยหมดยุคทักษิณแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หนึ่งความคิด”
“สุรวิชช์ วีรวรรณ”

เสียงที่คนในสังคมเลื่องลือกันว่าปล่อยให้ยิ่งลักษณ์หนีจนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรัฐประหาร ต้องคร่ำครวญว่าตัวเองต้องตกเป็นจำเลยสังคมนั้น ไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอย่างไร เพราะใครๆ ก็รู้มาแต่ต้นจากปากของฝ่ายความมั่นคงเองว่าเกาะติดยิ่งลักษณ์ตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็หนีเล็ดลอดออกไปได้ จะให้คิดเป็นอย่างอื่นจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่ผู้มีอำนาจจะชี้แจงให้สังคมเชื่อได้หรือไม่

แต่ดูเหมือนว่าจนถึงวันนี้คำชี้แจงยังไม่สามารถคลายข้อสงสัยได้เลย ออกไปทางปัดๆไปให้พ้นตัวมากกว่า เช่นว่าชายแดนไทยมีความยาวกว่า5,000กิโลเมตร ยิ่งลักษณ์มีรถหลายคันมีบ้านหลายหลัง

หลังยิ่งลักษณ์หนีคดีมีสื่อหลายฉบับวิเคราะห์กันว่าหมดยุคของตระกูลชินวัตรแล้ว บางคนบอกว่าตอนนี้ คสช.ถือแต้มต่อเยอะเพราะยังมีคดีกรุงไทยที่จ่อคอลูกโอ๊ค พานทองแท้อยู่ ทักษิณไม่น่าที่จะกล้าเสี่ยงเอาตัวลูกชายมาเดิมพัน

คดีกรุงไทยนั้นผู้ต้องหาจำนวนหนึ่งถูกตัดสินจำคุกไปแล้ว แต่ส่วนที่พัวพันกับพานทองแท้นั้น อัยการสูงสุดเคยมีคำสั่งไม่ฟ้องไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2555 แต่ต่อมา ปปง.ได้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่เพราะมีหลักฐานว่ามีการโอนเงินผ่านบัญชีของพานทองแท้ ในทางคดีนั้นมีการประชุมร่วมระหว่าง ปปง.กับดีเอสไอเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 แต่ยังไม่ชี้ชัดว่าจะดำเนินคดีกับพานทองแท้หรือไม่

ดูเหมือนคดีจะยังหยุดอยู่แค่นั้น จนมีการวิเคราะห์กันว่าอาจถูกเก็บเอาไว้เป็นเครื่องมือต่อรองกับทักษิณนั่นเอง
แต่ถามว่าการเมืองไทยหลังจากนี้จะหมดยุคของชินวัตรจริงหรือ เพราะนอกจากดูเหมือนว่าทักษิณจะถูกล็อกไม่ให้ขยับแล้ว กลไกรัฐธรรมนูญและพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติที่วางเอาไว้ดูเหมือนจะเป็นใจให้กับทาง คสช.เกือบหมดแม้จะกลับไปเลือกตั้งก็ตาม เพราะทั้ง ส.ว.250เสียง กรรมการยุทธศาสตร์ชาติ กรรมการปฏิรูปประเทศที่ คสช.ตั้งมากับมือซึ่งจะบังคับให้รัฐบาลต้องเดินตามไม่นั้นจะถูก ป.ป.ช.ถอดถอนทันที

ที่น่าสนใจคือพรรคเพื่อไทยของทักษิณจะมีชะตากรรมอย่างไรหลายคนถามว่าทักษิณเป็นนักลงทุนเมื่อเขาเห็นว่าธุรกิจการเมืองตัวนี้ไม่คุ้มทุนแล้วเขาจะเอาเงินมาลงทุนหรือไม่ มีทั้งคนวิเคราะห์ว่า ศึกนี้เป็นศึกศักดิ์ศรีของทักษิณไปแล้วยังไงเขาต้องสู้ต่อ แต่อาจจะเปลี่ยนจากการออกหน้ามาท้าชนเปลี่ยนไปเป็นสนับสนุนแบบลับๆ โดยมีเป้าหมายยึดอำนาจกลับมาให้ได้ เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ของทักษิณได้

บางคนบอกว่าทักษิณน่าจะยอมแล้ว ไม่มีความจำเป็นจะต้องเอาชีวิตคนในครอบครัวคนอื่นมาเสี่ยงอีก และทักษิณยังมีธุรกิจในเมืองไทยอีกมาก การไปของปูที่หลุดรอดการติดตามของฝ่ายความมั่นคงไปได้อย่างมหัศจรรย์นั้นนั่นแหละที่น่าจะเป็นเงื่อนไขให้ทักษิณเลือกทางนี้

แต่ส่วนตัวผมยังเชื่อว่าทักษิณอาจจะไม่ลงทุนเต็มตัว แต่น่าจะยังแอบสนับสนุนอย่างลับๆ ต่อไปทั้งกลุ่มเคลื่อนไหวบนดินและใต้ดิน สิ่งหนึ่งเพราะเขาเชื่อว่ามวลชนยังไม่เปลี่ยนใจไปจากเขา ส่วนกลุ่มใต้ดินพวกล้มระบอบนั้นเชื่อว่าทักษิณยังต้องแตะมือไว้ พวกนี้อาจไม่ต้องใช้เงินมากเพราะพวกนี้มีอุดมการณ์ของตัวเองที่จะเดินไปทางนี้อยู่แล้วแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและยังต้องใช้มวลชนของทักษิณมาเป็นฐาน

เชื่อกันว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยของทักษิณก็ยังได้เสียงข้างมาก เพราะ คสช.ยังไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติมวลชนคนเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณได้เลย มีแต่สร้างความโกรธแค้นและรอวันจะเอาคืนผ่านหีบเลือกตั้งเท่านั้นเอง ทักษิณเองก็คงคำนวณออกว่า จากกติกาในรัฐธรรมนูญ2560 ถ้าเขาได้ที่นั่ง ส.ส.เกิน250คนหรือสามารถรวบรวมพรรคเล็กพรรคน้อยได้เกิน250คน อำนาจต่อรองจะพลิกมาอยู่กับฝั่งเพื่อไทยทันที และถ้าเขารวบรวมเสียงได้375เสียงขึ้นไป ฝันในการสืบทอดอำนาจของคสช.ก็จะดับวูบทันที แม้จะมี 250ส.ว.อยู่ในมือก็ตาม

เพราะถึงวันนั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เกิน250เสียงแล้วอยากให้การตั้งรัฐบาลเดินไปได้ก็ต้องง้อพรรคเพื่อไทยของทักษิณไม่เช่นนั้นการเมืองไทยจะเดดล็อคเดินหน้าต่อไปไม่ได้

จากเกมที่ปล่อยให้ยิ่งลักษณ์ไปอย่างที่เขาร่ำลือกันเราก็อาจจะเห็นในสิ่งที่ไม่คาดฝัน พรรคของทักษิณอาจใช้คนที่คุยกับ คสช.ได้มานำพรรคกลายเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงก็ได้ถ้าได้เสียงส.ส.มาตามเป้าหมายที่ว่ามา เพราะอย่าลืมว่ายุทธศาสตร์สำคัญของคสช.ก็คือความมั่นคงของประเทศ ถึงวันนั้นก็อาจคิดว่า แมวสีอะไรก็ได้ขอให้จับหนูได้ก็พอ คนที่เคยเป่านกหวีดก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้บ้าง

ถ้าจำกันได้หลังรสช.ยึดอำนาจเมื่อปี 2549 เปลว สีเงิน คอลัมนิสต์คนดังก็วิเคราะห์ว่า ทักษิณจบแล้ว มีแต่ผีทักษิณที่เอามาหลอก แถมยังด่าว่า กลุ่มคนที่ยังเคลื่อนไหวต่อต้านระบอบทักษิณว่าหยุดได้แล้วพอแล้วทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย สุดท้ายก็ยังที่เห็นมาว่าเรายังต้องต่อสู้กับระบอบทักษิณมาจนถึงวันนี้

เมื่อรัฐบาลของทักษิณกลับมามีอำนาจเพราะชนะเลือกตั้งหลังรสช.ยึดอำนาจ เปลี่ยนตัวเล่นมาเป็นสมัคร-สมชาย-ยิ่งลักษณ์ จะเห็นว่า ระบบมันก็เดินไปทหารก็หันกลับมาพินอบพิเทารัฐบาลในตอนนั้น ลองนึกดูภาพของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาที่เดินตามหลังสมัคร หรือภาพของพล.อ.ประยุทธ์ที่เคียงข้างกับยิ่งลักษณ์นั่นแหละที่เป็นคำตอบ

ที่สำคัญต้องดูว่าหลังจากนี้รัฐบาลต่างประเทศเปิดรับยิ่งลักษณ์อย่างไร แม้ว่าเราบอกว่านี่เป็นเรื่องของบ้านเราไม่ต้องไปสนใจต่างประเทศ แต่ถ้าเขาเปิดรับยิ่งลักษณ์น้ำหนักและความชอบธรรมในทางสากลจะถูกฝ่ายทักษิณหยิบมาเคลื่อนไหวเพื่อปลุกปั่นคนในชาติทันทีว่ารัฐบาลนั้นไม่ชอบธรรม แม้จะเลยไปถึงการเลือกตั้งใหม่พวกเขาก็อาจ พูดได้อีกว่ามีการเขียนกติกาขึ้นมาสืบทอดอำนาจเป็นเพียงประชาธิปไตยครึ่งใบ ถ้าจะลดแรงเสียดทานตอนนั้นก็อาจจะจับมือกันเสียก็ได้

ตอนนี้ฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลทหารต่างออกมาชื่นชมว่า เป็นยุทธวิธีที่ฉลาดที่ปล่อยให้ยิ่งลักษณ์หลบหนีไป เพราะถ้าศาลตัดสินออกมาไม่ว่าผิดหรือถูกก็จะเป็นประโยชน์สำหรับพรรคเพื่อไทยมากกว่า

แต่ไม่ว่าผลจะออกทางไหนก็ตามผมเชื่อว่าความแตกแยกทางความคิดของคนไทยซึ่งกลายเป็นความเชื่อในเชิงอุดมการณ์ไปแล้วนั้นก็จะยังคงอยู่ แต่สำหรับผมความแตกต่างจากความเชื่อต่างอุดมการณ์ไม่ใช่เรื่องแปลกในระบอบประชาธิปไตย และการเมืองก็เป็นเรื่องที่ต่อสู้กันในเชิงของกลุ่มผลประโยชน์ต่างขั้วอยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงคิดว่า การต่อสู้ระหว่างคนสองฟากฝั่งของสังคมไทยจะดำเนินต่อไป

ลองคิดดูว่าถ้าพรรคเพื่อไทยของทักษิณได้เสียงข้างมากพลิกมาจับมือกันตั้งรัฐบาลกับขั้วอำนาจตอนนี้ มวลชนอีกฟากก็คงจะยอมไม่ได้ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากจากการเลือกตั้งแม้ไม่ถึงครึ่ง แต่เป็นฝ่ายค้าน ความฮึกเหิมของมวลชนและแนวร่วมของพรรคเพื่อไทยคือคนเสื้อแดงก็จะยังมีพลังพอที่จะสร้างความวุ่นวายให้รัฐบาลใหม่ได้ การเคลี่อนไหวก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น อย่าลืมนะครับว่าถึงตอนนั้นรัฐบาลจะไม่มีมาตรา44และกระบอกปืนมาข่มขู่แล้ว แม้จะมีกองทัพหนุนหลังอยู่ก็ตาม

ดังนั้นอย่าคิดว่าจะเป็นไปได้ถ้าผลการเลือกตั้งออกมา พรรคเพื่อไทยมีเสียงส.ส.อยู่ในมือ มีมวลชนเป็นเสียงข้างมากของประเทศอำนาจทหารที่วันนั้นขาลอยแล้วแม้จะมีกลไกตามพรบ.ยุทธศาสตร์ชาติ มีส.ว.ในมือ250คน เขาอาจจะคิดในเชิงยุทธศาสตร์เรื่องความมั่นคงร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลก็ได้ ต้องรอดูว่า พรรคเพื่อไทยจะจัดคนมานำพรรคแบบที่ทหารรับได้หรือไม่เท่านั้นเอง

แต่การเมืองก็ย่อมมีอะไรที่พลิกผันได้ ต้องจับตาดูว่า ถ้าทหารยังเล่นเกมบีบคั้นนักการเมืองและถ้าปล่อยให้เดินไปตามเกมของทหาร นักการเมืองก็จะถูกกันออกมาจากอำนาจหลังเลือกตั้งไปอีกอย่างน้อย2สมัยคือ8ปี ถ้ารวมกับที่รัฐบาลประยุทธ์อยู่มาจนถึงวันเลือกตั้งอีก4ปีก็เป็น12ปี ถ้านักการเมืองเขาไม่อยากเป็นอะไหล่ของทหาร เขาก็อาจจะจับมือกันก็ได้ เพราะอย่างที่ว่าไว้ถ้าหลังเลือกตั้งแล้วนักการเมืองจับมือกันได้375เสียงยืนยันจะเอานายกฯจากรายชื่อที่พรรคเสนอ ก็ปิดประตูสำหรับนายกฯคนนอกเลย

เพียงแต่หนทางที่เป็นไปได้มากที่สุดแต่ไม่ง่ายที่ส.ส.จะรวมกันได้375เสียงขึ้นไปก็คือ พรรคเพื่อไทยต้องจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์

ไม่มีใครคิดหรอกว่าการเล็ดลอดออกไปได้ของยิ่งลักษณ์จะเป็นเรื่องธรรมดา การเมืองมีความลึกซึ่งมากกว่าที่คิด ในท่ามกลางการแช่งชิงอำนาจหลังฉากก็มีการต่อรองกันไปด้วย ประชาชนเป็นเพียงหมากเบี้ยที่เขาเดินไปให้ฝ่ายตรงข้ามกิน ดังนั้นอย่าเพิ่งตายใจเลยว่า ตระกูลชินวัตรของทักษิณนั้นปิดฉากลงไปแล้ว

 
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan

กำลังโหลดความคิดเห็น